พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5007/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากข้อกล่าวหาไม่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นในคำฟ้องเดิม
ตามคำฟ้องโจทก์และคำให้การจำเลยคดีมีประเด็นว่าจำเลยได้ปฏิบัติผิดสัญญาซื้อขายและมีหน้าที่จะต้องชำระค่าซื้อเครื่องจักรพร้อมอุปกรณ์การผลิตซอสน้ำจิ้มไก่และชำระค่าซอสน้ำจิ้มไก่ที่สั่งซื้อจากโจทก์ให้แก่โจทก์หรือไม่เพียงใด การที่จำเลยฟ้องแย้งว่า โจทก์และ ต. ได้ร่วมทุนกับ ค.ในบริษัทจำเลยแล้วโจทก์ลักลอบน้ำเอาซอสน้ำจิ้มไก่ไปขายให้แก่บริษัท ข. ทำให้จำเลยได้รับความเสียหายและโจทก์กับคนของโจทก์ที่เป็นกรรมการของจำเลยได้สั่งให้พนักงานของจำเลยจ่ายเงินให้โจทก์โดยไม่ชอบ รวมทั้งโจทก์และคนของโจทก์ได้เบิกเงินทดรองจ่ายโดยไม่เป็นความจริงทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย ขอให้โจทก์ชำระค่าเสียหายให้จำเลย เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ว่าโจทก์ผิดสัญญาร่วมลงทุนและละเมิดและเรียกค่าเสียหายจากโจทก์อันเกิดจากมูลละเมิด ซึ่งเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3705/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างสิทธิโดยสุจริตตามมาตรา 1299 วรรคสอง ต้องยกขึ้นเป็นประเด็นในคำฟ้องเท่านั้น
การที่โจทก์ฟ้องอ้างว่าซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 7811 ซึ่งรวมที่พิพาทด้วย โดยซื้อมาประมาณ 6 ปี ก่อนฟ้องคดีนี้ มิใช่ข้อที่โจทก์ยกขึ้นอ้างว่าโจทก์ได้สิทธิมาโดยมีค่าตอบแทนและโดยสุจริตอันจะทำให้โจทก์มีสิทธิดีกว่าจำเลยตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299วรรคสอง เพราะการจะอ้างมาตรา 1299 วรรคสอง มาเป็นประเด็นต่อสู้ว่ามีสิทธิดีกว่าจำเลยนั้น ต้องกล่าวอ้างมาในคำฟ้องโดยชัดแจ้ง เมื่อมิได้กล่าวอ้างไว้ก็ไม่มีประเด็นจะหยิบยกขึ้นวินิจฉัย ทั้งมิใช่ปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้โจทก์จะยกขึ้นอ้างมาในฎีกา ก็ไม่เป็นประเด็นที่ศาลฎีกาจะยกขึ้นวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวต้องอยู่ภายในประเด็นคำฟ้องและเพื่อบังคับตามคำพิพากษา
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์ ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้องเท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์ โดยกำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลชั่วคราวต้องอยู่ในประเด็นคำฟ้องและเพื่อบังคับตามคำพิพากษา
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์ซึ่ง อยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตาม คำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้อง เท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์โดย กำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่ง เป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตาม คำพิพากษาหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคืนการครอบครอง และประเด็นกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ไม่ได้ยกขึ้นในคำฟ้อง
การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 วรรค 2 นั้นผู้ครอบครองจะต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่เวลาที่ถูกแย่งการครอบครองโดยไม่คำนึงถึงว่าผู้ครอบครองจะทราบว่าถูกแย่งการครอบครองหรือไม่ และไม่คำนึงถึงว่าผู้ครอบครองได้โต้แย้งผู้แย่งการครอบครองหรือได้ร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองว่าถูกแย่งการครอบครองหรือไม่
โจทก์ฎีกาว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 จำเลยจะต้องครอบครอง 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ แต่โจทก์มิได้ตั้งประเด็นมาในคำฟ้องว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 คดีจึงไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะต้องวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 หรือไม่
โจทก์ฎีกาว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 จำเลยจะต้องครอบครอง 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ แต่โจทก์มิได้ตั้งประเด็นมาในคำฟ้องว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 คดีจึงไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะต้องวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องแย้ง: ต้องเกี่ยวข้องกับประเด็นในคำฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยวถือเป็นคดีต่างหาก
ฟ้องแย้งจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมแล้วก็จะต้องฟ้องเป็นคดีต่างหาก
คำขอในท้ายคำให้การฟ้องแย้งบางข้อเป็นแต่ขอให้ยกฟ้องซึ่งเป็นเรื่องให้การแก้คดี ไม่ได้ฟ้องแย้งเอาอะไรจากโจทก์บางข้อก็เป็นเรื่องขอบังคับเอาแก่คนภายนอก (ที่จำเลยขอให้เรียกเข้ามาเป็นคู่ความ) โดยเฉพาะไม่ได้ขอบังคับแก่โจทก์อย่างใดจึงชอบที่จำเลยจะไปฟ้องเป็นคดีต่างหาก ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง คงรับแต่เป็นคำให้การแก้คดีเท่านั้น
คำขอในท้ายคำให้การฟ้องแย้งบางข้อเป็นแต่ขอให้ยกฟ้องซึ่งเป็นเรื่องให้การแก้คดี ไม่ได้ฟ้องแย้งเอาอะไรจากโจทก์บางข้อก็เป็นเรื่องขอบังคับเอาแก่คนภายนอก (ที่จำเลยขอให้เรียกเข้ามาเป็นคู่ความ) โดยเฉพาะไม่ได้ขอบังคับแก่โจทก์อย่างใดจึงชอบที่จำเลยจะไปฟ้องเป็นคดีต่างหาก ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง คงรับแต่เป็นคำให้การแก้คดีเท่านั้น