พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3799/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล้างมลทินและการรอการลงโทษ: จำเลยพ้นโทษก่อนมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.ล้างมลทิน จึงไม่ถือว่าเคยได้รับโทษ
แม้ว่าตามรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยจะได้ความว่า ก่อนกระทำความผิดคดีนี้ จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่า ให้จำคุก 13 ปี 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2530 ก็ตาม แต่จำเลยก็ได้รับโทษและพ้นโทษมาแล้วเมื่อวันที่ 12สิงหาคม 2535 จำเลยย่อมได้รับประโยชน์ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี พ.ศ.2539 ที่บัญญัติให้ถือว่าจำเลยมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดที่ได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 9 มิถุนายน 2539 และพ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พ.ร.บ.ล้างมลทินฉบับนี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้น ๆ ดังนั้น กรณีจึงต้องถือว่าจำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตาม ป.อ.มาตรา 56 ที่ศาลจะพิจารณารอการลงโทษให้แก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือเรื่องประวัติอาญา ไม่เข้าข่ายความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ หากไม่มีการขู่เข็ญ
ก. ผู้เสียหายสมัครเข้าทำงานที่โรงพยาบาลอำเภอคลองขลุง ก. นำหนังสือของทางราชการไปติดต่อทำการพิมพ์ลายนิ้วมือที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองขลุง เพื่อสอบประวัติ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ ก. ไปพบจำเลย ซึ่งทำงานอยู่ที่สถานีตำรวจนั้น จำเลยจัดให้ก. พิมพ์ลายนิ้วมือ ต่อมา ก. ทราบผลการตรวจว่า ก.เคยต้องคดีมาก่อน ก. ได้ปรึกษาจำเลย จำเลยบอกว่าสามารถช่วย ก. ได้ และได้เรียกเงินจาก ก. 1,500 บาท โดยอ้างว่าจะให้เจ้านายของจำเลยลงชื่อรับรองให้ก.ได้หาเงินมาให้จำเลย เช่นนี้ จำเลยมิได้ขู่เข็ญ ก. ว่าจะเปิดเผยความลับแต่อย่างใดจึงไม่เป็นความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2068/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างเนื่องจากปกปิดประวัติอาญาในการสมัครงาน และสิทธิในสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
ธนาคารจำเลยกำหนดให้ผู้ยื่นใบสมัครเข้าทำงานแสดงรายการในใบสมัครว่าเคยต้องคดีใด ๆ มาก่อนหรือไม่ เพื่อจะได้คัดเลือกผู้ที่มีความซื่อสัตย์หรือไม่มีประวัติด่างพร้อยมาก่อนให้เข้าทำงานกับจำเลย โจทก์ยื่นใบสมัครเข้าทำงานกับจำเลยโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้จำเลยหลงเชื่อคุณสมบัติของโจทก์และยอมรับโจทก์เข้าทำงาน ซึ่งอาจทำให้กิจการของจำเลยได้รับความเสียหาย เมื่อจำเลยทราบความจริงในภายหลังย่อมมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้ การเลิกจ้างเพราะเหตุนี้ไม่ใช่เป็นการเลิกจ้างเพราะโจทก์กระทำผิดในระหว่างที่เป็นลูกจ้างของจำเลย แต่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นก่อนที่จำเลยจะรับโจทก์เข้าทำงาน จึงมิใช่เป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า จึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
จำเลยจ่ายค่าจ้างเดือนละสองครั้งคือทุกวันที่ 15 และวันสิ้นเดือนจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ จึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเวลา 23 วัน
จำเลยจ่ายค่าจ้างเดือนละสองครั้งคือทุกวันที่ 15 และวันสิ้นเดือนจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ จึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเวลา 23 วัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2068/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างเนื่องจากปกปิดประวัติอาญาในใบสมัคร ถือเป็นเหตุเลิกจ้างได้ และต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
ธนาคารจำเลยกำหนดให้ผู้ยื่นใบสมัครเข้าทำงานแสดงรายการในใบสมัครว่าเคยต้องคดีใดๆมาก่อนหรือไม่เพื่อจะได้คัดเลือกผู้ที่มีความซื่อสัตย์หรือไม่มีประวัติด่างพร้อยมาก่อนให้เข้าทำงานกับจำเลยโจทก์ยื่นใบสมัครเข้าทำงานกับจำเลยโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จทำให้จำเลยหลงเชื่อคุณสมบัติของโจทก์และยอมรับโจทก์เข้าทำงานซึ่งอาจทำให้กิจการของจำเลยได้รับความเสียหายเมื่อจำเลยทราบความจริงในภายหลังย่อมมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้การเลิกจ้างเพราะเหตุนี้ไม่ใช่เป็นการเลิกจ้างเพราะโจทก์กระทำผิดในระหว่างที่เป็นลูกจ้างของจำเลยแต่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นก่อนที่จำเลยจะรับโจทก์เข้าทำงานจึงมิใช่เป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา583เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้าจึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า. จำเลยจ่ายค่าจ้างเดือนละสองครั้งคือทุกวันที่15และวันสิ้นเดือนจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่20กุมภาพันธ์จึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเวลา23วัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วยมีด แต่เจตนาไม่ถึงแก่ชีวิต และการเพิ่มโทษจากเคยมีประวัติอาญา
ขณะเกิดเหตุจำเลยเมาสุราจนไม่รู้เรื่อง แม้จะไล่แทงผู้เสียหายหลายครั้งแต่แทงไม่ค่อยถูก เมื่อผู้เสียหายล้มลงและมีเสียงคนเรียกให้ช่วย จำเลยก็ผละไปไม่ได้ซ้ำเติมผู้เสียหาย บาดแผลที่ถูกแทงเป็นเพียงบาดแผลตื้นๆรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียง 1 วันแพทย์ก็ให้ออกมารักษาข้างนอก อาวุธมีดที่ใช้มีลักษณะเป็นมีดปอกผลไม้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
จำเลยพ้นโทษจากการกระทำผิดในคดีก่อน ก่อนวันที่ 6เมษายน 2525 ซึ่งพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ.2526 ให้ถือว่ามิได้ถูกลงโทษในความผิดนั้นๆ จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้
จำเลยพ้นโทษจากการกระทำผิดในคดีก่อน ก่อนวันที่ 6เมษายน 2525 ซึ่งพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ.2526 ให้ถือว่ามิได้ถูกลงโทษในความผิดนั้นๆ จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3032/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ล้างมลทินทางอาญา: ผลกระทบต่อการเพิ่มโทษจำเลย
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2526 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2526 ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่างๆซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2525 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับหรือซึ่งได้พ้นโทษไปโดยผลแห่งพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2525 โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในความผิดนั้น ๆ จำเลยพ้นโทษคดีก่อนก่อนที่พระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2526 ใช้บังคับจำเลยย่อมได้รับประโยชน์จากพระราชบัญญัตินี้ ต้องถือว่ามิได้เคยถูกลงโทษมาก่อน จึงเพิ่มโทษจำเลยตามคำขอของโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามลักทรัพย์และบุกรุก: เลือกโทษฐานบุกรุกและไม่กักกันโทษแม้มีประวัติ
ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335,80 และมีความผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 364,365 แต่ให้ลงโทษฐานบุกรุกตาม มาตรา364,365 อันเป็นบทหนัก จำคุก 6 เดือน ดังนี้กรณีไม่เข้าเกณฑ์ตามมาตรา 41(8) แม้จำเลยจะเคยถูกศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำคุกฐานลักทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 6 เดือนมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ก็จะกักกันจำเลยมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษอาญาจากประวัติเคยต้องโทษ – ไม่เข็ดหลาบ ตามมาตรา 73
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยเคยต้องโทษฐานรับของโจรมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ละครั้งมีกำหนดจำคุกเกินกว่า 6 เดือน ดังปรากฏตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง พ้นโทษครั้งสุดท้ายมากระทำความผิดในคดีนี้อีกภายใน 5 ปีไม่เข็ดหลาบ ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 74
จำเลยให้การรับว่า เคยต้องโทษมาหลายครั้งตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง และพ้นโทษครั้งสุดท้ายมายังไม่เกิน 5 ปีจริงดังฟ้องโจทก์ ดังนี้เมื่อปรากฏว่า ตามใบแดงแจ้งโทษจำเลยเคยต้องโทษมา 5 ครั้ง ครั้งที่ 5 ต้องโทษฐานรับของโจรจำคุก 8 เดือนพ้นโทษมายังไม่เกิน 3 ปี ก็มากระทำผิดคดีนี้อีก ก็ต้องฟังว่าคำรับของจำเลยแปลความได้ว่ารับรวมทั้งวันพ้นโทษตามใบแดงแจ้งโทษด้วย จึงเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 73 ได้
จำเลยให้การรับว่า เคยต้องโทษมาหลายครั้งตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง และพ้นโทษครั้งสุดท้ายมายังไม่เกิน 5 ปีจริงดังฟ้องโจทก์ ดังนี้เมื่อปรากฏว่า ตามใบแดงแจ้งโทษจำเลยเคยต้องโทษมา 5 ครั้ง ครั้งที่ 5 ต้องโทษฐานรับของโจรจำคุก 8 เดือนพ้นโทษมายังไม่เกิน 3 ปี ก็มากระทำผิดคดีนี้อีก ก็ต้องฟังว่าคำรับของจำเลยแปลความได้ว่ารับรวมทั้งวันพ้นโทษตามใบแดงแจ้งโทษด้วย จึงเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 73 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสั่งพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา: ต้องแสดงเจตนาเพื่อตรวจสอบประวัติหรือสอบสวนหลักฐาน
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยขัดคำสั่งของพนักงานสอบสวน ไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือของจำเลยลงในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีผิด พระราชบัญญัติยาสูบ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 334(2) เพียงเท่านี้ ยังไม่พอจะให้เข้าใจว่าเป็นการสั่งให้จำเลยพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบเรื่องเคยต้องโทษหรือว่าเพื่อประโยชน์แห่งการสอบสวนหลักฐาน อันเป็นข้อสาระสำคัญ ที่จะแสดงว่า ได้สั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 132 ฉะนั้นจึงยังลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคุณสมบัติข้าราชการ: โจทก์ไม่ได้แจ้งประวัติอาญาที่มีการล้างมลทิน ทำให้คณะกรรมการฯ ไม่นำกฎหมายมาพิจารณา
โจทก์พยายามปฏิเสธว่าโจทก์ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โดยไม่มีการหยิบยกข้อเท็จจริงที่แสดงว่าโจทก์เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนและได้พ้นโทษแล้ว เข้าเงื่อนไขหรือองค์ประกอบตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ ขึ้นอ้างเป็นประโยชน์แก่ตนต่อคณะกรรมการฯ ผู้แทนจำเลยที่ 1 ในระหว่างสอบสวนคุณสมบัติของโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่เคยอ้างข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อคณะกรรมการฯ ผู้แทนจำเลยที่ 1 คณะกรรมการฯ ผู้แทนจำเลยที่ 1 จึงไม่ทราบและไม่ได้นำ พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ ดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาให้ กรณีจึงหาเป็นความผิดของคณะกรรมการฯ ผู้แทนจำเลยที่ 1 ไม่ มติของคณะกรรมการฯ ผู้แทนจำเลยที่ 1 จึงชอบแล้ว