คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประมง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2110/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเรือและเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย: การตีความ 'เครื่องมือทำการประมง' ตาม พ.ร.บ.การประมง
พ.ร.บ.การประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 4 (3) บัญญัติว่า "เครื่องมือทำการประมง หมายความว่า เครื่องกลไก เครื่องใช้ เครื่องอุปกรณ์ ส่วนประกอบ อาวุธ เสาหลัก หรือเรือ บรรดาที่ใช้ทำการประมง" ดังนั้น เรือยนต์และอวนลากแขกจึงเป็นเครื่องมือทำการประมง เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้ออกประกาศจังหวัดชลบุรี เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมืออวนลากคานถ่างหรืออวนลากแขกที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงในเขตที่ระบุไว้โดยเด็ดขาด เรือยนต์และอวนลากแขกที่จำเลยใช้ทำการประมงในเขตดังกล่าว จึงเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงตามมาตรา 32 (2) ซึ่งต้องริบตามมาตรา 70

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2110/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเรือและอุปกรณ์ทำการประมงที่ฝ่าฝืนประกาศห้ามใช้เครื่องมือประมง
พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 4(3)บัญญัติว่า "เครื่องมือทำการประมง หมายความว่า เครื่องกลไกเครื่องใช้ เครื่องอุปกรณ์ ส่วนประกอบ อาวุธ เสาหลัก หรือเรือบรรดาที่ใช้ทำการประมง" ดังนั้นเรือยนต์และอวนลากแขกจึงเป็นเครื่องมือทำการประมง เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้ออกประกาศจังหวัดชลบุรี เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมืออวนลาก คาน ถ่างหรืออวนลากแขกที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงในเขตที่ระบุไว้โดยเด็ดขาด เรือยนต์และอวนลากแขกที่จำเลยใช้ทำการประมงในเขตดังกล่าว จึงเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงตามมาตรา 32(2) ซึ่งต้องริบตามมาตรา 70

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2177/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเรือยนต์ที่ใช้ทำประมงผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.การประมง เนื่องจากเข้าข่ายเครื่องมือทำการประมงที่ถูกห้าม
พ.ร.บ. การประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 4(3) บัญญัติให้เรือที่ใช้ทำการประมงเป็นเครื่องมือทำการประมง และได้มีประกาศกระทรวงเกษตร กำหนดเขตห้ามใช้เครื่องมืออวนลากและอวนรุน ที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงในเขตที่ระบุไว้ เมื่อจำเลยใช้เรือยนต์ของกลางทำการประมงในเขตดังกล่าวโดยใช้กับอวนรุน เรือยนต์ดังกล่าวจึงเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงตาม พ.ร.บ.การประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 32(2) ซึ่งต้องริบตามมาตรา 70.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2177/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเรือยนต์และอวนรุนที่ใช้ทำการประมงในเขตห้าม ตาม พ.ร.บ.การประมง
พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 4(3) บัญญัติให้เรือที่ใช้ ทำการประมงเป็นเครื่องมือทำการประมง และได้มีประกาศกระทรวงเกษตร กำหนดเขตห้ามใช้เครื่องมืออวนลากและอวนรุนที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงในเขตที่ระบุไว้ เมื่อจำเลยใช้เรือยนต์ของกลางทำการประมงในเขตดังกล่าวโดยใช้กับอวนรุน เรือยนต์ดังกล่าวจึงเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงตาม พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 32(2) ซึ่งต้อง ริบตาม มาตรา 70.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิดสองกรรมจากวัตถุระเบิดทำการประมง: ใช้วัตถุระเบิดและครอบครองปลาเพื่อการค้า ต้องเรียงกระทง
ความผิดฐานใช้วัตถุระเบิดทำการจับปลาและความผิดฐานมีปลาที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองเพื่อการค้ากฎหมายบัญญัติไว้คนละมาตรากัน และแยกการกระทำออกได้เป็นสองตอนต่างกรรมต่างวาระกัน แม้จะเป็นการกระทำต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ต้องถือว่าเป็นการกระทำผิดสองกรรมจะต้องเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา91

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3166-3167/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของเรือต้องรับผิดชอบต่อการกระทำผิดของลูกจ้างที่ควบคุมเรือประมงในพื้นที่หวงห้าม แม้จะอ้างว่าไม่รู้เห็น
ผู้ร้องมอบเรือให้ลูกจ้างควบคุมเรือทำการประมง ลูกจ้างนำเรือไปทำการประมงในที่หวงห้าม ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติการประมง ผู้ร้องอ้างว่าไม่รู้เห็นเป็นใจ ในการที่ลูกจ้างทำผิดขอรับเรือคืนมิให้ริบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติสัมพันธ์บัญชีเดินสะพัด: การประมงโดยมีผู้สนับสนุนทางการเงิน
การที่ ซ. ได้ออกเงินและสิ่งขอให้ ก. ทำการประมงเมื่อได้ปลามาส่งให้แก่ ซ. แล้ว ซ. ก็รับขนส่งไปให้ บ. ขาย บ. จะหักเงินค่าขายผลาของ บ. ไว้ 5 เปอร์เซ็นต์ และอีก 5 เปอร์เซ็นต์เป็นค่าบำเหน็จของ ซ. เพราะ ซ. ออกทุนให้ ก. แล้วส่งบิลและเงินค่าขายปลาให้ ซ. ซ. ลงบัญชีไว้แล้วมอบบิลให้ ก. ไปลงบัญชีของตนเพื่อจะได้ตรวจสอบคิดหักบัญชีกันทำให้รู้ได้ว่าฝ่ายใดยังเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้กันจำนวนเงินเท่าใดโดยมีสมุดบัญชีเบิกเงินรายวันสมุดบัญชีน้ำมัน สมุดบัญชีขายปลา เป็นพยานหลักฐาน เช่นนี้นิติสัมพันธ์ระหว่าง ก. กับ ซ. เข้าลักษณะบัญชีเดินสะพัดตามมาตรา 856 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลูกผักบุ้งในพื้นที่ประทานบัตรประมง การละเมิดสิทธิ และค่าเสียหาย
จำเลยปลูกผักบุ้งไว้ในลำคลองสาธารณะตรงหน้าที่ดินและบ้านเรือนของจำเลยก่อนโจทก์ได้รับประทานบัตรให้เป็นผู้มีสิทธิทำการประมงในลำคลองนั้น โจทก์ขัดข้องในการทำการประมงเพราะแพผักบุ้งของจำเลย ทางการจึงอนุญาตให้จำเลยเทียบแพผักบุ้งได้เฉพาะพื้นที่ตามเขตหน้าบ้าน แต่แพผักบุ้งของจำเลยยาวเกินกว่าเขตหน้าบ้าน เช่นนี้ ส่วนที่เกินเลยออกไปทางการชี้แจงห้ามปรามแล้ว เมื่อจำเลยไม่ฟังและโจทก์ได้รับความเสียหายเพราะการกระทำของจำเลย ย่อมเป็นการละเมิด ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดสิทธิประมงจากการปลูกผักบุ้งรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ แม้ได้รับอนุญาตสวนครัว แต่เกินขอบเขตที่กำหนด
จำเลยปลูกผักบุ้งไว้ในลำคลองสาธารณะตรงหน้าที่ดินและบ้านเรือนของจำเลยก่อนโจทก์ได้รับประทานบัตรให้เป็นผู้มีสิทธิทำการประมงในลำคลองนั้น โจทก์ขัดข้องในการทำการประมงเพราะแพผักบุ้งของจำเลย ทางการจึงอนุญาตให้จำเลยเทียบแพผักบุ้งได้เฉพาะพื้นที่ตามเขตหน้าบ้าน แต่แพผักบุ้งของจำเลยยาวเกินกว่าเขตหน้าบ้าน เช่นนี้ส่วนที่เกินเลยออกไปทางการชี้แจงห้ามปรามแล้วเมื่อจำเลยไม่ฟังและโจทก์ได้รับความเสียหายเพราะการกระทำของจำเลยย่อมเป็นการละเมิด ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมงในบ่อส่วนตัว: บ่อต้องไม่ล่อสัตว์น้ำจากที่จับสัตว์น้ำสาธารณะจึงไม่ผิด
การวิดบ่อล่อสัตว์สัตว์น้ำอันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 18 แก้ไขโดย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2496 มาตรา 4 นั้น ต้องได้ความว่าเป็น บ่อล่อสัตว์น้ำ จากที่จับสัตว์น้ำ ดังที่กฎกระทรวง(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2490 ว่าด้วยบ่อล่อสัตว์น้ำ ออกตามความในพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 ข้อ 1 กำหนดไว้ สำหรับ หนอง ก็ เฉพาะที่เป็นหนองสาธารณะ จึงจะเป็นที่จับสัตว์น้ำตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 มาตรา 4(5) เมื่อข้อเท็จจริงยุติว่า หนอง(พิพาท) ไม่ใช่หนองสาธารณะก็ไม่เป็นที่จับสัตว์น้ำ บ่อล่อปลาของจำเลยในหนองดังกล่าว จึงถือไม่ได้ว่าเป็นบ่อล่อสัตว์น้ำ ดังนี้ จำเลยวิดน้ำทำการประมงในบ่อของจำเลย จึงเอาผิดแก่จำเลยมิได้ (อ้างนัยฎีกาที่ 1103/2493)
of 3