คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บุคคลนอกคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความจากข้อฉ้อฉลและผลกระทบต่อบุคคลนอกคดี
การฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยทั้งสองโดยอ้างว่านิติกรรมดังกล่าวเป็นการฉ้อฉล ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 คนหนึ่ง รวมทั้งเจ้าหนี้อื่นของจำเลยที่ 1 เสียเปรียบ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตาม ป.พ.พ. มาตรา 237 โจทก์จะต้องฟ้องคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่ทำนิติกรรมนั้น ศาลจึงจะบังคับตามคำขอของโจทก์ได้ การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองแล้วโจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 1 ออกเสียจากสารบบความ มีผลให้จำเลยที่ 1 พ้นจากการที่ต้องถูกบังคับตามคำพิพากษา ศาลไม่อาจพิจารณาพิพากษาตามคำขอของโจทก์ เพราะจะมีผลกระทบไปถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้ และปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่เป็นการฉ้อฉลต้องฟ้องคู่กรณีทั้งหมด ผลกระทบต่อบุคคลนอกคดี
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยทั้งสองที่ทำต่อหน้าศาล อ้างว่านิติกรรมดังกล่าวเป็นการฉ้อฉล ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1คนหนึ่งเสียเปรียบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237การเพิกถอนการฉ้อฉลดังกล่าว โจทก์จะต้องฟ้องคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่ทำนิติกรรมนั้น เพราะผลของคำพิพากษาไม่อาจบังคับบุคคลนอกคดี การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองแล้วโจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 1 ออกเสียจากสารบบความเพราะจำเลยที่ 1 ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดมีผลให้จำเลยที่ 1 พ้นจากการที่ต้องถูกบังคับตามคำพิพากษาศาลจึงไม่อาจพิจารณาพิพากษาคดีตามคำขอของโจทก์ต่อไปได้เพราะจะมีผลกระทบไปถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความต้องฟ้องคู่กรณีทั้งสอง การจำหน่ายคดีออกจากสารบบทำให้ศาลไม่สามารถบังคับตามคำขอได้
การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำขึ้นระหว่างจำเลยทั้งสองนั้นโจทก์จะต้องฟ้องจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นคู่กรณีที่ทำนิติกรรมการที่โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่1ออกจากสารบบความจะทำให้ศาลไม่สามารถพิจารณาพิพากษาตามคำขอของโจทก์ได้เพราะจำเลยที่1เป็นบุคคลนอกคดีเสียแล้วปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5796/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอท้ายฟ้องที่ขอบังคับใช้กับบุคคลนอกคดี ทำให้คำฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลไม่รับพิจารณา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ขายที่ดินที่โจทก์เช่าจากจำเลยให้แก่ ธ.และส. ไปโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 และตามคำขอท้ายคำฟ้องขอให้ศาลพิพากษายกคำวินิจฉัยและมติที่ประชุม คชก.จังหวัดและให้เพิกถอนการซื้อขายที่ดิน ระหว่างจำเลยกับ ธ.และส.โดยที่โจทก์มิได้ฟ้องผู้ที่เป็นคณะกรรมการ คจก.จังหวัดธ.และส.เป็นจำเลยด้วยคำขอท้ายคำฟ้องของโจทก์จึงเป็นการขอให้ศาลมีคำพิพากษาไปใช้บังคับกับบุคคลนอกคดีด้วย ศาลไม่สามารถพิพากษาบังคับตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลจะรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน - การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ - การบังคับบุคคลนอกคดี
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินพิพาทมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) เป็นของโจทก์แต่ ร. สามีจำเลยเป็นผู้ไปแจ้งครอบครองและขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ไว้แทนโจทก์ ต่อมา ร. ตายจำเลยและบุตรได้จดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินแปลงนี้ต่อมาตั้งแต่ก่อนโจทก์ฟ้องคดี เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องผู้มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ทั้งหมดมาด้วย ศาลจึงพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวเฉพาะส่วนของจำเลยแก่โจทก์ จะพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินทั้งแปลงแก่โจทก์มิได้เพราะมีผลเป็นการบังคับบุคคลนอกคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาไม่ผูกมัดบุคคลนอกคดี แม้เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่ถูกริบ ศาลต้องเปิดโอกาสให้สืบพยาน
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและริบแร่ แต่จำเลยไม่ใช่ตัวแทนหรือลูกจ้างผู้ร้อง ผู้ร้องมิใช่คู่ความในคดี คำพิพากษาไม่ผูกมัดผู้ร้องซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของแร่และไม่รู้เห็นเป็นใจในการทำผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและขอบเขตคำพิพากษา: ศาลฎีกาอนุญาตฟ้องซ้ำได้หากคำพิพากษาเดิมเปิดช่องไว้ และคำพิพากษาใช้ยันบุคคลนอกคดีได้
แม้คดีนี้จะมีประเด็นเดียวกับคดีก่อน แต่เมื่อมีคำพิพากษาศาลให้อำนาจแก่โจทก์ที่จะเรียกร้องที่พิพาทอีกได้แล้วฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
เมื่อจำเลยที่ 2 ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และศาลฎีกาได้พิพากษาไว้ในคดีก่อนระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าไม่ใช่ของนายเสงี่ยม นายเสงี่ยมไม่ได้เกี่ยวข้องครอบครองที่พิพาทแล้ว คำพิพากษาดังกล่าวซึ่งเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จึงใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและการใช้คำพิพากษาในคดีก่อนยันบุคคลนอกคดีเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน
แม้คดีนี้จะมีประเด็นเดียวกับคดีก่อน แต่เมื่อมีคำพิพากษาศาลให้อำนาจแก่โจทก์ที่จะเรียกร้องที่พิพาทอีกได้แล้วฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
เมื่อจำเลยที่ 2 ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และศาลฎีกาได้พิพากษาไว้ในคดีก่อนระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าไม่ใช่ของนายเสงี่ยม นายเสงี่ยมไม่ได้เกี่ยวข้องครอบครองที่พิพาทแล้ว คำพิพากษาดังกล่าวซึ่งเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จึงใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินส่วนตัวของภริยาจากการทำสัญญา และการยึดทรัพย์สินของบุคคลนอกคดี
ก่อนมีการสมรส สามีภริยาได้ทำหนังสือสัญญากันถูกต้องตามกฎหมายไว้ต่อกันว่า ทรัพย์สินต่างๆ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของภริยา ซึ่งมีอยู่ก่อนทำการสมรสรวมทั้งดอกผลที่จะเกิดขึ้นใหม่ภายหลัง สามียอมรับว่าเป็นสินส่วนตัวของภริยาตลอดไป ฉะนั้น ทรัพย์ที่ภริยาซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนสมรส จึงเป็นสินส่วนตัวของภริยา ดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1464
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271,278,280เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะยึดทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ร้อง ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีไม่ได้ แม้จะปรากฏว่าผู้ร้องเป็นภริยาจำเลยซึ่งต้องรับผิดในฐานลูกหนี้ร่วมด้วยก็ตาม
ทรัพย์สินส่วนตัวของภริยาซึ่งเป็นคนนอกคดี แต่เป็นลูกหนี้ร่วมกับสามีซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น ไม่ใช่เป็นทรัพย์สินตามนัยแห่งมาตรา 282 วรรคท้ายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีอาจยึดหรืออายัดและเอาออกขายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1034/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแบ่งมรดกโดยไม่ระบุสถานะผู้แทน และการฟ้องบุคคลนอกคดี ทำให้ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมฤดกจาก ป. และ ย. ในฐานะส่วนตัว มิได้ระบุว่า ป. และ ย. จำเลยเป็นผู้แทนเด็กหญิง อ. แต่อย่างใด จำเลยก็ต่อสู้ว่า มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในทรัพย์มฤดก ทางพิจารณาได้ความว่า ป. และ ย. มิได้เกี่ยวข้องในทรัพย์มฤดก เด็กหญิง อ. เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทรัพย์มฤดกรายนี้ ศาลจะพิพากษาให้แบ่งมฤดกจากจำเลยผู้ซึ่งไม่เกี่ยวข้องในทรัพย์มฤดกนั้นไม่ได้ จะพิพากษาให้แบ่งมฤดกจากเด็กหญิง อ. ก็ไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้ฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกจากเด็กหญิง อ. ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดี ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง
of 2