คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บอกกล่าวเลิกสัญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3489/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาให้รับฟ้องโดยไม่ต้องสืบพยานในคดีละเมิดจากการบอกกล่าวเลิกสัญญาและการบังคับจำนองที่อ้างหนี้เท็จ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันมีหนังสือบอกกล่าวเลิกสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี ให้โจทก์ชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองโดยอ้างว่าโจทก์เป็นหนี้ค้างชำระแก่จำเลยทั้งสอง ทั้ง ๆ ที่โจทก์ไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับจำเลยทั้งสอง จนหนังสือพิมพ์รายวันลงข่าวเป็นเหตุให้โจทก์และครอบครัวได้รับความเดือดร้อน โดยโจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกผู้ไม่รู้ข้อเท็จจริงดูหมิ่น ขาดความเชื่อถือในสังคมและเพื่อนฝูงในวงราชการ หากเป็นความจริงย่อมเป็นละเมิดถือว่าโจทก์ถูกจำเลยที่ 1 โต้แย้งสิทธิแล้ว โดยไม่จำเป็นที่โจทก์ต้องถูกจำเลยที่ 1ฟ้องร้องก่อน
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องและไม่อาจพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามคำขอในอุทธรณ์ได้โดยไม่ต้องสืบพยาน ก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องของโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไปได้ โดยโจทก์หาจำต้องมีคำขอให้รับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4175/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแพ่ง, หนังสือมอบอำนาจ, การเช่าไม่มีกำหนดเวลา, การบอกกล่าวเลิกสัญญา, ประเด็นข้อพิพาทที่สละ
หนังสือมอบอำนาจระบุว่าให้ผู้รับมอบอำนาจเป็นผู้กระทำการในกิจการต่าง ๆ แทน โดยมีข้อหนึ่งระบุว่า ให้มีอำนาจฟ้องบุคคลใดหรือนิติบุคคลใดต่อศาลในคดีแพ่ง จึงเป็นการมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีแทนแล้ว แม้มิได้ระบุตัวบุคคลที่จะให้ฟ้องไว้โดยเฉพาะเจาะจงก็ตาม
เมื่อตามคำฟ้องและคำให้การรับกันว่ามีการเช่าที่พิพาทอยู่จริงแล้วโจทก์ผู้ให้เช่าแถลงรับว่าไม่มีหนังสือสัญญาเช่าที่ได้กำหนดเวลาเช่ากันไว้ก็ต้องฟังว่าเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลาอันการเลิกสัญญาเช่าจะต้องบอกกล่าวตาม กฎหมาย และแม้โจทก์จะมีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยออกจากที่พิพาทภายใน 15 วันก็ตาม แต่เมื่อขณะที่โจทก์ฟ้องขับไล่นั้นเป็นเวลาเกินกว่า 2 เดือนแล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
จำเลยฎีกาในข้อที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ซึ่งจำเลยก็มิได้โต้แย้งคัดค้าน ถือว่าจำเลยสละประเด็นข้อพิพาทนี้แล้ว ข้อฎีกาดังกล่าวจึงเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาแต่ศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3308/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทดลองงานและการบอกกล่าวเลิกสัญญา: สัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาไม่ต้องใช้บทบัญญัติมาตรา 582
โจทก์เป็นลูกจ้างทดลองงานของจำเลย มีข้อตกลงกำหนดให้โจทก์ทดลองปฏิบัติงานเป็นระยะเวลา 180 วัน หากผลงานเป็นที่พอใจโจทก์จะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ สัญญานี้ไม่ใช่เป็นการจ้างที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 582เมื่อสัญญามีข้อตกลงให้สิทธิจำเลยที่จะขอเลิกสัญญาโดยบอกล่าวล่วงหน้า1 วัน จึงเป็นข้อตกลงที่มีผลบังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าไปยังภูมิลำเนาเดิมของผู้เช่าที่ย้ายออกไปแล้วชอบด้วยกฎหมาย
ขณะที่โจทก์ส่งคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าไปยังจำเลยที่บ้านเลขที่ 140/2 นั้น จำเลยย้ายไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 42 แล้ว แต่ปรากฏในสัญญาเช่าซึ่งจำเลยทำไว้กับเจ้าของเดิมระบุว่าอยู่บ้านเลขที่ 140/2. และจำเลยยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเลขที่ดังกล่าว ทั้งในชั้นพิจารณาจำเลยเบิกความรับว่าจำเลยยังคงมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 140/2 แต่หลังจากให้ผู้อื่นเช่าไปแล้ว ไม่เคยกลับไปอยู่อีกดังนี้ แสดงว่าจำเลยมีถิ่นที่อยู่หลายแห่งสับเปลี่ยนกันไป ถือได้ว่าทั้งบ้านเลขที่ 42 และ 140/2 เป็นภูมิลำเนาของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 45 การที่โจทก์บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าไปที่บ้านเลขที่ 140/2 จึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1806/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่า: ผลของการส่งหนังสือบอกกล่าวโดยผู้รับหลีกเลี่ยง
โจทก์ส่งหนังสือบอกกล่าวเลิกการเช่าโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับถึงจำเลย 3 แห่ง คือ ที่บ้านของจำเลย ที่บ้านเช่า และที่โรงรับจำนำของจำเลย แต่ถูกส่งกลับคืนมา โดยฉบับหนึ่งสลักหลังว่า "ผู้รับไม่อยู่ ไม่มีใครรับแทน ส่งไม่ได้คืน" อีกฉบับหนึ่งสลักหลังว่า "ผู้รับไม่อยู่ คนในบ้านไม่มีใครรับแทน ส่งไม่ได้คืน" และอีกฉบับหนึ่งสลักหลังว่า "ผู้รับไม่อยู่ ไม่มีใครรับแทน ส่ง 3 ครั้งแล้ว ส่งไม่ได้คืน" ข้อความที่สลักหลังแสดงว่า มีผู้รับแต่ไม่ยอมรับแทน การส่งไม่ได้เป็นเพราะจำเลยหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับ จึงถือได้ว่าการบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าของโจทก์ถึงจำเลยแล้ว
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 130 วรรคแรก การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาเช่าของโจทก์โดยทางจดหมายย่อมมีผลบังคับนับผลแต่เวลาที่ไปถึงจำเลยเป็นต้นไป จำเลยจะได้ทราบข้อความในหนังสือนั้นหรือไม่ การบอกกล่าวก็มีผลเป็นการบอกกล่าวสัญญาเช่าตามมาตรา 566 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญาขายฝากเป็นจำนอง และผลของการบอกกล่าวเลิกสัญญา
โจทก์จำเลยทำสัญญาขายฝากเรือนพิพาทโดยจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในขณะทำสัญญาขายฝากจำเลยไม่ได้ตกลงกับโจทก์ในเรื่องจำนองแต่อย่างใดนิติกรรมจำนองที่จำเลยทำจึงไม่มีอยู่เลยสัญญาขายฝากจึงไม่เป็นนิติกรรมอำพรางนิติกรรมจำนอง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าได้บอกกล่าวให้จำเลยผู้อาศัยให้ออกไปหลายครั้งแล้ว จำเลยไม่ได้ให้การโต้แย้งไว้จึงฟังได้ว่าได้บอกกล่าวแล้วคำบอกกล่าวเลิกสัญญาไม่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือนก่อนฟ้องคดีจึงมีผล
จำเลยเช่าห้องของโจทก์โดยไม่มีหนังสือสัญญาเช่า ค่าเช่าคิดกันรายเดือนโดยถือเอาวันที่ 1 ของทุก ๆเดือนเป็นเกณฑ์ชำระ โจทก์บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยในวันที่ 19 ตุลาคม 2502 แม้จะได้แจ้งไปในหนังสือบอกกล่าวด้วยว่าให้จำเลยขนย้ายออกไปภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2502 น้อยกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ เมื่อจำเลยไม่ยอมออกจนเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว และโจทก์เพิ่งฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2503 คำบอกกล่าวของโจทก์มีผลใช้ด้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชญื มาตรา 566

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าที่ชอบด้วยกฎหมาย ระยะเวลาบอกกล่าวและการฟ้องขับไล่
จำเลยเช่าห้องของโจทก์โดยไม่มีหนังสือสัญญาเช่า ค่าเช่าคิดกันรายเดือนโดยถือเอาวันที่ 1 ของทุก ๆ เดือนเป็นเกณฑ์ชำระ โจทก์บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยในวันที่ 19ตุลาคม 2502 แม้จะได้แจ้งไปในหนังสือบอกกล่าวด้วยว่าให้จำเลยขนย้ายออกไปภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2502 น้อยกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ เมื่อจำเลยไม่ยอมออกจนเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว และโจทก์เพิ่งฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 5มกราคม 2503 คำบอกกล่าวของโจทก์มีผลใช้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ แม้ผู้รับไม่รับเอง ถือว่าได้รับแจ้งแล้ว
กรณีผู้ให้เช่าส่งคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับแล้วถูกสั่งกลับคืนมาโดยสลักหลังว่า "ผู้รับไม่อยู่ไม่มีใครรับแทน" ดังนี้ ถือว่ามีคนรับแต่ไม่มีใครรับแทน และการจัดการส่งคำบอกล่าวเช่นนี้ถือว่า ได้ปฏิบัติการตามสมควรที่จะกระทำได้แล้ว ผู้หลีกเลี่ยงไม่ยอมรับคำบอกกล่าวต้องถือว่าได้รับทราบคำบอกกล่าวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183-185/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบธุรกิจในเคหะ และการแจ้งคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าที่ชอบด้วยกฎหมาย
การรับจ้างซักรีดเสื้อผ้าหรือรับจ้างตัดผม นั้นได้ชื่อว่าเป็นการประกอบธุระกิจการค้าแล้ว แม้จะมีการอยู่อาศัยด้วย ก็ไม่ถือว่าเป็นเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
โจทก์อ้างพยานเอกสารจากจำเลยๆ รับหมายแล้วไม่ส่งและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ดังนี้ ศาลต้องฟังว่า จำเลยยอมรับตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 123,124, แล้ว
การบอกกล่าวเลิกการเช่า ที่ส่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับผู้ส่ง หมายเหตุว่าส่งแล้ว ผู้รับไม่ยอมรับ คืนดังนี้ต้องถือว่าผู้เช่าได้ทราบคำบอกกล่าวนั้นแล้ว
of 2