พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนที่ดินและการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์: โจทก์ยังคงเป็นเจ้าของที่ดินส่วนของตน แม้จำเลยจะครอบครองและออก น.ส.3ก.
โจทก์โอนที่ดินส่วนของโจทก์ให้จำเลยครอบครองแทนแม้จำเลยจะนำที่ดินพิพาทไปขอออก น.ส.3 ก. แต่เมื่อไม่ปรากฏว่า จำเลยแจ้งเปลี่ยนเจตนาในการครอบครองจากครอบครองแทน เป็นครอบครองเพื่อตนไปยังโจทก์ จำเลยครอบครองที่ดินพิพาท นานเท่าใดก็หาได้สิทธิครอบครองไม่ โจทก์ยังเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท ในส่วนของโจทก์อยู่การที่โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งหมด ศาลฎีกาคงพิพากษาให้โจทก์ได้รับ ที่ดินพิพาทในส่วนของโจทก์เท่านั้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2649-2660/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินของรัฐ: การครอบครองก่อน/หลังประมวลกฎหมายที่ดิน และการขอออก น.ส.3ก.
ที่พิพาทเป็นที่ดินของรัฐ อันบุคคลอาจได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน โจทก์ได้เข้าครอบครองที่พิพาทภายหลังจากประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับแล้ว จึงมิใช่ผู้ได้มาซึ่งสิทธิครอบครองในที่พิพาทก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ และการยึดถือครอบครองของโจทก์ก็มิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงเป็นการยึดถือครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายแม้โจทก์จะแย่งการครอบครองที่พิพาทจากจำเลยเกินกว่า 1 ปีแล้ว และคงอยู่ตลอดมาจนถึงวันฟ้องก็เป็นการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องและหามีสิทธิที่จะขอห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินและขอให้จำเลยถอนคำขอที่ขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออก น.ส.3 ก ได้ เพราะจำเลยมีสิทธิที่จะกระทำได้โดยชอบ เนื่องจากถือได้ว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้จำเลยครอบครองที่พิพาทได้แล้ว เพียงแต่อยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อออกหลักฐานเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินให้จำเลยเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานเพื่อออก น.ส.3ก. แม้จะเคยเป็นข้าราชการและรู้กฎหมาย การกระทำเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ
กรมที่ดินจ้าง ป.เป็นลูกจ้างชั่วคราว และนายอำเภอมีคำสั่งแต่งตั้ง ป.ให้ปฏิบัติหน้าที่พิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดิน ป.จึงเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 จำเลยซื้อที่ดินซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) อยู่แล้วจำเลยได้ไปขอให้ทางราชการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก)โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศสำหรับที่ดินนั้นอีก โดยแจ้งต่อป. เจ้าหน้าที่พิสูจน์สอบสวนว่าที่ดินดังกล่าวยังไม่เคยมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์มาก่อน จนทางราชการออก น.ส.3 ก. ให้จำเลย แต่ในที่สุดผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งเพิกถอนเพราะเหตุจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จดังนี้ เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2232/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานเรียกรับเงินจากการพิสูจน์สอบสวนออก น.ส.3ก เป็นความผิดอาญา
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างชั่วคราวตำแหน่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จำเลยทั้งสองได้รับคำสั่งแต่งตั้งจากนายอำเภอให้เป็นเจ้าหน้าที่ออกไปพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์เพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก) ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 58 จำเลยทั้งสองจึงเป็นเจ้าพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยทั้งสองเรียกเอาเงินจากผู้เสียหายหลายคนแต่ละวันการกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดหลายกรรม
จำเลยทั้งสองเรียกเอาเงินจากผู้เสียหายหลายคนแต่ละวันการกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดหลายกรรม