พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2395/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในบริษัทจำเลยและการร้องสอดคดี: ผู้ลงทุนต่างด้าวไม่มีสิทธิร้องขอคุ้มครองสิทธิในบริษัทที่ก่อตั้ง
การที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้และบังคับจำนองเป็นเรื่องที่โจทก์ขอให้บังคับเอาแก่จำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากจาก ฮ. ที่ผู้ร้องอ้างว่า ฮ.เป็นผู้ลงทุนในบริษัทจำเลยแต่เพียงผู้เดียว แต่ให้บุคคลอื่นเป็นผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทเนื่องจาก ฮ. ถูกจำกัดสิทธิเพราะเป็นบุคคลต่างด้าว ข้ออ้างของผู้ร้องเป็นเรื่องระหว่าง ฮ. กับจำเลยไม่เกี่ยวกับคดีนี้ ฮ. มีสิทธิในบริษัทจำเลยเพียงใดคงมีอยู่อย่างนั้น ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องร้องสอดเข้ามาเพื่อยังให้ได้รับความรับรอง คุ้มครอง หรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ตามมาตรา 57 (1) ส่วนที่ผู้ร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนเฉพาะคดีของ ฮ. เพื่อจัดการทรัพย์สินของ ฮ. นั้นการตั้งผู้แทนเฉพาะคดีตามมาตรา 56 วรรคท้าย เป็นเรื่องที่ผู้ไร้ความสามารถไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้แทนโดยชอบธรรมทำหน้าที่ไม่ได้ คดีนี้โจทก์ไม่ได้ฟ้องบังคับให้ ฮ. ร่วมรับผิดกับจำเลยเป็นส่วนตัว ทั้ง ฮ. ไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถหากผู้ร้องเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจาก ฮ. ก็เป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะนำไปใช้ในกิจการตามที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจซึ่งไม่เกี่ยวกับคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆะสัญญาซื้อขายหุ้นจากการแสดงเจตนาลวง แต่ต้องรับผิดต่อบริษัทจำเลยสุจริต และเอกสารมหาชนมีผลสันนิษฐานถูกต้อง
การที่ผู้ร้องรับซื้อหุ้นบริษัทจำเลยมาจาก ก. โดยสมรู้กันเพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นการแสดงเจตนาลวงระหว่างผู้ร้องกับ ก. สัญญาซื้อขายจึงเป็นโมฆะแต่เมื่อไม่ปรากฏว่าบริษัทจำเลยรู้เห็นกับการแสดงเจตนาลวง โดยรับจดแจ้งการโอนหุ้นในทะเบียนผู้ถือหุ้นตามสัญญาซื้อขายโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงดังกล่าว เนื่องจากบริษัทจำเลยไม่อาจเรียกเอามูลค่าหุ้นที่ขาดจาก ก. ได้ผู้ร้องจึงไม่อาจยกความเป็นโมฆะขึ้นต่อสู้กับบริษัทจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 118วรรคแรก บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลย ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่รับรองเป็นเอกสารมหาชนต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 127 เมื่อผู้ร้องอ้างว่าบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นดังกล่าวไม่ถูกต้องเพราะมีการชำระค่าหุ้นพิพาทเต็ม มูลค่าแล้ว ผู้ร้องจึงมีหน้าที่นำสืบให้ได้ความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3940/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิดในการซื้อขายเช่าซื้อ: การผูกพันบริษัทจำเลยจากการชำระเงินผ่านตัวแทน
การที่บริษัทจำเลยให้ ธ.เป็นผู้จัดการเกี่ยวกับสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำกับบริษัทจำเลย เช่นเมื่อบริษัทจำเลยส่งสัญญาเช่าซื้อและเอกสารบางอย่างไปที่ร้านของ ธ.แล้ว ธ.นำไปให้โจทก์ลงชื่อในฐานะผู้เช่าซื้อ และส่งกลับไปให้บริษัทจำเลยจนสำเร็จเป็นสัญญาเช่าซื้อ ตลอดจนเมื่อโจทก์ชำระเงินค่าทะเบียนรถยนต์พิพาทให้บริษัทจำเลยบริษัทจำเลยก็ได้ส่งทะเบียนรถไปให้โจทก์โดยผ่าน ธ.และในการชำระเงินค่าเช่าซื้อ ธ.ก็เป็นผู้รับจากโจทก์แล้วเป็นผู้จัดส่งไปให้บริษัทจำเลย ครั้งสุดท้ายเมื่อโจทก์แจ้งให้บริษัทจำเลยทราบว่า โจทก์ได้ชำระเงินให้กับ ธ.ครบถ้วนแล้วขอให้บริษัทจำเลยโอนทะเบียนรถยนต์พิพาทให้โจทก์ บริษัทจำเลยก็แจ้งให้โจทก์ทราบว่าจะจัดการปัญหาระหว่างโจทก์กับ ธ.ซึ่งต่อมาบริษัทจำเลยก็ได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่า ธ.รับเงินค่างวดครั้งสุดท้ายไว้จากโจทก์จริงและบริษัทจำเลยได้ให้ ธ.ส่งให้แก่บริษัทจำเลยแล้วพฤติการณ์ที่ ธ.กับบริษัทจำเลยปฏิบัติต่อกันดังกล่าวมาย่อมถือได้ว่า ธ.เป็นตัวแทนเชิดของบริษัทจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2333/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดรถระหว่างพิจารณาคดี: บริษัทจำเลยไม่ต้องรับผิดชอบหากการยึดเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน
รถยนต์เป็นของโจทก์ จำเลยอ้างว่าเป็นของจำเลย และยืนยันให้พนักงานสอบสวนยึดรถไว้จนกว่าคดีถึงที่สุด พนักงานสอบสวนยึดรถไว้ได้ตามที่เห็นสมควรระหว่างคดีอยู่ระหว่างศาลพิจารณา ไม่เป็นละเมิด จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์