พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5297/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิลาเพื่อร่วมกิจกรรมสหภาพแรงงาน: ขอบเขตการลาเพื่อร่วมประชุมที่ทางราชการกำหนด
พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 102 เป็นการให้สิทธิลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานลาเพื่อไปดำเนินกิจการสหภาพแรงงาน และไปร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดได้ จึงต้องหมายถึงการไปร่วมประชุมในเรื่องที่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานที่ทางราชการกำหนดขึ้นและต้องเป็นสหภาพแรงงานที่ลูกจ้างดังกล่าวสังกัดอยู่เท่านั้น มิใช่สหภาพแรงงานใดก็ได้โดยไม่มีขอบเขตจำกัด มิฉะนั้นลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานก็จะอ้างสิทธิไปร่วมประชุมในเรื่องที่ทางราชการกำหนดได้ทุกเรื่อง หากกฎหมายประสงค์จะให้สิทธิลูกจ้างไปประชุมในเรื่องอื่นก็จะต้องบัญญัติไว้ ดังนั้น การที่ ส.ไปร่วมประชุมในฐานะอนุกรรมการแรงงานสัมพันธ์เกี่ยวกับกรณีลูกจ้างบริษัท ว.ยื่นคำร้องกล่าวหาว่าถูกนายจ้างกระทำการอันไม่เป็นธรรม ซึ่งไม่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานโจทก์ที่ส.สังกัดอยู่ ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการเป็นส่วนตัว หาใช่เป็นการร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดไม่ จึงไม่ก่อให้ ส.เกิดสิทธิลาไปร่วมประชุมตามนัยมาตรา 102 จึงถือไม่ได้ว่าวันที่ ส.ลาไปร่วมประชุมคณะอนุกรรมการแรงงานสัมพันธ์ดังกรณีข้างต้นรวม 8 วัน เป็นวันทำงาน เมื่อ ส.เป็นลูกจ้างรายวันและไม่ได้ทำงานในวันดังกล่าว จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับวันลาทั้ง 8 วันนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5297/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิลาเพื่อร่วมประชุมของกรรมการสหภาพแรงงานต้องเกี่ยวข้องกับสหภาพแรงงานที่ตนสังกัดเท่านั้น
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ.2518มาตรา102ให้สิทธิลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานลาเพื่อไปดำเนินกิจการสหภาพแรงงานและไปร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดได้หมายถึงการไปร่วมประชุมในเรื่องที่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานที่ทางราชการกำหนดขึ้นและต้องเป็นสภาพแรงงานที่ลูกจ้างดังกล่าวสังกัดอยู่เท่านั้นมิฉะนั้นลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานก็จะอ้างสิทธิไปร่วมประชุมในเรื่องที่ทางราชการกำหนดได้ทุกเรื่องโดยไม่มีขอบเขตจำกัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5297/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิลาเพื่อประชุมสหภาพแรงงาน: ต้องเกี่ยวเนื่องกับสหภาพแรงงานที่สังกัดเท่านั้น
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ.2518มาตรา102เป็นการให้สิทธิลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานลาเพื่อไปดำเนินกิจการสหภาพแรงงานและไปร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดได้จึงต้องหมายถึงการไปร่วมประชุมในเรื่องที่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานที่ทางราชการกำหนดขึ้นและต้องเป็นสหภาพแรงงานที่ลูกจ้างดังกล่าวสังกัดอยู่เท่านั้นมิใช่สหภาพแรงงานใดก็ได้โดยไม่มีขอบเขตจำกัดมิฉะนั้นลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานก็จะอ้างสิทธิไปร่วมประชุมในเรื่องที่ทางราชการกำหนดได้ทุกเรื่องหากกฎหมายประสงค์จะให้สิทธิลูกจ้างไปประชุมในเรื่องอื่นก็จะต้องบัญญัติไว้ดังนั้นการที่ส. ไปร่วมประชุมในฐานะอนุกรรมการแรงงานสัมพันธ์เกี่ยวกับกรณีลูกจ้างบริษัทว.ยื่นคำร้องกล่าวหาว่าถูกนายจ้างกระทำการอันไม่เป็นธรรมซึ่งไม่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานโจทก์ที่ส. สังกัดอยู่ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการเป็นส่วนตัวหาใช่เป็นการร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดไม่จึงไม่ก่อให้ส.เกิดสิทธิลาไปร่วมประชุมตามนัยมาตรา102จึงถือไม่ได้ว่าวันที่ส. ลาไปร่วมประชุมคณะอนุกรรมการแรงงานสัมพันธ์ดังกรณีข้างต้นรวม8วันเป็นวันทำงานเมื่อส. เป็นลูกจ้างรายวันและไม่ได้ทำงานในวันดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับวันลาทั้ง8วันนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประชุมผู้ถือหุ้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังไม่ถูกเพิกถอน มีผลบังคับใช้ได้ จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเพิกถอน
แม้ ส. กรรมการของโจทก์เรียกประชุมใหญ่โดยจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นกรรมการด้วยจะไม่ได้มีมติให้นัดเรียกประชุมใหญ่ การนัดเรียกประชุมใหญ่จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 แต่หาทำให้การประชุมใหญ่และมติที่เกิดขึ้นเสียไปหรือตกเป็นโมฆะไม่ จนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่อันผิดระเบียบนั้นเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจกรรมการและการประชุมที่ชอบด้วยกฎหมายภายใต้ พ.ร.บ.เช่าที่ดินฯ และประกาศคณะปฏิวัติ
การที่พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524มาตรา 7(2) ระบุ บุคคลที่เป็นคณะกรรมการโดยมิได้มีข้อความให้อำนาจบุคคลอื่นทำการแทน ดังนั้นกรรมการคนใดคนหนึ่งจะมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นมาประชุมแทนในฐานะกรรมการตามพระราชบัญญัติ การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ดังกล่าวย่อมเป็นไปตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับ 218 ข้อ 44 วรรคสอง(ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้น) ซึ่งบัญญัติให้ผู้ดำรงตำแหน่งใดหรือผู้รักษาราชการแทนผู้ดำรงตำแหน่งนั้นสามารถมอบหมายหรือมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติราชการแทนได้โดยให้ผู้ปฏิบัติราชการแทนมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ซึ่งมอบหมายหรือมอบอำนาจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1869/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการมูลนิธิผิดพลาดและการถอดถอนประธานกรรมการ กรณีไม่เรียกประชุมและละเลยหน้าที่ตามตราสาร
ผู้คัดค้านเป็นประธานกรรมการและผู้จัดการมูลนิธิ เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับการย้ายทรัพย์สินและที่ทำการของมูลนิธิคณะกรรมการมูลนิธิจำนวน 4 คน ได้มีหนังสือขอให้ผู้คัดค้านเรียกประชุมวิสามัญ แต่ผู้คัดค้านไม่ยอมเรียกประชุมและเมื่อคณะกรรมการมูลนิธิมีหนังสือถึงนายทะเบียนมูลนิธิขอให้แจ้งผู้คัดค้านเรียกประชุมผู้คัดค้านก็ตอบ ปฏิเสธ เมื่อกรรมการและเหรัญญิกของมูลนิธิถึงแก่กรรม ผู้คัดค้านก็ไม่เรียกประชุมกรรมการเพื่อแต่งตั้งเหรัญญิกคนใหม่ ทำให้การเบิกจ่ายเงินของมูลนิธิไม่สามารถทำได้ และเมื่อถึงคราวที่จะต้องเรียกประชุมสามัญประจำปีผู้คัดค้านก็ไม่เรียกประชุมตามตราสารของมูลนิธิ ทำให้เกิดข้อขัดข้องในการบริหารงานของมูลนิธิ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการปฏิเสธการเรียกประชุมโดยไม่มีเหตุสมควรเป็นการจัดการผิดพลาด และเป็นการฝ่าฝืนข้อความแห่งตราสารก่อตั้งมูลนิธิ ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอให้ถอด ถอนผู้คัดค้านออกจากตำแหน่งได้ตามนัยแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 91.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1512/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม กรณีลูกจ้างไม่เข้าประชุม นายจ้างต้องลงโทษตามข้อบังคับเท่านั้น
ตามข้อบังคับในการปฏิบัติงานของห้างจำเลยระบุว่า ฝ่ายตรวจสอบ ต้องเข้าประชุมทุกเดือนตามแต่ทางห้างกำหนด.....ถ้าฝ่าฝืนจะถูก สั่งพักงานไม่น้อยกว่า 30 วัน ข้อบังคับดังกล่าวถือได้ว่าเป็น ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม หากฝ่าฝืนจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างมีสิทธิที่จะสั่งลงโทษพักงานโจทก์ได้ไม่น้อยกว่า 30 วัน การที่จำเลยลงโทษเลิกจ้างโจทก์เพราะไม่เข้าประชุม เป็นการลงโทษที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับดังกล่าว จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม การที่โจทก์ไม่เข้าประชุมเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับในการปฏิบัติงานหรือคำสั่งของจำเลยซึ่งโจทก์เพียงแต่จะต้องถูกสั่งพักงานไม่น้อยกว่า 30 วันเท่านั้น จึงไม่ใช่เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยเป็นกรณี ร้ายแรงอันจำเลยจะไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย แต่เป็นการจงใจขัดคำสั่งของ นายจ้างอันชอบด้วยกฎหมาย จำเลยมีสิทธิเลิกจ้างได้โดยไม่ต้อง บอกกล่าวล่วงหน้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1522/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปิดประชุมโดยไม่ได้รับอนุญาตในโรงงานและการลงโทษตักเตือน
ตามระเบียบและข้อบังคับในการทำงานของนายจ้างระบุห้ามเปิดประชุมในบริเวณโรงงานก่อนได้รับอนุญาตจากนายจ้าง ผู้คัดค้านทั้งสามเป็นกรรมการลูกจ้างได้ร่วมกันถือโอกาสแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประชุมกันระหว่างนายจ้างกับคณะกรรมการลูกจ้างและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงาน สรุปว่าพนักงานบางส่วนถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม มีคนข่มขู่และใช้อิทธิพลขอให้ผนึกกำลัง ร่วมกันต่อสู้ โดยกล่าวต่อพนักงานที่กำลังรับประทานอาหารในโรงอาหารในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน ดังนี้แม้การรับประทานอาหารในช่วงเวลาที่พักมิใช่การมาร่วมพบกันเพื่อปรึกษาหารือกันก็ตาม แต่ก็เป็นการชุมนุมอย่างหนึ่งอันอยู่ในความหมายของการประชุมด้วย เมื่อมีการประชุมแล้วผู้คัดค้านทั้งสามถือโอกาสกระทำการดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นการเปิดประชุมต้องตามระเบียบ ฯ ของนายจ้างแล้ว ผู้คัดค้านทั้งสามกระทำโดยมิได้รับอนุญาตจากนายจ้างก่อนย่อมเป็นการผิดระเบียบ ฯ ดังกล่าวชอบที่นายจ้างจะลงโทษตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรตามระเบียบ ฯ นั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2603-2604/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้าง: การมาประชุมสายและการพิจารณาความร้ายแรงของวินัย
จำเลยเรียกประชุมพนักงานทั้งหมดก่อนเวลาทำงานปกติถึงสองชั่วโมง คำสั่งนัดพนักงานมาประชุมก็ระบุเพียงว่าจำเลยมีความประสงค์จะขอความคิดเห็นและขอความร่วมมือ หาได้ระบุเน้นความสำคัญของหัวข้อประชุมไม่ ทั้งไม่ปรากฏว่าการประชุมในวันนี้มีเรื่องสำคัญอะไร โจทก์ไม่ได้ขาดประชุมเพียงแต่มาประชุมไม่ทันกำหนดเวลานัดเท่านั้น และไม่ปรากฏว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยอย่างไร การกระทำของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือขัดคำสั่งของจำเลย ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามระเบียบข้อบังคับของจำเลย หรือเป็นความผิดกรณีที่ร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47 และไม่เข้ากรณีที่จะเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ด้วยเหตุดังกล่าวจึงต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการลอกกล่าวล่วงหน้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิลาเพื่อร่วมประชุมของกรรมการสหภาพแรงงานต้องเกี่ยวข้องกับกิจการสหภาพฯ ไม่ครอบคลุมการสัมมนาทั่วไป
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 102 อยู่ในหมวด 7 ว่าด้วย'สหภาพแรงงาน'มีความตอนต้นให้สิทธิลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานลาเพื่อไปดำเนินกิจการสหภาพแรงงาน ฉะนั้น ข้อความในตอนต่อมาที่ว่า มีสิทธิไปร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดได้จึงต้องหมายถึงการไปร่วมประชุมใน เรื่องที่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานที่ทางราชการกำหนดขึ้นเท่านั้นย่อมไม่หมายถึงการประชุมในเรื่องใด ๆ โดยไม่มีขอบเขต จำกัด มิฉะนั้นลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานก็จะอ้างสิทธิไปร่วมประชุมในเรื่องที่ทางราชการกำหนดได้ทุกเรื่อง