พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3987/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการวินิจฉัยประเด็นนอกคำขอและประเด็นนอกประเด็นพิพาทที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัย เป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาโจทก์มีสิทธิปรับจำเลยเป็นรายวันก่อนเลิกสัญญาได้ต่อมาโจทก์เห็นว่าจำเลยไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้จึงได้บอกเลิกสัญญาขอให้บังคับจำเลยชำระค่าปรับเป็นรายวันก่อนเลิกสัญญาจำเลยให้การเพียงว่ามิได้ประพฤติผิดสัญญาโจทก์ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาโดยไม่สุจริตและคดีโจทก์ขาดอายุความโดยคำให้การจำเลยมิได้โต้เถียงว่าค่าปรับเป็นรายวันตามที่โจทก์ฟ้องไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบประการใดเท่ากับยอมรับว่าค่าปรับเป็นรายวันตามสัญญาในกรณีโจทก์บอกเลิกสัญญาด้วยเหตุจำเลยผิดสัญญาเป็นจำนวนตามที่โจทก์อ้างคดีจึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิเรียกค่าปรับเป็นรายวันเป็นจำนวนตามฟ้องได้หรือไม่ทั้งในการชี้สองสถานศาลก็ไม่ได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทข้อนี้ไว้และปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนการที่ศาลล่างทั้งสองหยิบยกขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นนอกประเด็นข้อพิพาทเดิม และข้อห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249
จำเลยทั้งสองให้การเพียงว่าโจทก์คิด ดอกเบี้ยเกินอัตราที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศไว้มิได้ให้การถึงการคิดดอกเบี้ยทบต้นและสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีเบิกกันเมื่อใดศาลชั้นต้นจึงมิได้กำหนดให้เป็น ประเด็นข้อพิพาทและที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยดอกเบี้ยทบต้นก็เกิดจากข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามฟ้องโจทก์เท่านั้นดังนั้นที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์เรื่องการคิดดอกเบี้ยทบต้นโดยมิได้ให้การไว้และศาลอุทธรณ์ภาค1ยกขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นการไม่ชอบฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ประเด็นนอกประเด็นข้อพิพาทเดิม ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะไม่รับวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คดีมีประเด็นข้อพิพาทว่า โจทก์ชำระหนี้แทนจำเลยให้แก่เจ้าหนี้ของจำเลยและจำเลยรับจะโอนที่พิพาทเป็นการตอบแทนโจทก์หรือไม่ ดังนี้การที่จำเลยอุทธรณ์ว่า สัญญาโอนที่พิพาทเป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งโจทก์จะชำระราคาในวันจดทะเบียนโอน แต่โจทก์มิได้ขอชำระหนี้หรือนำเงินที่ต้องชำระแก่จำเลยไปวางที่สำนักงานวางทรัพย์ จำเลยจึงมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา นั้น เป็นข้อที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นเรื่องนอกประเด็น ทั้งมิใช่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะไม่รับวินิจฉัยให้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยประเด็นนอกประเด็นที่จำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ในชั้นศาลล่าง เป็นไปตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คดีมีประเด็นข้อพิพาทว่า โจทก์ชำระหนี้แทนจำเลยให้แก่เจ้าหนี้ของจำเลยและจำเลยรับจะโอนที่พิพาทเป็นการตอบแทนโจทก์หรือไม่ ดังนี้การที่จำเลยอุทธรณ์ว่า สัญญาโอนที่พิพาทเป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งโจทก์จะชำระราคาในวันจดทะเบียนโอนแต่โจทก์มิได้ขอชำระหนี้หรือนำเงินที่ต้องชำระแก่จำเลยไปวางที่สำนักงานวางทรัพย์ จำเลยจึงมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญานั้น เป็นข้อที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นเรื่องนอกประเด็น ทั้งมิใช่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะไม่รับวินิจฉัยให้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชี้ขาดตัดสินนอกประเด็นคดีที่ดิน: ประเด็นเจ้าของที่ดินสำคัญกว่าการทอดทิ้ง
คำให้การของจำเลยต่อสู้เพียงว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่พิพาท คดีจึงมีประเด็นว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทหรือไม่เท่านั้น จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าโจทก์ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าจนหมดสิทธิในที่พิพาทและที่พิพาทได้ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว ฉะนั้น ปัญหาที่ว่าโจทก์ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่พิพาทหรือปล่อยให้ที่พิพาทรกร้างว่างเปล่าจนตกเป็นของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน จึงไม่เป็นประเด็นในคดี ศาลชั้นต้นยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาวินิจฉัย จึงเป็นการชี้ขาดตัดสินนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: ศาลวินิจฉัยนอกฟ้องและประเด็นนอกประเด็น ทำให้คำพิพากษาไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อปี พ.ศ.2487 บ.ได้ยกที่ดินให้ จ.ผ. และโจทก์ที่ 3 โดยให้โจทก์ที่ 2 มีสิทธิเก็บกิน ต่อมา พ.ศ.2510 จ.ยกที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้โจทก์ที่ 2 และใน พ.ศ.2513 ผ.ขายที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้แก่โจทก์ที่ 1 ประมาณ พ.ศ.2505 จำเลยได้ทำรั้วรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ โจทก์ทักท้วงจำเลยหยุดทำต่อมาเดือนพฤศจิกายน 2510 จำเลยทำรั้วขึ้นใหม่ต่อจากที่ทำไว้รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์เนื้อที่พิพาทประมาณ 2 ตารางวา โจทก์ห้ามก็ไม่เชื่อฟังขอให้จำเลยรื้อถอนรั้วที่รุกล้ำจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินพิพาทมาเกิน 10 ปีได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครองแล้วศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่าฝ่ายจำเลยได้ครอบครองที่พิพาท โดยปรปักษ์มาดังข้อต่อสู้หรือไม่ดังนี้ ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ที่ 1 ได้ซื้อที่พิพาทเฉพาะส่วนของ ผ.มาโดยสุจริตและจดทะเบียนโดยสุจริต จำเลยจึงมิได้ให้การต่อสู้ว่าโจทก์ที่ 1 ซื้อที่พิพาทเฉพาะส่วนดังกล่าวไว้โดยไม่สุจริต ประเด็นข้อพิพาทของคดีจึงมีประเด็นเดียวตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด และไม่มีประเด็นเรื่องโจทก์ที่ 1 ซื้อที่พิพาทเฉพาะส่วนของ ผ.ไว้โดยสุจริต และจดทะเบียนโดยสุจริตหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นหยิบยกข้อที่ไม่มีประเด็นดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นการวินิจฉัย นอกฟ้องนอกประเด็น ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 แม้ศาลชั้นต้นจะหยิบยกประเด็นข้อนี้ขึ้นวินิจฉัยก็ต้องถือว่าไม่มีประเด็นในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาคู่ความจะหยิบ ยกขึ้นเป็นประเด็นอุทธรณ์ฎีกาต่อมาหาได้ไม่ และแม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยในประเด็นข้อนี้ก็เป็นการวินิจฉัยที่ไม่ชอบศาลฎีกาจึงไม่จำต้องวินิจฉัยในปัญหาที่ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว (อ้างฎีกาที่ 1958/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7379/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นนอกประเด็น: ศาลวินิจฉัยความรับผิดนายจ้างเกินขอบเขตที่จำกัดโดยประเด็นชี้สองสถาน
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า ผู้ที่กระทำละเมิดต่อโจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยหรือไม่ โดยไม่มีคู่ความโต้แย้งในการกำหนดประเด็นดังกล่าว การที่ศาลชั้นต้นก้าวล่วงไปวินิจฉัยว่าจำเลยในฐานะตัวการต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดที่ตัวแทนกระทำต่อโจทก์ จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น