พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2562
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีจากสารบบความและการอุทธรณ์ประเด็นที่เคยวินิจฉัยแล้ว ถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144
จำเลยทั้งสองเคยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 ในประเด็นว่า การที่โจทก์ทั้งสองไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยทั้งสองยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลงเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดให้ตนเป็นฝ่ายชนะคดีโดยขาดนัดไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 198 วรรคสอง และในชั้นที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น แล้วให้พิจารณาและพิพากษาคดีใหม่นั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าวของจำเลยทั้งสองแล้วว่า การที่ศาลชั้นต้นไม่ได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความแต่สืบพยานหลักฐานโจทก์ทั้งสองไปฝ่ายเดียว เป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสม หาขัดต่อ ป.วิ.พ. มาตรา 198 วรรคสอง จึงถือว่าศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้มีคำพิพากษาวินิจฉัยชี้ขาดคดีหรือประเด็นแห่งคดีนี้แล้ว โจทก์ทั้งสองมิได้ฎีกาโต้แย้ง ประเด็นดังกล่าวจึงยุติ การที่จำเลยทั้งสองยกประเด็นนี้ขึ้นอุทธรณ์อีก จึงเป็นการขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาอันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144 วรรคหนึ่ง
จำเลยทั้งสองฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ที่ไม่สั่งจำหน่ายคดีของโจทก์ทั้งสองจากสารบบความ เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาท ตามตาราง 1 (2) (ก) ท้าย ป.วิ.พ.
จำเลยทั้งสองฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ที่ไม่สั่งจำหน่ายคดีของโจทก์ทั้งสองจากสารบบความ เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาท ตามตาราง 1 (2) (ก) ท้าย ป.วิ.พ.