พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการยักยอกทรัพย์: พฤติการณ์บ่งชี้ความบริสุทธิ์ใจของผู้รับจ้าง
โจทก์ร่วมมอบนากแท่งให้จำเลยไปทำนากรูปพรรณ จำเลยนำไปจ้างร้าน ศ. รีดให้เป็นเส้นเล็ก เมื่อจำเลยให้ลูกจ้างไปรับปรากฏว่าเป็นเส้นทองแดงจำเลยนำไปให้โจทก์ร่วมดู และต่อว่าโจทก์ร่วมในวันนั้น ทั้งได้ไปแจ้งความตามคำแนะนำของโจทก์ร่วม ต่อมาจำเลยได้ทำบันทึกยอมใช้เงินแก่โจทก์ร่วมดังนี้พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตที่จะยักยอกนากของโจทก์ร่วม.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอคืนของกลางของผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของ แม้ของกลางได้มาจากการกระทำผิด ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 บัญญัติเฉพาะในเรื่องริบของกลางอันได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดแต่ในเรื่องที่มีผู้มาร้องขอให้สั่งคืนของกลางที่ศาลสั่งริบไปแล้ว พระราชบัญญัติป่าไม้ดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ประกอบด้วยมาตรา 17 ซึ่งเป็นบททั่วไป ดังนั้น แม้ศาลจะฟังว่าถ่านของกลางได้มาจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ และได้สั่งริบไปแล้ว ผู้ร้องซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของเป็นบุคคลภายนอกคดี ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ ย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ที่จะร้องขอให้ศาลสั่งคืนของกลางแก่ผู้ร้องได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนถ่านของกลาง โดยอ้างแต่เพียงว่าถ่านของกลางที่ศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้องเท่านั้น มิได้อ้างว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ศาลจะสั่งคืนของกลางให้แก่ผู้ร้องไม่ได้ ต้องยกคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนถ่านของกลาง โดยอ้างแต่เพียงว่าถ่านของกลางที่ศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้องเท่านั้น มิได้อ้างว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ศาลจะสั่งคืนของกลางให้แก่ผู้ร้องไม่ได้ ต้องยกคำร้อง