คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกาศคณะกรรมการ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5763/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเวนคืนที่ดิน: การบังคับชำระค่าทดแทนส่วนที่ขาดตามประกาศคณะกรรมการ แม้มีการจ่ายเงินบางส่วนแล้ว
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าทดแทนที่ดินส่วนที่ยังขาดอยู่ตามประกาศคณะกรรมการแก้ไขราคาเบื้องต้นจึงเป็นกรณีที่ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการดังกล่าวหาใช่กรณีที่โจทก์ไม่พอใจจำนวนเงินค่าทดแทนที่คณะกรรมการดังกล่าวกำหนดซึ่งต้องอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายใน60วันตามมาตรา25วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์พ.ศ.2530ที่แก้ไขใหม่ไม่โจทก์ทั้งสองจึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2365/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเคลื่อนย้ายสุกรขัดต่อประกาศคณะกรรมการฯ ความผิดตาม พรบ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร การริบของกลาง
คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรได้ประกาศระบุให้เนื้อสุกรเป็นสิ่งที่ควบคุมและประกาศห้ามมิให้จำหน่ายเนื้อสุกรเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ด้วย คณะกรรมการฯ จึงมีอำนาจประกาศห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสุกรมีชีวิตเข้าหรือออกนอกเขตอำเภอได้ ประกาศของคณะกรรมการฯ ดังกล่าวจึงเป็นประกาศที่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยฝ่าฝืนก็ต้องมีความผิด
สิ่งของที่จะพึงริบตามมาตรา 29 พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรฯ จะต้องเป็นสิ่งของที่เกี่ยวกับการกระทำผิดในการค้ากำไรโดยตรงคือเป็นสิ่งของที่เกี่ยวกับการกระทำผิดตามมาตรา 18 เมื่อการกระทำผิดของจำเลยเป็นเพียงฝ่า ประกาศของคณะกรรมการฯ ตามมาตรา 17 สุกรของกลางจึงไม่ใช่เป็นของอันจะพึงริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2068/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจคณะกรรมการส่วนจังหวัดในการออกประกาศห้ามนำสินค้าควบคุมเข้ามาในท้องที่เพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควร
คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร ได้ออกประกาศระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของและกำหนดราคาสูงสุดของสิ่งของนั้นตามข้อ 1 มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. 2490 กับห้ามขายสิ่งของที่ระบุชื่อนั้นเกินราคาที่กำหนดย่อมเท่ากับสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของนั้นในเขตท้องที่ที่อยู่ในอำนาจไว้ก่อนแล้ว แล้วได้ออกประกาศห้ามนำสิ่งของที่ระบุชื่อไว้แล้วนั้น นอกเขตท้องที่เข้ามาในท้องที่ อันเป็นการสั่งการเกี่ยวกับสิ่งของที่ห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรตามข้อ 6 ในมาตรา 8 แม้ต่อมาจะได้ออกประกาศอีกฉบับหนึ่งยกเลิกประกาศฉบับแรกแต่ก็เป็นเรื่องและมีข้อความอย่างเดียวกัน เว้นแต่ราคาสูงสุดของสิ่งของที่ห้ามค้ากำไรเกินควรเท่านั้นที่มีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ ถือได้ว่าคณะกรรมการฯ ได้ปฏิบัติครบถ้วนตามลำดับดังที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว ประกาศห้ามนำสิ่งของนอกเขตจังหวัดเข้ามาในเขตจังหวัดจึงมีผลบังคับใช้ได้
ประกาศระบุข้อความไว้แล้วว่าเพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควรเมื่อไม่มีข้อเท็จจริงในสำนวนจะให้ฟังได้เป็นอย่างอื่นก็ต้องฟังว่าประกาศฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควร
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 33/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.อากรฆ่าสัตว์ และการออกประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดเกินอำนาจ
ตามพ.ร.บ.อากรฆ่าสัตว์ พ.ศ.2488 บัญญัติไว้ว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้เพื่อขายซึ่งทรากสัตว์ฯ" แต่โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยมีเนื้อชำแหละไว้เพื่อขายก็ดี แต่คำว่าขายก็รวมอยู่ในคำว่าจำหน่ายด้วย ทั้งฐานความผิดที่โจทก์หาโจทก์ก็ได้ตั้งข้อหาว่าจำเลยทำผิดฐานสมคบกันมีทรากกระบือไว้เพื่อขายโดยไม่มีใบอนุญาตกำกับ คำขอให้ลงโทษก็เป็นเรื่องหาว่ามีไว้เพื่อขายและจำเลยก็รับสารภาพว่าได้ทำผิดตามฟ้องโจทก์ เช่นนี้ถือว่าจำเลยมีเนื้อกระบือชำแหละไว้เพื่อขายลงโทษจำเลยในฐานนี้ได้
ประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดพระนคร ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 5 ต.ค.96 ซึ่งประกาศห้ามมิให้ผู้ใดนำเนื้อกระบือชำแหละเข้ามาในเขตเทศบาลโดยฝ่าฝืนต่อประกาศฉบับดังกล่าวนั้น ประกาศฉบับนี้ออกโดยอาศัยอำนาจตามความใน พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ม.8(6),(8) แต่ไม่ปรากฏในว่าคดีนี้ว่าได้มีการห้ามการค้ากำไรเกินควรในเนื้อโคหรือกระบือชำแหละเลย ทั้งข้ออ้างของกรรมการในการออกประกาศก็ว่าเพื่อสวัสดิภาพของประชาชนผู้บริโภคและเพื่อช่วยสงวนพันธ์โคกระบือสำหรับเกษตรกรรมด้วยหาใช่เพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควรไม่ เมื่อเช่นนี้จึงถือว่าประกาศฉบับนี้นอกเหนือวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร จึงไม่ควรมีผลบังคับดังนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 737/2497.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวผิดกฎหมาย: การรับทราบประกาศคณะกรรมการฯ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิสูจน์ความผิด
โจทย์ฟ้องหาว่า จำเลยขนย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าว โดยไม่ได้รับอนุญาต และได้บรรยายในฟ้องว่า จำเลยได้ทราบประกาศคณะกรรมการฯ แล้ว จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องทราบประกาศคณะกรรมการหรือไม่ คงปฏิเสธว่ามิได้นำข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าว ดังนี้ เมื่อชั้นพิจารณาโจทก์ มีพยานผู้สอบสวนมาเบิกความประกอบคำให้การจำเลยชั้นสอบสวนว่า จำเลยรับว่าได้ทราบประกาศแล้ว ดังปรากฎในคำให้การชั้นสอบสวน จึงพอถือได้ว่า โจทก์ได้สืบถึงความที่ว่า จำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในความผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร: ของกลางต้องเกี่ยวกับการค้ากำไรโดยตรงเท่านั้น
ของกลางที่จะพึงริบตามมาตรา 29 นั้นจะต้องเป็นของที่เกี่ยวแก่การกระทำผิดในการค้ากำไรโดยตรงตามมาตรา 18 ส่วนสิ่งของที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิด ตามมาตรา 17 คือกระทำฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งคณะกรรมการหรือของพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่เป็นของอันจะพึงริบตามมาตรา 29
สุกรของกลางที่นำออกนอกเขตต์จังหวัดฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการฯ ไม่เป็นของอันจะพึงริบ ให้คืนเจ้าของไป
เมื่อไม่มีของกลางที่ศาลได้สั่งให้ริบไว้ คงให้จ่ายเงินรางวัลจากค่าปรับเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวภายในจังหวัด การตีความประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว และความผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่า ขนย้ายข้าวทางทะเล เป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ขอให้ลงโทษฐานขนย้ายข้าวออกนอกเขต แต่ประกาศของคณะกรรมการ ดังที่โจทก์ฟ้องปรากฏว่า เป็นประกาศอนุญาตให้ขนย้ายข้าวได้ภายในเขตจังหวัดเดียวกัน ดังนี้ จำเลยหามีความผิดฐานขนย้ายข้าวออกนอกเขตตามฟ้องโจทก์ไม่เพราะการที่จะเป็นผิดตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าวที่โจทก์อ้างต้องปรากฏว่าเป็นการขนย้ายออกนอกเขตตามมาตรา 10 เสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องความผิดพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ต้องแสดงหลักฐานประกาศคณะกรรมการกำหนดเวลาแจ้งข้าว และการฝ่าฝืนประกาศ
ความผิดฐานมีข้าวไว้ในครอบครองในเขตต์ห้ามกักกันข้าว โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489 ฟ้องต้องได้ความว่า ได้มีประกาศคณะกรรมการกำหนดเวลาให้ผู้มีข้าวเกินปริมาณมาแจ้ง และจำเลยทำฝ่าฝืนประกาศนั้น จึงจะมีผิด
ฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวถึงประกาศของคณะกรรมการ และมิได้ยื่นสำเนาประกาศมาท้ายคำฟ้อง ซึ่งพอจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฟ้อง ดังนี้ ถือว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องที่ขาดสาระสำคัญและความเป็นกฎหมายของประกาศคณะกรรมการ: ศาลยกฟ้อง
ประกาศคณะกรรมการฉะบับหลังที่ยกเลิกการควบคุม ไม่เป็นกฎหมายยกเลิกความผิดตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 39(5)
ฟ้องว่าจำเลยมีผ้าแล้วไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บ แต่มิได้ระบุว่าจำเลยมีผ้าเท่าไร ดังนี้เป็นคำฟ้องที่ขาดสาระสำคัญแห่งความผิด ต้องยกฟ้อง