พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8233-8236/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีแรงงาน: ผลของการไม่ไปศาลตามนัด และสิทธิในการสืบพยาน
ศาลแรงงานกลางสั่งรับคดีของโจทก์ทั้งสี่ไว้พิจารณาและได้กำหนดนัดพิจารณาและนัดสืบพยานโจทก์รวมสามครั้ง แม้จะกำหนดให้นัดสืบพยานโจทก์รวมไปด้วยก็เป็นเพียงวิธีการเร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้รวดเร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น วันนัดดังกล่าวเป็นการกำหนดนัดพิจารณาตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 37 หากโจทก์ทราบ คำสั่งให้มาศาลโดยชอบแล้ว ไม่ไปศาลตามกำหนดโดยไม่แจ้งให้ศาลแรงงานทราบถึงเหตุที่ไม่ไปศาล ให้ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป และศาลแรงงานต้องมีคำสั่งจำหน่ายคดีของโจทก์จากสารบบความตาม มาตรา 40 วรรคหนึ่ง โจทก์ทั้งสี่ไปศาลในวันนัดดังกล่าวทุกครั้ง จึงไม่มีกรณีที่จะอ้างเป็นเหตุจำหน่ายคดีของโจทก์ทั้งสี่ตาม มาตรา 40 วรรคหนึ่ง เมื่อโจทก์ทั้งสี่กับจำเลยไม่อาจตกลงกัน การที่ศาลแรงงานกลางได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทและ วันนัดสืบพยานตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 39 วรรคหนึ่ง และโจทก์ทั้งสี่ไม่ไปศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2546 นั้น คงมีผลเพียงทำให้โจทก์ทั้งสี่เสียสิทธิที่จะขออนุญาตศาลแรงานกลางถามพยานจำเลย เพื่อทำลายน้ำหนักพยานจำเลยเท่านั้น ไม่มีเหตุที่ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีของโจทก์ตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5285/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนัดพิจารณาคดีที่ผิดพลาด และสิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องนัดจำเลยมาให้การแก้คดีและนัดสืบพยานโจทก์ ต่อมาได้มีการเลื่อนนัดสอบคำให้การจำเลยและสืบพยานโจทก์ไปอีก แต่เจ้าหน้าที่ผู้พิมพ์รายงานกระบวนพิจารณาพิมพ์วันนัดผิดไปจากที่คู่ความตกลงกันไว้ โดยผู้พิพากษามิได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาที่พิมพ์ผิดนั้นให้คู่ความฟังก่อน เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดตามที่เจ้าหน้าที่พิมพ์ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดตามความใน ป.วิ.อ.มาตรา 166 วรรคหนึ่ง อันจะเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องได้ โจทก์จึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5285/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนัดพิจารณาคดีที่ผิดพลาดและการมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องนัดจำเลยมาให้การแก้คดีและนัดสืบพยานโจทก์ ต่อมาได้มีการเลื่อน นัดสอบคำให้การ จำเลยและสืบพยานโจทก์ไปอีก แต่เจ้าหน้าที่ผู้พิมพ์รายงานกระบวนพิจารณาพิมพ์วันนัดผิดไปจากที่คู่ความตกลงกันไว้โดยผู้พิพากษามิได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาที่พิมพ์ผิดนั้นให้คู่ความฟังก่อน เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดตามที่เจ้าหน้าที่พิมพ์ถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่งอันจะเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องได้ โจทก์จึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการไม่แจ้งนัดพิจารณาคดี ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นสั่งไม่รับฟ้อง
พนักงานอัยการโจทก์มอบคำฟ้องให้เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการมายื่นต่อศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นประกาศเรียกโจทก์และให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์แจ้งให้โจทก์มาศาลเพื่อสอบถามแล้ว แต่โจทก์ไม่มา เมื่อไม่ปรากฏว่าที่ศาลชั้นต้นนัดให้โจทก์มาศาลเพื่อสอบถามเป็นเรื่องอะไร จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเหตุนี้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 166 และ 181 ไม่ได้
โจทก์มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของโจทก์มายื่นคำฟ้องต่อศาลชั้นต้นโดยไม่มีใบมอบฉันทะตาม ป.วิ.พ.มาตรา 64 ประกอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 15การยื่นคำฟ้องจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลชั้นต้นจะสั่งประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาไม่ได้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งประทับฟ้องจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 27 ประกอบด้วยป.วิ.อ.มาตรา 15 และศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นสั่งไม่รับฟ้อง
โจทก์มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของโจทก์มายื่นคำฟ้องต่อศาลชั้นต้นโดยไม่มีใบมอบฉันทะตาม ป.วิ.พ.มาตรา 64 ประกอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 15การยื่นคำฟ้องจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลชั้นต้นจะสั่งประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาไม่ได้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งประทับฟ้องจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 27 ประกอบด้วยป.วิ.อ.มาตรา 15 และศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นสั่งไม่รับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5541/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบของผู้รับมอบอำนาจในการตรวจสอบข้อมูลนัดพิจารณาคดี การไม่แจ้งเหตุจำเป็นในการไม่มาศาล
เมื่อคู่ความนำคดีมาสู่ศาลจึงมีหน้าที่ต้องนำข้อเท็จจริงมาแสดงต่อศาล หากมีความจำเป็นจนมิอาจมาศาลได้ก็จำต้องแจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุแห่งความจำเป็นดังกล่าว คดีนี้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์มาศาลและได้กลับไปเพราะตรวจบัญชีนัดความของศาลในช่วงเช้าแล้วไม่พบรายชื่อคู่ความ โดยมิได้ตรวจดูบัญชีนัดความในช่วงบ่าย ทั้ง ๆ ที่คดีของโจทก์ได้นัดไว้ในช่วงบ่าย และมิได้ติดต่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่ศาลแต่อย่างใดจึงเป็นความผิดพลาดของผู้รับมอบอำนาจโจทก์เอง ดังนี้จึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5019/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มาศาลตามนัดโดยไม่มีเหตุสมควร ศาลไม่ยกเลิกคำสั่งให้ยกฟ้อง
การที่จะให้ศาลชั้นต้นยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาใหม่ได้นั้น โจทก์จะต้องแสดงให้เห็นว่า มีเหตุสมควรที่มาศาลในวันนัดไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181 คดีนี้ศาลชั้นต้นนัดสอบถามคำให้การจำเลยและนัดสืบพยานโจทก์ โดย ได้ส่งหมายนัดให้โจทก์ตามที่อยู่ที่อยู่ที่ปรากฏในคำฟ้อง และพ.ทนายความโจทก์ตามที่อยู่ที่ปรากฏในใบแต่งทนายความของพ.ตั้งแต่วันที่9โดยมีช.ซึ่งอยู่ในสถานที่เดียวกับโจทก์และทนายความโจทก์เป็นผู้รับหมายไว้แทนการส่งหมายนัดของศาลจึงเป็นไปโดยชอบและต้องถือว่าโจทก์และทนายความโจทก์ได้ทราบวันนัดของศาลก่อนถึงวันนัดแล้ว การที่โจทก์อ้างว่า พ.ทนายความโจทก์ทราบนัดล่าช้าเพราะเหตุสำนักงานใหญ่และสำนักงานฝ่ายกฎหมายของโจทก์อยู่คนละที่กันก็ดี และ พ.เดินทางไปภูมิลำเนาเดิมเพื่อพิธีไหว้สารทจีนตั้งแต่ก่อนวันที่รับหมายไว้แทนนั้นก็ดี ล้วนแต่เป็นวิธีปฏิบัติภายในของโจทก์และทนายความโจทก์มิใช่กรณีที่โจทก์มีเหตุสมควรที่มาศาลในวันนัดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4481/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันตัวผู้ต้องหาเสียชีวิตก่อนนัดพิจารณาคดี ผู้ประกันไม่ต้องรับผิด
เมื่อจำเลยตายตั้งแต่ก่อนวันนัดพิจารณาคดีของศาลผู้ประกันจำเลยจะรู้หรือไม่รู้ว่าจำเลยตายจริงหรือไม่หรือผู้ประกันจำเลยจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจที่จะนำจำเลยมาศาลตามนัดหรือไม่ ก็ไม่มีทางที่ผู้ประกันจำเลยจะนำตัวจำเลยมาส่งศาลได้ การที่ผู้ประกันจำเลยมาศาลตามนัดในเวลา ต่อมาจึงไม่ใช่ความผิดของผู้ประกันจำเลย ผู้ประกันจำเลยจึงไม่ผิดสัญญาประกันศาลปรับผู้ประกันจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3412/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีเนื่องจากทนายความมีนัดอื่น ศาลถือว่าโจทก์ขาดนัดได้หากไม่แจ้งเหตุขัดข้อง
แม้ในวันนัดสืบพยานโจทก์ทนายความโจทก์จะมีนัดว่าความที่ศาลชั้นต้นและศาลแขวงพระนครเหนือรวม 2 เรื่องก็ตาม ทนายความโจทก์ก็มีทางแก้ไขโดยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีใดคดีหนึ่ง ซึ่งอาจทำได้ก่อนหรือในวันนัดพิจารณาโดยจะนำคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาไปยื่นเองหรือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปยื่นแทนก็ได้หรือในกรณีที่ไม่ต้องการเลื่อนคดี ทนายโจทก์ก็ชอบที่จะยื่นคำร้องหรือคำแถลงแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบได้ว่าทนายโจทก์มีนัดว่าความ 2 เรื่อง คือ ที่ศาลชั้นต้นและศาลแขวงพระนครเหนือ และทนายโจทก์ขอไปไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาที่ศาลแขวงพระนครเหนือก่อนก็ย่อมจะทำได้ การที่โจทก์ไม่ได้ขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบก่อนเช่นนี้ เป็นกรณีโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานและมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาให้ศาลทราบก่อน จึงถือได้ว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการกำหนดนัดพิจารณาคดีและการรับฟังความเห็นแพทย์เรื่องวิกลจริต
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เมื่อแพทย์ผู้รักษาอาการของจำเลยแถลงว่าจำเลยสามารถต่อสู้คดีได้แล้ว จึงให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป โดยโจทก์มิได้ร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปนั้น เป็นอำนาจศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 35 ซึ่งบัญญัติให้อำนาจศาลที่จะกำหนดนั่งพิจารณาคดีที่ยื่นไว้ต่อศาลในวันที่ศาลเปิดทำการและเวลาทำงานได้และตาม ป.วิ.อ. มาตรา 15 ให้อำนาจศาลนำบทบัญญัติดังกล่าวมาใช้บังคับได้ คำสั่งดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย
ความเห็นของแพทย์ทั้งหลายที่ตรวจอาการของจำเลยว่า จำเลยมีอาการทางจิตนั้น ต่างเป็นความเห็นของแพทย์ผู้ตรวจอาการจำเลยระหว่างพิจารณาคดีนี้ทั้งสิ้น ไม่ปรากฎความเห็นของแพทย์ที่ตรวจอาการของจำเลยมาก่อนเกิดเหตุคดีนี้หรือระหว่างเกิดเหตุคดีนี้ ทั้งไม่ปรากฎประวัติการเป็นโรคจิตของจำเลยมาก่อนความเห็นของแพทย์ดังกล่าวไม่สามารถรับฟังเป็นยุติได้ว่า ขณะกระทำความผิดจำเลยเป็นบุคคลวิกลจริตไม่รู้ผิดชอบ
ความเห็นของแพทย์ทั้งหลายที่ตรวจอาการของจำเลยว่า จำเลยมีอาการทางจิตนั้น ต่างเป็นความเห็นของแพทย์ผู้ตรวจอาการจำเลยระหว่างพิจารณาคดีนี้ทั้งสิ้น ไม่ปรากฎความเห็นของแพทย์ที่ตรวจอาการของจำเลยมาก่อนเกิดเหตุคดีนี้หรือระหว่างเกิดเหตุคดีนี้ ทั้งไม่ปรากฎประวัติการเป็นโรคจิตของจำเลยมาก่อนความเห็นของแพทย์ดังกล่าวไม่สามารถรับฟังเป็นยุติได้ว่า ขณะกระทำความผิดจำเลยเป็นบุคคลวิกลจริตไม่รู้ผิดชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทนายโจทก์มีหน้าที่จัดการวันนัดพิจารณาคดีเอง หากนัดชนกับคดีอื่นต้องรีบร้องขอเลื่อน
ในวันนัดพิจารณานัดก่อนทนายโจทก์มาศาลด้วยตนเอง จึงต้องถือว่าทนายโจทก์ได้ร่วมกำหนดวันนัดพิจารณาครั้งต่อไปด้วย ซึ่งโดยปกติก็ต้องนัดพิจารณาในวันว่างของทนายโจทก์ด้วย หากเกิดกรณีไปนัดซ้อนวันกันกับศาลอื่นก็ชอบที่ทนายโจทก์จะต้องรีบร้องขอเลื่อนคดีเสียแต่เนิ่น ๆ มิใช่เพิ่งให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาคดีมายื่นต่อศาลในวันนัดพิจารณานัดหลัง ซึ่งห่างจากวันนัดพิจารณานัดก่อนถึง 48 วัน กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณา