พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4803/2548
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลบังคับใช้ประกาศกฎหมาย: กำหนดวันเริ่มต้นหีบอ้อยและโทษปรับย้อนหลัง
ตาม พ.ร.บ. อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 มาตรา 17 วรรคท้าย กำหนดว่า การกำหนดตาม (11), (13) คือ การกำหนดวันเริ่มต้นการหีบอ้อยและน้ำตาลทราย การกำหนดชนิด คุณภาพ และปริมาณน้ำตาลทรายที่ให้โรงงานผลิต ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งแสดงว่าประกาศดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับได้ต่อเมื่อมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และวันที่มีผลบังคับใช้ก็คือวันที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา การที่จะออกประกาศให้มีผลใช้บังคับย้อนหลังและเป็นโทษแก่ผู้ถูกบังคับนั้นย่อมเป็นการไม่ชอบ ดังนั้น เมื่อมีการลงประกาศดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 21 มกราคม 2537 ต้องถือว่าประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2537 เป็นต้นไป การที่จำเลยทั้งสองออกคำสั่งให้โจทก์ชำระเบี้ยปรับจากการที่โจทก์หีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2536 ถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2536 อันเป็นการกระทำก่อนวันที่ประกาศมีผลบังคับใช้ จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์การปิดประกาศกฎหมายป่าไม้เพื่อใช้บังคับ จำเป็นต้องมีการนำสืบหลักฐานการปิดประกาศ ณ สถานที่ที่กฎหมายกำหนด
ประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และเรื่องกำหนดเขตควบคุมสิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้หวงห้าม มิใช่กฎหมาย โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้ได้ความว่า ได้ปิดสำเนาประกาศตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 5 แห่งพ.ร.บ. ป่าไม้ฯ แล้ว ทั้งนี้ไม่ว่าจำเลยจะยกขึ้นต่อสู้หรือไม่ก็ตามเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ แต่โจทก์ไม่นำสืบให้ได้ความเช่นนั้น จึงลงโทษจำเลยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2682-2683/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปิดประกาศกฎหมายไม้หวงห้ามและการฟ้องซ้ำในคดีไม้ผิดกฎหมาย
โจทก์ระบุในฟ้องว่าเหตุเกิดที่ตำบลใดไม่ปรากฏชัด อำเภอคีรีรัฐนิคมจังหวัดสุราษฎร์ธานีและตำบลดอนยางอำเภอปะทิวจังหวัดชุมพรเมื่อได้ปิดประกาศสำเนาพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม (ฉบับที่2) พ.ศ.2510 ซึ่งกำหนดไม้ชาเรียน หรือทุเรียนป่าเป็นไม้หวงห้าม ณ ที่ว่าการอำเภอปะทิวและที่ทำการกำนันตำบลดอนยาง อันเป็นที่เกิดเหตุแห่งหนึ่งแล้ว ถือได้ว่าได้มีการปิดประกาศสำเนาพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้ามดังกล่าวในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา5 แล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 สองสำนวนในความผิดต่างกรรมกันศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณา มิใช่กรณีศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยอีกในการกระทำอันเดียวกัน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการฟ้องซ้ำ.
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 สองสำนวนในความผิดต่างกรรมกันศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณา มิใช่กรณีศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยอีกในการกระทำอันเดียวกัน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการฟ้องซ้ำ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีไม้หวงห้าม ต้องบรรยายรายละเอียดประกาศทางกฎหมายในฟ้อง หากไม่บรรยาย ฟ้องไม่สมบูรณ์
ฟ้องว่าตั้งโรงค้าไม้สักแปรรูปและมีไม้สักแปรรูป ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าไม่บรรยายในฟ้องว่า ตั้งโรงค้าไม้และมีไม้หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตามกฎหมายแล้ว ฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกาศกฎหมายไม้หวงห้าม
ฟ้องว่าตั้งโรงค้าไม้สักแปรรูปและมีไม้สักแปรรูป ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าไม่บรรยายในฟ้องว่า ตั้งโรงค้าไม้และมีไม้หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตามกฎหมายแล้ว ฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีตัดไม้หวงห้าม: การระบุประกาศกฎหมายในเอกสารท้ายฟ้องถือว่าสมบูรณ์
การฟ้องหาว่าตัดไม้ประเภทหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เมื่อโจทก์บรรยายว่าพระราชกฤษฎีกาและประกาศรัฐมนตรีได้คัดสำเนาไว้แล้วดังปรากฎตามสำเนาท้ายฟ้อง ซึ่งมีหมายเหตุว่ารายการอันเป็นส่วนหนึ่งแห่งฟ้องระบุว่าได้ประกาศไว้ ณ ที่นั้น ๆ แล้ว ดังนี้ถือว่าฟ้องโจทก์ในข้อนี้สมบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์การประกาศกฎหมายป่าไม้: โจทก์ต้องแสดงหลักฐานการติดประกาศเพื่อให้ประชาชนทราบ
ในคดีที่ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องให้ปรากฏด้วยว่าได้มีการคัดสำเนาพระราชกฤษฎีกา หรือประกาศรัฐมนตรีซึ่งกำหนดขึ้น ตามบทแห่ง พ.ร.บ.นี้ไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการกำนัน หรือที่สาธารณสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องแล้ว ถ้าในฟ้องมิได้กล่าวไว้ทั้งตามท้องสำนวนก็ไม่ได้ความตามที่ พ.ร.บ.กำหนดไว้ แม้จำเลยรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์การประกาศกฎหมายป่าไม้: จำเป็นต้องแสดงการคัดลอกประกาศ ณ ที่สาธารณะเพื่อใช้ในการดำเนินคดี
ในคดีที่ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484โจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องให้ปรากฏด้วยว่าได้มีการคัดสำเนาพระราชกฤษฎีกา หรือประกาศรัฐมนตรีซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่ง พระราชบัญญัติ นี้ไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่ทำการกำนัน หรือที่สาธารณสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องแล้วถ้าในฟ้องมิได้กล่าวไว้ทั้งตามท้องสำนวนก็ไม่ได้ความตามที่ พระราชกฤษฎีกากำหนดไว้ แม้จำเลยรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2352/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในฟ้องและการลงโทษตามประกาศกฎหมาย: จำเลยไม่อาจอ้างว่าไม่รู้กฎหมายได้
คำฟ้องบรรยายชัดแจ้งถึงประกาศกรมสรรพสามิตเรื่อง กำหนดราคายาสูบเพื่อประโยชน์ในการคำนวณค่าปรับ ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2542 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 26 (พ.ศ.2544) พร้อมรายละเอียดของวันที่ได้ประกาศ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ย่อมเป็นการรับสารภาพตามข้อความที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ทั้งกฎกระทรวงดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2544 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศกฎกระทรวงดังกล่าวจึงมีผลใช้บังคับเช่นกฎหมาย การที่จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องจึงเป็นการเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยทราบประกาศกรมสรรพสามิตและกฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว จำเลยไม่อาจแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายเพื่อให้พ้นจากความรับผิดทางอาญาได้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามประกาศกรมสรรพสามิตและกฎกระทรวงดังกล่าวได้