คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกอบวิชาชีพเวชกรรม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาเกี่ยวกับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, การประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียน, และการยกเลิกกฎหมายเดิมด้วยกฎหมายใหม่
พระราชบัญญัติ ควบคุมการประกอบโรคศิลปะฯ ในส่วนที่เกี่ยวกับเวชกรรม ได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2511 แล้ว ดังนั้นที่ศาลล่างพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะฯ ตามคำขอของโจทก์จึงไม่ถูกต้องปัญหานี้แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, โฆษณาเท็จ, และประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จำเลยที่ 1 มิได้เป็นแพทย์และมิได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะ จัดให้มีการโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคหลายชนิดให้หายได้ ประชาชนหลงเชื่อได้พากันไปรับรักษาโรคต่าง ๆ กับจำเลยที่ 1 วันละประมาณ 50 - 60 คน แต่ไม่หาย เพราะจำเลยที่ 1 มิได้รักษาโรคตามวิธีที่ถูกต้อง ในการรักษาดังกล่าวจำเลยคิดค่ารักษาคนละ 59 บาท ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน และได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากการหลอกลวง จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
ผู้ตายเป็นโรคน้ำเลี้ยงสมองโป่งพอง มีเนื้อโป่งพองที่ดั้งจมูกมาแต่กำเนิดมารดาพาไปให้จำเลยที่ 1 รักษา จำเลยที่ 1 ใช้เข็มฉีดยาเจาะเนื้อที่โป่งพองแล้วเป่าพ่นด้วยน้ำลาย เมื่อเจาะแล้วมีน้ำใส ๆ ไหลออกมาจากรูที่เจาะไม่หยุด กับมีอาการซูลซีดลงและอ่อนเพลีย หลังจากนั้นอีก 6 วันก็ถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 1 กระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนภายหลังกฎหมายใหม่มีผลใช้บังคับ ศาลไม่อาจลงโทษตามกฎหมายเดิม
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2512 จำเลยซึ่งไม่มีความรู้ในวิชาชีพที่จะประกอบโรคศิลปะทุกสาขา ได้บังอาจประกอบโรคศิลปะในสาขาเวชกรรม โดยรับจ้างรักษาโรคทั่วไป และฉีดยาให้แก่บุคคลทั่วไป ทั้งนี้ โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะจากคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2479 มาตรา 11,21 ตามที่มีแก้ไข ข้อเท็จจริงได้ความตามฟ้อง แต่เวลาที่จำเลยกระทำผิด พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะในส่วนที่เกี่ยวกับเวชกรรมได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2511 แล้ว ศาลจะพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะตามที่โจทก์ขอมาท้ายฟ้องหาได้ไม่ และจะใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 4 มาปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2511 หาได้ไม่ เพราะการที่โจทก์อ้างกฎหมายที่ยกเลิกแล้วมาขอให้ลงโทษจำเลยนั้น เท่ากับไม่ได้อ้างกฎหมายอันใดมาเลย จึงไม่ใช่เรื่องอ้างฐานความผิดหรือบทกฎหมายผิด
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11570/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตและการขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 4 บัญญัติว่า "วิชาชีพเวชกรรม" หมายความว่า "วิชาชีพที่กระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจโรค การวินิจฉัยโรค..." การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามพระราชบัญญัติดังกล่าว สั่งจ่ายยารักษาให้แก่สายลับหลังจากจำเลยที่ 1 ตรวจและวินิจฉัยโรคให้แก่สายลับแล้ว โดยจำเลยที่ 2 ทำหน้าที่จัดยาให้ตามใบสั่งแพทย์ของจำเลยที่ 1 และเก็บเงิน ล้วนเป็นการกระทำที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ดังนั้น จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 อีกกระทงหนึ่งด้วย