คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประมูลซื้อ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5910/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยไม่สุจริตจากการฟ้องคดีสมยอมและประมูลซื้อ
การกู้ยืมเงินระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 เป็นการสมยอมกัน และจำเลยที่ 2 ทราบอยู่แล้วว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทการที่จำเลยที่ 2 นำหนี้สมยอมดังกล่าวมาฟ้องคดีแพ่งและยึดที่ดินพิพาทออกขายทอดตลาดแล้วประมูลซื้อที่ดินพิพาทจากการขายทอดตลาดนั้น จึงเป็นการได้มาโดยไม่สุจริต ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 1330
การที่คดีนี้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ถูกต้องครบถ้วนโดยที่ศาลชั้นต้นก็มิได้เรียกให้เสียให้ครบถ้วน ทั้งเมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาก็มิได้มีคำสั่งประการอื่นใด ก็หาทำให้กระบวนพิจารณาที่ดำเนินมาแล้วต้องเสียไปแต่ประการใดไม่ กรณีเป็นเรื่องของโจทก์และศาล จำเลยที่ 2ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องโต้แย้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8345/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องเงินคืนจากการประมูลซื้อสิทธิการเช่าที่ถูกยกเลิก และการคืนเงินมัดจำเมื่อไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น
ผู้ร้องเป็นผู้ประมูลซื้อสิทธิการเช่าตึกแถวได้จากการขายทอดตลาดในราคา1,940,000บาทผู้ร้องได้ชำระราคาครบถ้วนในวันขายทอดตลาดและกรมบังคับได้มีหนังสือถึงศาลแพ่งให้ดำเนินการจดทะเบียนโอนสิทธิการเช่าตึกแถวดังกล่าวให้แก่ผู้ร้องแล้วแสดงว่าการซื้อขายเสร็จสิ้นลงแล้วคงอยู่ในระหว่างดำเนินการจดทะเบียนโอนสิทธิการเช่าเท่านั้นแต่จำเลยที่1ร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงงดการบังคับคดีไว้เพื่อรอคำสั่งศาลและได้ให้ผู้ร้องรับเงินค่าซื้อสิทธิการเช่าตึกแถวคืนไปบางส่วนโดยเหลือเงินไว้ร้อยละ5ของราคาที่ซื้อได้คิดเป็นเงิน97,000บาทปรากฏว่าการขายทอดตลาดครั้งใหม่มีบุคคลอื่นประมูลได้ในราคา2,320,000บาทซึ่งสูงกว่าราคาที่ผู้ร้องประมูลได้กรณีไม่มีความเสียหายใดๆที่ผู้ร้องจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา516กรณีไม่มีความเสียหายใดๆที่ผู้ร้องจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา516กรมบังคับคดีจึงไม่มีสิทธิที่จะริบเงินจำนวนนี้จึงต้องคืนเงินจำนวนนี้แก่ผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ประมูลซื้อทรัพย์บังคับคดีในการเพิกถอนการขายทอดตลาดครั้งใหม่ หากเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่แจ้งวันนัดและราคาต่ำกว่าเดิม
ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตามป.วิ.พ.มาตรา296วรรคสองมีความหมายกว้างกว่าบุคคลผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรา280เพราะมาตรา296วรรคสองมิได้เจาะจงตัวบุคคลไว้โดยเฉพาะเช่นมาตรา280 ผู้ร้องเป็นผู้ประมูลซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีในครั้งแรกโดยให้ราคาสูงสุดแต่ผู้ร้องไม่ชำระราคาเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ประกาศขายทอดตลาดเป็นครั้งที่สองมีผู้ให้ราคาสูงสุดซึ่งต่ำกว่าการขายทอดตลาดครั้งแรกผู้ร้องจึงต้องรับผิดในส่วนที่ขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา516และตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีพ.ศ.2522ข้อ88ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตามมาตรา296วรรคสองมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลอดที่ดำเนินการไปโดยฝ่าฝืนกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1939/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์จากการประมูลซื้อ และการละเมิดจากการไม่ยอมขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดิน
โจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อที่ดินและอาคารโรงงานได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้นโดยสุจริต โจทก์ย่อมได้สิทธิในที่ดินและอาคารโรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 แม้หลังจากทำการขายทอดตลาดไปแล้ว จำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดและคดีส่วนที่คัดค้านยังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่อง การเพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 อีกส่วนหนึ่งหาใช่เรื่องการขายทอดตลาดเป็นโมฆะไม่ เมื่อศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการ ขายทอดตลาด โจทก์ย่อมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารโรงงานโดยสมบูรณ์ เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมซึ่งยังคงอาศัยอยู่ ได้อยู่อาศัยในที่ดินและอาคารโรงงานต่อไป และได้แจ้งให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไป จำเลยเพิกเฉย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1939/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์จากการประมูลซื้อและการละเมิดจากการไม่ยอมออกจากที่ดินหลังแจ้งให้ขนย้าย
โจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อที่ดินและอาคารโรงงานได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้นโดยสุจริตโจทก์ย่อมได้สิทธิในที่ดินและอาคารโรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1330แม้หลังจากทำการขายทอดตลาดไปแล้วจำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดและคดีส่วนที่คัดค้านยังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องการเพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296อีกส่วนหนึ่งหาใช่เรื่องการขายทอดตลาดเป็นโมฆะไม่เมื่อศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโจทก์ย่อมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารโรงงานโดยสมบูรณ์เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมซึ่งยังคงอาศัยอยู่ได้อยู่อาศัยในที่ดินและอาคารโรงงานต่อไปและได้แจ้งให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจำเลยเพิกเฉยการกระทำของจำเลยย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3757/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมูลซื้อที่ดิน: ผู้ซื้อมีหน้าที่ตรวจสอบสภาพที่ดินก่อนประมูล การเพิกถอนการขายไม่มีเหตุอันสมควร
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ประกาศขายทอดตลาดที่ดินพิพาทโดยระบุข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินที่จะขายพอสมควรแก่กรณีแล้ว ถือไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์-ทรัพย์ได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมายและระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีล้มละลาย หากผู้ใดสนใจจะเข้าประมลซื้อมีความสงสัยประการใดหรืออยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมประการใด ย่อมสามารถตรวจสอบสภาพที่ดินตลอดจนหลักญานทางราชการได้ก่อนเข้าทำการประมูล เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ประกาศการขายทอดตลาดให้ทราบล่วงหน้าก่อนทำการขายทอดตลาดกว่าหนึ่งเดือนการที่ผู้ร้องไม่ได้ทำการตรวจสอบหลักฐานทางราชการก่อนทำการประมูล จะมาอ้างภายหลังว่าเข้าใจผิดคิดว่าที่ดินที่ประมูลซื้อได้มาเป็นที่ดินติดต่อฝืนเดียวกัน เมื่อมีที่ดินของบุคคลอื่นปะปนอยู่ก็จะมาขอให้ศาลเพิกถอนการขายเสียเช่นนี้ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้กระทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3757/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมูลซื้อที่ดิน: ผู้ซื้อต้องตรวจสอบสภาพทรัพย์ด้วยตนเองก่อนประมูล มิฉะนั้นไม่มีสิทธิเรียกร้องภายหลัง
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ประกาศขายทอดตลาดที่ดินพิพาทโดยระบุข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินที่จะขายพอสมควรแล้ว ถือไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมายและระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีล้มละลายหากผู้ใดสนใจจะเข้าประมูลซื้อย่อมสามารถตรวจสอบสภาพที่ดินตลอดจนหลักฐานทางราชการได้ก่อนเข้าทำการประมูล เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ประกาศการขายทอดตลาดให้ทราบล่วงหน้าทั่วกันก่อนทำการขายทอดตลาดกว่าหนึ่งเดือน การที่ผู้ร้องไม่ได้ทำการตรวจสอบหลักฐานทางราชการก่อนทำการประมูลซื้อ จะอ้างภายหลังว่าเข้าใจผิดคิดว่าที่ดินที่ประมูลซื้อมาเป็นที่ดินติดต่อผืนเดียวกันเมื่อทราบภายหลังว่ามีที่ดินของบุคคลอื่นปะปนอยู่จึงมาร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขาย เช่นนี้ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้กระทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3757/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมูลซื้อที่ดิน: ผู้ซื้อต้องตรวจสอบสภาพทรัพย์ก่อนประมูล การเพิกถอนการขายไม่มีเหตุอันสมควร
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ประกาศขายทอดตลาดที่ดินพิพาทโดยระบุข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินที่จะขายพอสมควรแก่กรณีแล้ว ถือไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมายและระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีล้มละลายหากผู้ใดสนใจจะเข้าประมูลซื้อมีความสงสัยประการใดหรืออยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมประการใด ย่อมสามารถตรวจสอบสภาพที่ดินตลอดจนหลักฐานทางราชการได้ก่อนเข้าทำการประมูล เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ประกาศการขายทอดตลาดให้ทราบล่วงหน้าก่อนทำการขายทอดตลาดกว่าหนึ่งเดือนการที่ผู้ร้องไม่ได้ทำการตรวจสอบหลักฐานทางราชการก่อนทำการประมูล จะมาอ้างภายหลังว่าเข้าใจผิดคิดว่าที่ดินที่ประมูลซื้อได้มาเป็นที่ดินติดต่อฝืนเดียวกันเมื่อมีที่ดินของบุคคลอื่นปะปนอยู่ก็จะมาขอให้ศาลเพิกถอนการขายเสียเช่นนี้ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้กระทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2644/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ผิดแปลง การขายทอดตลาดที่ไม่ชอบ และสิทธิในการขอคืนเงินของผู้ประมูลซื้อ
ที่ดินตาม ส.ค.1 ที่โจทก์นำยึดมาขายทอดตลาดปรากฏว่าจำเลยได้ขอออกโฉนดไปแล้ว และได้มีการโอนขายต่อไปอีกหลายทอดส่วนที่ดินที่โจทก์นำชี้ให้ยึดและนำออกขายทอดตลาดอยู่ถัดมาทางทิศใต้ของที่ดินตาม ส.ค.1 ที่โจทก์นำยึดและเป็นที่ดินของผู้อื่น กรณีจึงฟังได้ว่าโจทก์ได้ชี้และให้ยึดที่ดินผิดแปลง ดังนั้นการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวจึงเป็นการขายที่ดินที่จำเลยไม่เคยมีสิทธิครอบครองและเมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ประมูลซื้อที่ดินนี้ได้จากการขายทอดตลาดได้ยื่นคำร้องแสดงเจตนาขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการขายทอดตลาดและขอให้คืนเงินแก่ผู้ร้อง ไม่ได้ขออ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 การที่ศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาดและคืนเงินแก่ผู้ร้องจึงชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่สมยอมกันเพื่อทำให้ผู้ประมูลซื้อเสียเปรียบ ถือเป็นการฉ้อฉล สัญญาเช่าจึงไม่มีผลผูกพัน
ท. เป็นเจ้าของที่ดินและตึกพิพาทซึ่งจำนองไว้แก่ ช. จำเลยรู้ดีว่า ช. กับ ท. กำลังเป็นความกันอยู่และศาลได้พิพากษาให้ท. ไถ่ถอนจำนองที่ดินและตึกพิพาทควรจะรู้แล้วว่าหากท. ไม่จัดการไถ่ถอน. ที่ดินและตึกพิพาทอาจจะต้องถูกยึดขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้จำนองแก่ ช.จำเลยก็ยังทำสัญญาเช่าตึกพิพาทกับ ท. มีกำหนด 8 ปี โดยจดทะเบียน ซึ่งควรรู้ได้ว่าจะก่อให้เกิดภาระผูกพันแก่ตึกพิพาทในเมื่อ ท.ไม่สามารถชำระหนี้จำนอง และอาจมีการขายทอดตลาดซึ่งย่อมทำให้ผู้ซื้อเสียเปรียบ ครั้นเมื่อ ท. ไม่ชำระหนี้จำนองศาลจึงบังคับคดียึดที่ดินและตึกพิพาทขายทอดตลาดโจทก์เป็นผู้ซื้อได้โดยไม่รู้ว่าตึกพิพาทมีสัญญาเช่าผูกพันอยู่ พฤติการณ์ของ ท.กับจำเลยถือได้ว่าท. กับจำเลยสมยอมกันทำสัญญาเช่าตึกพิพาทโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทางให้บุคคลที่อาจประมูลซื้อตึกพิพาทในภายหลังเสียเปรียบเป็นการฉ้อฉลแม้โจทก์จะประมูลซื้อตึกพิพาทในภายหลัง ก็ถือได้ว่าเป็นเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา237 สัญญาเช่านั้นจึงไม่มีผลผูกพันโจทก์ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายได้
จำเลยให้การแต่เพียงว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ได้บรรยายว่าเคลือบคลุมอย่างไร เป็นคำให้การที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 จำเลยโต้แย้งขึ้นมาในชั้นแก้ฎีกาจึงไม่เป็นประเด็นต้องวินิจฉัย
of 2