พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7569/2549 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ระยะเวลาการยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนอง: นับจากประกาศขายทอดตลาดครั้งแรกที่ไม่มีผู้ประมูล จนถึงการประกาศขายใหม่
การขายทอดตลาดครั้งแรกไม่มีผู้สนใจเข้าประมูลราคา เจ้าพนักงานบังคับคดีได้งดการขายและประกาศขายทอดตลาดใหม่เป็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2544 ดังนั้น เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองคดีนี้ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 จึงเป็นการยื่นคำร้องขอก่อนเอาทรัพย์จำนองนั้นออกขายทอดตลาดแล้ว ส่วนวันที่ 18 สิงหาคม 2543 เป็นวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศให้มีการขายทอดตลาดครั้งแรกเท่านั้น โดยไม่มีการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวจริง จะถือว่าผู้ร้องยื่นคำร้องเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 289 วรรคสอง หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6970/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีจำนอง: ยอดหนี้ถูกต้องตามแจ้ง เจ้าพนักงานบังคับคดีระบุหนี้ในประกาศขายทอดตลาดได้
การที่จำเลยนำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่โจทก์นำยึดไปจดทะเบียนจำนองเพื่อเป็นประกันหนี้ไว้แก่ธนาคารทหารไทยเมื่อปี 2530 เป็นเงิน 62,000,000 บาท และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทโดยวิธีติดจำนองโดยระบุหนี้จำนอง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2537จำนวน 132,918,356.17 บาท ตามที่ธนาคารทหารไทยแจ้งยอดหนี้มานั้น เป็นเรื่องระหว่างจำเลยที่ 1 กับผู้รับจำนองซึ่งเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ หากยอดหนี้ดังกล่าวไม่ถูกต้องจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ย่อมสามารถตรวจสอบยอดหนี้กับธนาคารทหารไทย และร้องคัดค้านได้ แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้คัดค้านแต่อย่างใดจึงน่าเชื่อว่ายอดหนี้ที่แจ้งมาเป็นหนี้และดอกเบี้ยที่คิดคำนวณถูกต้องและโจทก์เป็นเพียงเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีระบุยอดหนี้จำนองไว้ในประกาศขายทอดตลาด ทรัพย์พิพาทโดยวิธีติดจำนองแจ้งแก่บุคคลภายนอกที่จะเข้ามาประมูลซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดทราบก็เพื่อคุ้มครองบุคคลภายนอกนั่นเอง จึงเป็นการกระทำที่ถูกต้องและสมควรแล้ว ไม่ต้องไต่สวนเกี่ยวกับยอดหนี้จำนองตามคำร้องของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3325/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจประกาศขายทอดตลาดโดยระบุภาระหนี้จำนอง แม้ดอกเบี้ยเกิน 5 ปี ไม่ถือเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินโดยติดจำนองและคิดดอกเบี้ยเกิน5ปีอาจทำให้ผู้เข้าประมูลเข้าใจผิดในยอดหนี้จำนองซึ่งเป็นการไม่สมควรแต่ก็ไม่ถึงกับเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใดจำเลยไม่มีสิทธิจะร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแก้ไขประกาศขายทอดตลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3885/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งประกาศขายทอดตลาดทางไปรษณีย์ถึงผู้เยาว์ (อายุ 17-18 ปี) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การส่งประกาศขายทอดตลาดโดยทางไปรษณีย์ตอบรับ หากผู้รับประกาศขายทอดตลาดมีอายุ 17 - 18 ปี การส่งเอกสารดังกล่าวก็ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 73 ทวิ, 76
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2617/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีเสร็จสิ้นแล้ว แม้จำเลยไม่ได้รับประกาศขายทอดตลาด จำเลยต้องคัดค้านภายใน 8 วันนับจากทราบการฝ่าฝืน
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินจำเลยโดยปลอดจำนอง โจทก์เป็นผู้ซื้อได้ ได้วางเงินค่าธรรมเนียมร้อยละห้าของราคาซื้อแล้ว ส่วนที่เหลือโจทก์ขอหักส่วนได้ใช้แทนราคาทรัพย์เสร็จแล้ว และศาลชั้นต้นได้มีหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนระงับการจำนองที่ดินแล้วโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ให้โจทก์ผู้ซื้อ เช่นนี้ การบังคับคดีเกี่ยวกับทรัพย์ของจำเลยถือได้ว่าเสร็จลงแล้ว หากจำเลยจะร้องคัดค้านจะต้องร้องภายในแปดวันนับจากวันทราบวันฝ่าฝืนกฎหมายและก่อนบังคับคดีได้เสร็จลง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง แม้จะฟังว่าจำเลยไม่ได้รับประกาศขายทอดตลาดอันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 ก็ตาม แต่จำเลยมิได้ยื่นคำคัดค้านก่อนบังคับคดีได้เสร็จลง จำเลยจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีที่เสร็จแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2617/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีเสร็จสิ้นแล้ว แม้จำเลยไม่ได้รับประกาศขายทอดตลาด หากไม่คัดค้านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินจำเลยโดยปลอดจำนองโจทก์เป็นผู้ซื้อได้ ได้วางเงินค่าธรรมเนียมร้อยละห้าของราคาซื้อแล้ว ส่วนที่เหลือโจทก์ขอหักส่วนได้ใช้แทนราคาทรัพย์เสร็จแล้ว และศาลชั้นต้นได้มีหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนระงับการจำนองที่ดินแล้วโอน กรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์ผู้ซื้อ เช่นนี้ การบังคับคดีเกี่ยวกับทรัพย์ของจำเลยถือได้ว่าเสร็จลงแล้ว หากจำเลยจะร้องคัดค้านจะต้องร้องภายในแปดวันนับจากวันทราบวันฝ่าฝืนกฎหมาย และก่อนบังคับคดีได้เสร็จลง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง แม้จะฟังว่าจำเลยไม่ได้รับประกาศขายทอดตลาดอันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 ก็ตาม แต่จำเลยมิได้ยื่นคำคัดค้านก่อนบังคับคดีได้เสร็จลง จำเลยจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีที่เสร็จแล้วได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2564
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการมีส่วนได้เสียในการประกาศขายทอดตลาด: ผู้ค้ำประกันไม่มีสิทธิเรียกร้อง
ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 306 (เดิม) ใช้บังคับอยู่ในขณะมีการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ลูกหนี้ตามคำพิพากษากำหนดไว้ว่าเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ขายทอดตลาดแล้ว การดำเนินการบังคับคดีให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะต้องแจ้งประกาศการขายทอดตลาดแก่บรรดาบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายนั้นให้ทราบด้วย แม้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นผู้หนึ่งที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะทำการขายทอดตลาดนั้นตามคำนิยามของมาตรา 280 (1) (เดิม) แต่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่จะเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องส่งประกาศการขายทอดตลาดให้ทราบตามบทบัญญัติมาตรา 306 (เดิม) นั้น ต้องเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่มีส่วนได้เสียโดยตรงในทรัพย์สินที่จะทำการขายทอดตลาดโดยต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น ไม่ว่าจะปรากฏทางทะเบียนหรือโดยประการอื่นก็ตาม เมื่อปรากฏว่าที่ดินทั้งแปดแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ประกาศขายทอดตลาดเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่มีส่วนได้เสียโดยตรงในทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดที่เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องแจ้งประกาศการขายทอดตลาดให้ทราบ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการของจำเลยที่ 1 และไม่ได้มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งแปดแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างร่วมกับจำเลยที่ 1 แต่อย่างใด แม้จำเลยที่ 2 ต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 รับผิดตามคำพิพากษาตามยอม และการขายทอดตลาดที่ดินทั้งแปดแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 อาจทำให้ความรับผิดตามคำพิพากษาตามยอมของจำเลยที่ 2 ที่มีต่อโจทก์เปลี่ยนแปลงเพราะหากขายทอดตลาดได้ในราคาสูงก็อาจเพียงพอแก่การชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมได้สิ้นเชิงหรือคงเหลือหนี้ค้างชำระจำนวนน้อยลงอันเป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 2 ตาม ป.พ.พ. มาตรา 292 วรรคหนึ่ง ด้วยก็ตาม แต่การเรียกชำระหนี้จากลูกหนี้คนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงหรือโดยส่วน เป็นสิทธิของโจทก์ที่จะเลือกบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ก็คงเป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 2 โดยทำให้ความรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในหนี้ตามคำพิพากษายอมลดลงเท่านั้น ส่วนความรับผิดท้ายสุดเป็นความรับผิดระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นลูกหนี้ร่วมตามคำพิพากษาตามยอมด้วยกันตามมาตรา 296 แห่ง ป.พ.พ.นั้น ต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น โดยอาจใช้สิทธิไล่เบี้ยกันเองภายหลังลูกหนี้คนใดคนหนึ่งชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ การขายทอดตลาดที่ดินทั้งแปดแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 จะได้ราคาทอดตลาดมากน้อยเพียงใด จึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความรับผิดของจำเลยที่ 2 ในระหว่างลูกหนี้ร่วมด้วยกันซึ่งเป็นความรับผิดโดยตรงแต่ประการใด จำเลยที่ 2 จึงมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงในที่ดินทั้งแปดแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องส่งประกาศการขายทอดตลาดให้ทราบด้วย กรณีไม่มีเหตุเพิกถอนการขายทอดตลาดตามคำร้องของจำเลยที่ 2