คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
นิติกรรมขายฝาก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุคคลภายนอกผู้สุจริต-เจตนาลวง: เพิกถอนนิติกรรมขายฝากไม่ได้
ขณะที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนรับขายฝากที่ดินจากจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ไม่ทราบว่านิติกรรมการให้ที่ดินระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เป็นเจตนาลวง จำเลยที่ 2 จึงเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้น โจทก์จึงไม่อาจยกข้อต่อสู้เรื่องการแสดงเจตนาลวงดังกล่าวต่อจำเลยที่ 2ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 155 วรรคหนึ่ง โจทก์จึงไม่อาจเพิกถอนนิติกรรมการขายฝากได้ เมื่อการขายฝากมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว จำเลยที่ 1 ไม่ไถ่ถอน จำเลยที่ 2 โอนให้จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ขายต่อให้จำเลยที่ 4 นิติกรรมการให้และการซื้อขายก็ไม่อาจเพิกถอนเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมขายฝากมีผลผูกพันตามสัญญา แม้จำเลยอ้างเป็นนิติกรรมอำพรางสัญญาจำนอง โจทก์มีสิทธิขับไล่และเรียกค่าเสียหาย
โจทก์และจำเลยต่างมอบอำนาจให้ ส. เป็นผู้ไปทำหนังสือสัญญาขายฝากที่ดินพิพาท ส. ได้ขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมทำสัญญาขายฝากที่ดินพิพาทต่อเจ้าพนักงานที่ดินแล้วสัญญาขายฝากที่ทำขึ้นย่อมเป็นนิติกรรมที่โจทก์จำเลยมีเจตนาให้มีผลผูกพันกันตามสัญญา มิใช่มีเจตนาอำพรางแต่อย่างใด จำเลยจะอ้างว่ามีเจตนาอำพรางสัญญาจำนองหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1245/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมขายฝากไม่โมฆะ แม้ผู้รับซื้อฝากมอบอำนาจต่อบุคคลอื่น หากผู้ขายไม่ได้เจาะจงตัวบุคคลเป็นสาระสำคัญ
การแสดงเจตนาถ้าสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมย่อมเป็นโมฆะ และตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรมก็อาจเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมได้ถ้าการทำนิติกรรมนั้นถือเอาตัวบุคคลเป็นสาระสำคัญ แต่ในบางกรณีตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีไม่ถือว่าเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมเนื่องจากจุดประสงค์เพราะต้องการเพียงเงินจำนวนหนึ่งเท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เดือดร้อนเรื่องเงินและรู้จักกับนาง อ.มารดาจำเลยซึ่งมีอาชีพรับซื้อฝากที่ดินเป็นธุรกิจ โจทก์ตกลงขายฝากที่ดินไว้แก่นาง อ.เพราะไม่รู้จักจำเลยมาก่อน แต่นาง อ.กับจำเลยได้สมคบกันฉ้อฉลทำหนังสือมอบอำนาจมารับซื้อฝากใส่ชื่อจำเลยไว้โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการไถ่คืนในภายหลังเพราะจำเลยไม่ได้อยู่ในประเทศไทย นิติกรรมการขายฝากจึงตกเป็นโมฆะ นั้น คำฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างให้เห็นเลยว่าเหตุใดจึงเจาะจงที่จะขายฝากไว้แก่นาง อ.อันพอจะทำให้เห็นได้ว่าโจทก์มีเจตนาที่จะถือเอาตัวบุคคลที่จะรับซื้อฝากเป็นสาระสำคัญ คงเห็นได้แต่เพียงว่าโจทก์ต้องการเงินจำนวนหนึ่งเท่านั้น การที่นาง อ.หรือจำเลยจะเป็นผู้รับซื้อฝากก็ไม่มีผลต่างกัน เพราะโจทก์ได้รับค่าขายฝากไปครบถ้วนแล้ว เหตุตามคำฟ้องดังกล่าวจึงไม่ทำให้นิติกรรมขายฝากเป็นโมฆะ คดีพอวินิจฉัยได้หาจำต้องฟังพยานโจทก์จำเลยอีกต่อไปไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1380/2527 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมขายฝากที่จำเลยรู้อยู่ว่าทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ โจทก์มีสิทธิฟ้องเพิกถอนได้
บรรยายฟ้องว่าโจทก์เช่าซื้อที่ดินและห้องแถวจากจำเลยที่1 ได้ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว ต่อมาโจทก์ทราบว่าระหว่างที่โจทก์ผ่อนชำระค่าเช่าซื้ออยู่นั้น จำเลยที่ 1ได้ขายฝากที่ดินและห้องแถวดังกล่าวแก่จำเลยที่ 2 โดยจำเลยทั้งสองรู้ดีว่าที่ดินและห้องแถวนั้นโจทก์ได้เช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 อยู่ก่อนแล้ว นิติกรรมการขายฝากที่จำเลยทั้งสองร่วมกันทำจึงเป็นนิติกรรมอันเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ ขอให้พิพากษาว่านิติกรรมการขายฝากไม่ผูกพันโจทก์ ให้เพิกถอนทำลายนิติกรรมการขายฝากเสียและให้จำเลยจัดการโอนที่ดินและห้องแถวให้โจทก์. ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันทำนิติกรรมขายฝากโดยรู้อยู่ว่าเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องได้
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1162-1163-1164/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1380/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมขายฝากที่เป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบและสิทธิของเจ้าหนี้เช่าซื้อ
บรรยายฟ้องว่าโจทก์เช่าซื้อที่ดินและห้องแถวจากจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว ต่อมาโจทก์ทราบว่าระหว่างที่โจทก์ผ่อนชำระค่าเช่าซื้ออยู่นั้น จำเลยที่ 1 ได้ขายฝากที่ดินและห้องแถวดังกล่าวแก่จำเลยที่ 2 โดยจำเลยทั้งสองรู้ดีว่าที่ดินและห้องแถวนั้นโจทก์ได้เช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 อยู่ก่อนแล้ว นิติกรรมการขายฝากที่จำเลยทั้งสองร่วมกันทำจึงเป็นนิติกรรมอันเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ ขอให้พิพากษาว่านิติกรรมการขายฝากไม่ผูกพันโจทก์ให้เพิกถอนทำลายนิติกรรมการขายฝากเสียและให้จำเลยจัดการโอนที่ดินและห้องแถวให้โจทก์ ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันทำนิติกรรมขายฝากโดยรู้อยู่ว่าเป็นทางให้โจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกา ที่ 1162-1163-1164/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1380/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมขายฝากที่ทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบเป็นโมฆะ
บรรยายฟ้องว่าโจทก์เช่าซื้อที่ดินและห้องแถวจากจำเลยที่1 ได้ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว. ต่อมาโจทก์ทราบว่าระหว่างที่โจทก์ผ่อนชำระค่าเช่าซื้ออยู่นั้น. จำเลยที่ 1ได้ขายฝากที่ดินและห้องแถวดังกล่าวแก่จำเลยที่ 2 โดยจำเลยทั้งสองรู้ดีว่าที่ดินและห้องแถวนั้นโจทก์ได้เช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 อยู่ก่อนแล้ว. นิติกรรมการขายฝากที่จำเลยทั้งสองร่วมกันทำจึงเป็นนิติกรรมอันเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ. ขอให้พิพากษาว่านิติกรรมการขายฝากไม่ผูกพันโจทก์. ให้เพิกถอนทำลายนิติกรรมการขายฝากเสียและให้จำเลยจัดการโอนที่ดินและห้องแถวให้โจทก์. ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันทำนิติกรรมขายฝากโดยรู้อยู่ว่าเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ. โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องได้.(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1162-1163-1164/2497).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3847/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมขายฝากสมบูรณ์ ไม่เป็นนิติกรรมอำพราง แม้ตกลงซื้อคืนภายหลังได้ โดยมีค่าปรับ
จำเลยมิได้ตกลงทำสัญญาจำนองตามความประสงค์ของโจทก์เพียงแต่ให้คำมั่นว่าให้โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทคืนได้ภายหลังครบกำหนดเวลาในสัญญาขายฝากแล้วเท่านั้น โดยการซื้อคืนโจทก์จะต้องเพิ่มเงินชดเชยให้จำเลย ดังนั้น สัญญาจำนองจึงมิได้เกิดขึ้น ที่โจทก์ยินยอมทำสัญญาขายฝากที่พิพาทไว้แก่จำเลยโดยมีสัญญาผูกพันกันไว้อีกฉบับหนึ่งว่าโจทก์มีสิทธิซื้อที่พิพาทคืนหลังจากครบกำหนดสัญญาขายฝากแล้ว ถือว่าโจทก์ทำสัญญาขายฝากโดยความสมัครใจ มิใช่เกิดจากเจตนาลวงด้วยสมรู้กับจำเลยแต่อย่างใด นิติกรรมขายฝากจึงสมบูรณ์ บังคับกันได้ไม่เป็นโมฆะ และ มิใช่นิติกรรมอำพราง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมขายฝากเป็นโมฆะเมื่อมีเจตนาลวงเพื่อนำไปจำนอง โจทก์มีสิทธิเรียกคืนที่ดิน
โจทก์ประสงค์จะจำนองที่พิพาทแต่ถ้าโจทก์จำนองด้วยตนเองจะไม่ได้เงินมากตามจำนวนที่ต้องการ จึงได้ตกลงทำเป็นจดทะเบียนขายฝากที่พิพาทไว้กับจำเลยก่อน แล้วให้จำเลยนำที่ดินไปจำนองบริษัท ท. ซึ่งผู้จัดการเป็นญาติกับจำเลยเอาเงินมาให้โจทก์ ดังนี้ นิติกรรมขายฝากดังกล่าวเป็นเพียงเจตนาลวงเพื่อให้จำเลยนำที่พิพาทไปจำนองเท่านั้นจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118คือไม่มีสัญญาขายฝากต่อกัน ที่พิพาทยังเป็นของโจทก์อยู่ โจทก์มีอำนาจเรียกที่พิพาทคืนจากจำเลยฐานลาภมิควรได้ จำเลยมีหน้าที่คืนที่พิพาทและโอนใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามเดิม เงินที่โจทก์ได้มาไม่ใช่เงินของจำเลยอันโจทก์จะพึงคืนให้แก่จำเลย แต่เป็นเงินซึ่งโจทก์จะต้องชำระคืนให้แก่ผู้รับจำนองซึ่งเป็นเจ้าหนี้โดยตรงส่วนจะเป็นจำนวนเท่าใดนั้นย่อมเป็นไปตามมูลหนี้ที่ปรากฏอยู่ในสัญญาจำนอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมขายฝาก: เจตนาที่แท้จริง ไม่เป็นนิติกรรมอำพราง หากมีเพียงสัญญาขายฝาก
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับไถ่ถอนการขายฝากที่ดินจากโจทก์และโอนคืนที่ดินให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ขายฝากที่ดินไว้กับจำเลยจริงตามฟ้อง แต่เจตนาอันแท้จริง โจทก์ขอกู้เงินจำเลย 2,500 บาท ให้ที่ดินเป็นหลักค้ำประกัน จึงได้ทำสัญญาขายฝากกันไว้เป็นนิติกรรมอำพราง และโจทก์ยังตกลงรับไปจัดหาประโยชน์จากที่ดินรายนี้ส่งให้จำเลยเดือนละ 125 บาททุกเดือน แต่โจทก์ส่งผลประโยชน์นั้นให้จำเลยเพียงเดือนเดียวแล้วติดค้างไม่ส่งเลย จำเลยจึงไม่ยอมรับไถ่การขายฝาก
เรื่องนิติกรรมนั้น จำเลยว่าโจทก์ขอกู้เงินและให้ที่ดินเป็นประกันเงินกู้ก่อนแล้วจึงตกลงไปทำสัญญาขายฝากกันเพื่อให้การประกันมีผลตามกฎหมาย ดังนี้ หาใช่นิติกรรมอำพรางไม่ เพราะนิติกรรมระหว่างโจทก์จำเลยมีแต่ขายฝากเพียงนิติกรรมเดียว การพูดขอกู้เงินเป็นเพียงการพูดจากันอันเป็นเหตุนำไปให้ทำสัญญาขายฝากเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่ทำโดยไม่ได้รับมอบอำนาจ แม้ผู้ซื้อสุจริต ก็มีสิทธิ์เรียกร้องคืนได้
มีผู้อื่นเอาที่ดินไปขายฝากโดยปลอมลายมือชื่อของเจ้าของที่ดินลงในใบมอบอำนาจว่าเจ้าของที่ดินมอบอำนาจให้เอาที่ดินไปขายฝากได้ แม้ผู้รับซื้อฝากจะซื้อไว้โดยสุจริต เจ้าของที่ดินก็ย่อมมีสิทธิ์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากได้ เพราะเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ขาย นิติกรรมการขายฝากระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ซื้อจึงไม่มีต่อกัน (อ้างฎีกาที่ 2049/92,1866/94) และกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 821,223,1329,1332 ทั้งไม่ใช่เรื่องบอกล้างโมฆียะกรรมตาม ม. 143 ด้วย
อายุความฟ้องร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่มีผู้เอาไปโอนโดยไม่มีอำนาจ จะใช้อายุความตามป.วิ.อาญา มาตรา 51 ไม่ได้
of 2