พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2549
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียภาษีโรงเรือนสำหรับพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และการพิจารณาการยกเว้นภาษีสำหรับผู้แทนที่พักอาศัย
โรงเรือนพิพาทของโจทก์เป็นตึกแถว 2 คูหา 4 ชั้น โจทก์นำตึกแถวชั้นที่ 1 ให้ผู้อื่นเช่าทำการค้า ส่วนชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 โจทก์ให้ ว. กรรมการผู้จัดการโจทก์พักอาศัย ส่วนชั้นที่ 4 ปิดไม่ได้ทำประโยชน์ ค่ารายปีที่จะนำมาคำนวณเป็นภาษีโรงเรือนจึงสามารถคำนวณได้จากพื้นที่ของแต่ละส่วนที่โจทก์ใช้ประโยชน์ได้ และส่วนใดจะได้รับยกเว้นการเสียภาษีโรงเรือนตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 นั้น จะต้องพิจารณาเป็นส่วน ๆ ไป การที่ ว. ซึ่งเป็นผู้แทนโจทก์อยู่ในอาคารนี้จึงเป็นการพักอาศัยมิใช่เป็นการอยู่โดยโจทก์ให้อยู่เฝ้ารักษา เพราะการอยู่เฝ้ารักษาตามความหมายแห่งมาตรา 10 ใน พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 จะต้องเป็นการอยู่เฝ้าจริง ๆ ไม่ใช่เป็นการพักอาศัยอยู่กับครอบครัว เมื่อการอยู่ของ ว. ไม่ใช่การอยู่เฝ้ารักษา โจทก์จึงไม่ได้รับการยกเว้นการเสียภาษีตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4069/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นภาษีโรงเรือนสำหรับพื้นที่ที่ใช้เป็นที่พักอาศัยของผู้แทน และการพิจารณาประโยชน์ที่แท้จริงในการประกอบธุรกิจ
บริษัทโจทก์เป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา โดยให้บริษัท ซ. เช่าพื้นที่ชั้นล่างบางส่วนและชั้นลอยบางส่วน กับโจทก์ใช้พื้นที่ชั้นล่างบางส่วนทำเป็นสำนักงานของโจทก์ ส่วนพื้นที่ชั้น 2 และชั้น 3 โจทก์ให้ ว. กรรมการของโจทก์พักอาศัยส่วนชั้นที่ 4 ปิดว่างไว้ ดังนั้น พื้นที่ชั้น 2 และชั้น 3 จึงมิใช่พื้นที่ที่โจทก์ใช้เป็นที่ไว้สินค้าหรือประกอบอุตสาหกรรม ส่วนการที่ ว. พักอาศัยในพื้นที่ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์ให้ผู้แทนเฝ้ารักษาอาคาร แม้ว่าผู้แทนนั้นจะได้รับความสะดวกจากการอยู่อาศัยแต่ก็มิใช่เป็นการอยู่เพื่อดูแลผลประโยชน์ในการประกอบธุรกิจของโจทก์โดยแท้ เพราะโจทก์มีสำนักงานอยู่ที่ชั้นล่างบางส่วนสำหรับให้บริษัท ซ. สามารถติดต่อกับโจทก์ได้โดยตรงอยู่แล้วโจทก์จึงได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีโรงเรือนในพื้นที่อาคารชั้น 2 และชั้น 3 ตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ มาตรา 10
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5592/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการให้ที่พักอาศัยแก่คนต่างด้าว ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.คนเข้าเมือง หากไม่มีเจตนาให้พ้นจากการจับกุม
การกระทำที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง ผู้กระทำจะต้องให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
พ.กับอ. เป็นคนต่างด้าวสัญชาติพม่าเป็นลูกจ้างส่งน้ำแข็งที่ร้านของจำเลย แม้จำเลยให้บุคคลทั้งสองพักอาศัยที่บ้านของจำเลยแต่จำเลยมีเจตนาให้บุคคลทั้งสองทำงานให้จำเลยเท่านั้น หาได้มีเจตนาเพื่อให้บุคคลทั้งสองพ้นจากการจับกุมไม่ เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสืบให้เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาให้ พ.กับอ. พ้นจากการจับกุมพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง
พ.กับอ. เป็นคนต่างด้าวสัญชาติพม่าเป็นลูกจ้างส่งน้ำแข็งที่ร้านของจำเลย แม้จำเลยให้บุคคลทั้งสองพักอาศัยที่บ้านของจำเลยแต่จำเลยมีเจตนาให้บุคคลทั้งสองทำงานให้จำเลยเท่านั้น หาได้มีเจตนาเพื่อให้บุคคลทั้งสองพ้นจากการจับกุมไม่ เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสืบให้เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาให้ พ.กับอ. พ้นจากการจับกุมพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6908/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในความเสียหายของที่พักอาศัย:ภาระการพิสูจน์ของโจทก์
ประกาศมหาวิทยาลัยเรื่องข้อพึงปฏิบัติสำหรับผู้พักอาศัยในที่พักของมหาวิทยาลัยเป็นเพียงข้อที่ผู้เข้าอยู่อาศัยควรปฏิบัติตาม ถ้าไม่ปฏิบัติตามและพิสูจน์ได้ว่าผู้เข้าอยู่อาศัยกระทำให้ที่พักหรืออุปกรณ์เสียหาย ต้องรับผิดชอบในความเสียหายนั้น คดีนี้แม้ฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองบ้านที่เกิดเหตุ และขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ไม่มีผู้ใดอยู่ในบ้าน แต่เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวบ้าน กฎหมายมิได้วางบทสันนิษฐานล่วงเลยไปให้เป็นโทษแก่จำเลยผู้ครอบครองเรือนต้องรับผิดในความเสียหาย โจทก์จึงมีภาระการพิสูจน์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 84 ประกอบป.พ.พ. มาตรา 420
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิสวัสดิการที่พักอาศัยของลูกจ้างเป็นส่วนหนึ่งของสภาพการจ้าง อยู่ในอำนาจศาลแรงงาน
การที่นายจ้างจัดห้องพักให้ลูกจ้างเข้าอยู่อาศัย เป็นการให้สวัสดิการแก่ลูกจ้าง อันเป็นสภาพการจ้างอย่างหนึ่ง ดังนั้นเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างประจำของโจทก์ว่า โจทก์ให้จำเลยเข้าอยู่อาศัยในห้องพักคนงานโดยมีเงื่อนไขว่าจำเลยต้องออกจากห้องที่อยู่อาศัยเมื่อโจทก์ต้องใช้สถานที่ และโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบว่าโจทก์ต้องการใช้ห้องที่ทำงานอยู่อาศัยเพื่อกิจการอื่น แต่จำเลยไม่ยอมออกไป โจทก์จึงเลิกจ้างแล้วฟ้องขับไล่จำเลย จึงถือได้ว่าเป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 8(1)อันอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางที่จะพิจารณาพิพากษา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การช่วยเหลือผู้ต้องหา – ความผิดตาม ม.189 เจ้าพนักงานไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อหา
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 นั้น เจ้าพนักงานผู้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดหาจำต้องแจ้งแก่ผู้ให้ที่พำนักซ่อนเร้นทราบว่าผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดได้กระทำความผิดฐานใด เพียงแต่แจ้งให้ทราบว่าบุคคลที่ตนให้ที่พำนักซ่อนเร้นเป็นผู้กระทำผิดก็พอแล้ว ส่วนจะเป็นความผิดฐานใดนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้องและนำสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลาย: ที่พักอาศัยและการมีหนี้สินล้นพ้นตัว
จำเลยไม่ใช้หนี้โจทก์และเจ้าหนี้อื่น กับไม่ปรากฏว่าจำเลยมีทรัพย์สมบัติเท่าไรแน่ดังนี้สันนิษฐานว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวได้. ในคดีล้มละลายโจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่จังหวัดพระนคร เมื่อจำเลยต่อสู้ว่ามีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดอื่น โจทก์สืบว่า พักอยู่ในจังหวัดพระนครและประกอบธุระกิจในจังหวัดพระนครได้ ไม่เป็นการสืบนอกประเด็น.