คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทุนรัฐบาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1878/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในสัญญาค้ำประกันทุนรัฐบาลต่างประเทศ – ความเสียหายระหว่างปฏิบัติราชการ
เงินทุนของรัฐบาลมาเลเซียซึ่งจำเลยที่ 1 ได้รับโดยตรงจากประเทศมาเลเซีย เป็นเงินทุนของการให้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล และถูกควบคุมดำเนินการโดยทางราชการตามระเบียบ มิใช่เป็นเรื่องจำเลยที่ 1 ได้รับทุนเป็นส่วนตัวและทุนดังกล่าวเป็นทุนที่รัฐบาลต่างประเทศมอบให้รัฐบาลไทยเพื่อส่งข้าราชการไปศึกษา ฝึกอบรม ทั้งนี้ไม่ว่าทุนนั้นจะจ่ายผ่านกระทรวงหรือจ่ายให้ผู้รับทุนโดยตรง
กรณีที่จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาเกี่ยวกับการใช้ทุน ความเสียหายดังกล่าวเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างจำเลยที่ 1 ปฏิบัติราชการอยู่และอยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบตามสัญญาค้ำประกันที่จำเลยที่ 3 จะต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4071/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชดใช้ทุนกรณีทุนส่วนตัว-ทุนรัฐบาล: ศาลฎีกาตัดสินว่าจำเลยไม่ต้องชดใช้ทุนส่วนตัวที่ได้รับโดยตรง
การที่จำเลยที่ 1 ได้รับทุนของสภาประชากรแห่งสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนตัวโดยมิได้ผ่านทางหน่วยงานราชการ แม้จำเลยที่ 1 จะทำสัญญากับโจทก์ว่า หากจำเลยที่ 1 เสร็จการศึกษาแล้วไม่กลับมารับราชการหรือกลับมารับราชการเป็นเวลาน้อยกว่า 3 เท่าของเวลาที่ได้รับทุนหรือที่ได้รับเงินเดือน รวมทั้งเงินเพิ่มสุดแต่เวลาใดจะมากกว่ากัน จำเลยที่ 1 ตกลงจะชดใช้คืนซึ่งทุน และหรือเงินเดือนรวมทั้งเงินเพิ่มและหรือเงินอื่นใดที่จำเลยที่ 1 ได้รับจากทางราชการในระหว่างเวลาที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาหรืออบรม รวมทั้งเบี้ยปรับอีก 1 เท่า ให้แก่โจทก์ก็ตาม ก็มีผลเพียงต้องชดใช้เงินเดือนที่ได้รับระหว่างศึกษาต่อพร้อมเบี้ยปรับอีก 1 เท่า ไม่ต้องชดใช้ทุนคืนให้โจทก์แต่อย่างใด เพราะเงินทุนดังกล่าวมิได้เป็นเงินที่ได้รับจากทางราชการในระหว่างได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาหรือฝึกอบรม และมิได้เป็นทุนที่เจ้าของทุนมอบให้ทางรัฐบาลไทยหรือสถาบันในประเทศไทยจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดด้วยเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3244/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทุนรัฐบาล: ความรับผิดของผู้รับทุนเมื่อออกจากราชการก่อนครบกำหนด แม้มีคำสั่งจากมหาวิทยาลัย
การที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีคำสั่งให้จำเลยออกจากราชการ ก็สืบเนื่องมาจากจำเลยแจ้งความประสงค์จะออกจากราชการไปเป็นพนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ดังนั้น จำเลยจะอ้างว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นออกคำสั่งให้จำเลยออกจากราชการ เพื่อให้จำเลยพ้นจากความรับผิดที่จำเลยมีต่อโจทก์ตามสัญญาการรับทุนหาได้ไม่
ตามสัญญาการรับทุน ก.พ. เพื่อไปศึกษาวิชาในต่างประเทศถ้าจำเลยรับราชการไม่ครบกำหนดเวลาตามที่ตกลงไว้ จำเลยจะต้องรับผิดใช้ทุน ก.พ. ที่โจทก์จ่ายไปแล้วรวมทั้งเบี้ยปรับ โดยลดลงตามส่วนจำนวนเวลาที่จำเลยรับราชการชดใช้ไปบ้างแล้ว เว้นแต่ในกรณีซึ่ง ก.พ. และกระทรวงการคลังจะใช้ดุลพินิจเห็นว่ามีเหตุผลอันสมควรให้จำเลยพ้นความรับผิดเมื่อจำเลยออกจากราชการก่อนครบกำหนดตามสัญญาแม้ว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีคำสั่งให้จำเลยออกจากราชการตามความในข้อ 10 และข้อ 24 แห่งกฎทบวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2519) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2507 ประกอบด้วยมาตรา 96(2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นกรณีสั่งให้ออกจากราชการเมื่อข้าราชการผู้นั้นสมัครไปปฏิบัติงานใด ๆ ตามความประสงค์ของทางราชการก็ตาม แต่จำเลยยังคงมีความผูกพันตามสัญญาการรับทุนดังกล่าว เมื่อ ก.พ.และกระทรวงการคลังยืนยันให้จำเลยรับผิดตามสัญญาอีกทั้งกรณีของจำเลยไม่ได้รับการยกเว้นตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2523 จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินแก่โจทก์ตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทุนรัฐบาล: อำนาจฟ้องของโจทก์ในการเรียกคืนทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
จำเลยที่ 1 ได้รับทุน เอ.ไอ.ดี. ซึ่งเป็นทุนที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลไทย ไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศโดยจำเลยที่ 1 สัญญาว่าเมื่อเสร็จการศึกษาแล้วจะกลับมารับราชการในหน่วยงานของโจทก์ที่ 1 หรือกระทรวง ทบวง กรมอื่นตามที่โจทก์ที่ 1 เห็นสมควรเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของเวลาที่ได้รับทุนหลังจากสำเร็จการศึกษา ณ ต่างประเทศแล้ว จำเลยที่ 1ผิดสัญญาลาออกจากราชการก่อนครบกำหนดรับราชการใช้ทุนคืนดังนี้ จำเลยที่ 1 จะต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะเงินทุนที่ได้รับมิใช่ของรัฐบาลไทยและค่าเครื่องบินก็เป็นของโจทก์ที่ 2 หาได้ไม่เพราะทุนดังกล่าวรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้มอบให้แก่รัฐบาลไทยและเมื่อมีการผิดสัญญา เงินที่ได้รับชดใช้จากผู้ได้รับทุนจะได้นำไปจัดสรรเป็นทุนใหม่ต่อไป ส่วนค่าเครื่องบินนั้นแม้จะเป็นเงินของโจทก์ที่ 2 ก็เป็นเงินของทางราชการ ซึ่งจำเลยที่ 1 ทำสัญญาผูกพันให้ไว้แก่โจทก์ที่ 1 ว่าจะชำระคืนให้โจทก์ที่ 1โจทก์ที่ 1 จึงมีอำนาจฟ้อง