คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บุตรเลี้ยง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคืนการให้เนื่องจากบุตรเลี้ยงประพฤติเนรคุณและหมิ่นประมาทมารดาเลี้ยง
จำเลยด่าโจทก์ว่า "โจทก์นิสัยไม่ดี คนโตไม่รู้จักโตพูดไม่อยู่กับร่อง กับรอยพูดหน้ามือเป็นหลังมือ เหมือนไม้หลักปักขี้เลนตอแหล เก่ง เป็นคนไม่ดี ไม่ใช่แม่กูและเชื่อถือไม่ได้"ถ้อยคำดังกล่าวแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงโจทก์ซึ่งเป็นมารดาเลี้ยง และเป็น การลบหลู่ บุญคุณอีกด้วย มิใช่เป็นเพียงคำกล่าวที่ไม่สุภาพหรือไม่สมควรเท่านั้น การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ เสียชื่อเสียงทั้งเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) แล้ว โจทก์จึงมีสิทธิถอนคืนการให้เพราะจำเลยประพฤติเนรคุณได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายบุตรเลี้ยง: การกระทำรุนแรงและคำพูดแสดงเจตนา
ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ จำเลยเคยทำร้ายเฆี่ยนตีและจับผู้ตายโยนซึ่งอาจจะเนื่องจากเกลียดชัง เพราะผู้ตายเป็นบุตรเลี้ยง ดังนั้นการทีจำเลยกระทืบผู้ตายด้วยเท้าจนถึงไตซ้ายแตก มีอุจจาระไหลออกมาเปรอะเปื้อนตามร่างกายผู้ตาย แสดงว่าจำเลยใช้เท้ากระทืบอย่างหนักและรุนแรง จนเป็นผลให้ไตซ้ายแตกนั้น เมื่อประกอบกับการที่จำเลยพูดว่าเอาให้ตายแล้วย่อมเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้ตายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายบุตรเลี้ยง: การกระทืบจนไตแตกและการพูดจาแสดงเจตนา
ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ จำเลยเคยทำร้ายเฆี่ยนตีและจับผู้ตายโยนซึ่งอาจจะเนื่องจากเกลียดชัง เพราะผู้ตายเป็นบุตรเลี้ยง ดังนั้นการที่จำเลยกระทืบผู้ตายด้วยเท้าจนถึงไตซ้ายแตก มีอุจจาระไหลออกมาเปรอะเปื้อนตามร่างกายผู้ตาย แสดงว่าจำเลยใช้เท้ากระทืบอย่างหนักและรุนแรง จนเป็นผลให้ไตซ้ายแตกนั้น เมื่อประกอบกับการที่จำเลยพูดว่าเอาให้ตายแล้วย่อมเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายบุตรเลี้ยง: การพิพากษาโทษฐานฆ่าผู้อื่น
ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ จำเลยเคยทำร้ายเฆี่ยนตีและจับผู้ตายโยนซึ่งอาจจะเนื่องจากเกลียดชัง. เพราะผู้ตายเป็นบุตรเลี้ยง. ดังนั้นการที่จำเลยกระทืบผู้ตายด้วยเท้าจนถึงไตซ้ายแตก. มีอุจจาระไหลออกมาเปรอะเปื้อนตามร่างกายผู้ตาย. แสดงว่าจำเลยใช้เท้ากระทืบอย่างหนักและรุนแรง.จนเป็นผลให้ไตซ้ายแตกนั้น. เมื่อประกอบกับการที่จำเลยพูดว่าเอาให้ตายแล้วย่อมเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการยกอายุความมรดกสงวนไว้สำหรับทายาทหรือผู้มีสิทธิแทนเท่านั้น บุตรเลี้ยงไม่มีอำนาจยกอายุความ
อายุความมรดกที่จะยกขึ้นต่อสู้ได้นั้น ต้องเปนทายาทหรือบุคคลซึ่งชอบที่จะไช้สิทธิของทายาทหรือเปนผู้จัดการมรดกเท่านั้น ผู้ที่เปนเพียงสไพ้เลี้ยง ไม่มีอำนาดยกอายุความมรดก 1 ปีขึ้นมาตัดฟ้อง เพราะไม่ไช่ทายาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5689/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกคืนโฉนดที่ดินที่บุตรเลี้ยงนำไปวางเป็นประกันโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ และการมีอำนาจฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ว. เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาท ว. ถึงแก่ความตาย โจทก์ในฐานะทายาท ว. เนื่องจากเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นผู้สืบสิทธิในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาท อ. บุตรเลี้ยงของโจทก์นำโฉนดที่ดินพิพาทไปวางเป็นประกันเงินกู้ไว้แก่จำเลยในขณะที่ ว. ยังมีชีวิตอยู่โดยมิได้รับความยินยอมจาก ว. เป็นการไม่ชอบ จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินพิพาท ขอให้บังคับจำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาท เป็นการบรรยายโดยแจ้งชัดแล้ว แม้ฟ้องโจทก์จะมิได้บรรยายว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาททั้งหมดหรือเป็นเจ้าของร่วมในสัดส่วนเท่าใด ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์อาจนำสืบให้ปรากฏในชั้นพิจารณา ไม่ต้องกล่าวในฟ้อง ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องเรียกโฉนดที่ดินพิพาทคืน โดยอ้างสิทธิในฐานะเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งเป็นทายาทของผู้ตาย จำเลยยึดถือโฉนดที่ดินพิพาทไว้โดยไม่มีสิทธิ เมื่อโจทก์ทวงถามให้จำเลยคืนโฉนดดังกล่าวแก่โจทก์แล้ว จำเลยเพิกเฉย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในฐานะเป็นทายาทผู้สืบสิทธิในที่ดินพิพาท โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้