คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประเด็นสืบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9145/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการงดการสืบพยานเนื่องจากพยานไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นที่สืบ
ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก จำเลยอ้างตนเองเป็นพยานเข้าสืบได้ 1 ปาก แล้วแถลงว่า พยานอื่นไม่มาศาลโดยไม่ทราบเหตุขัดข้อง ขอเลื่อนหากนัดหน้ามีพยานมาศาลเพียงใดก็ติดใจสืบเพียงเท่าที่มาศาล ครั้นถึงวันนัด ต่อมาจำเลยนำพยานเข้าสืบได้ 1 ปาก แล้วแถลงว่ายังติดใจสืบพยานที่เหลือนัดหน้าหากพยานมาศาลเท่าใดก็จะติดใจสืบเท่าที่มาศาล ศาลชั้นต้นเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม อนุญาตให้สืบพยานจำเลยต่อไปอีกตามที่ขอโดยกำชับว่านัดหน้ามีพยานมาเท่าใดก็จะสืบเพียงเท่านั้น ครั้นถึงวันนัดทนายจำเลยขอถอนตัว จำเลยแถลงว่ายังหาทนายคนใหม่ไม่ได้ ประกอบกับพยานที่ขอหมายเรียกไว้ไม่มาศาลขอเลื่อน ศาลชั้นต้นเห็นควรให้โอกาสจำเลยอีกนัดหนึ่งโดยกำชับให้แต่งทนายคนใหม่เข้ามาให้พร้อมและหากมีพยานมาศาลเพียงใดก็ให้สืบเพียงเท่านั้น จะไม่ให้เลื่อนคดีไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ อีก ครั้นถึงวันนัด สืบพยานจำเลยได้อีก 1 ปาก แล้วจำเลยแถลงขอเลื่อนและส่งประเด็นไปสืบ บ.ให้ที่ศาลจังหวัดปากพนัง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุอันควรที่จะอนุญาตอีก ดังนั้น จำเลยไม่ปฏิบัติตามที่ได้แถลงไว้ต่อศาลตามที่ศาลชั้นต้นกำชับไว้ โดยมีพฤติการณ์ส่อไปในทางประวิงคดีให้ชักช้า ทั้งเอกสารในคดีอาญาที่จำเลยอ้างก็เป็นเอกสารในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง อ.ในข้อหาความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งโจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีดังกล่าว จำเลยก็ได้นำ อ.มาเบิกความเป็นพยานในคดีนี้แล้ว ส่วน ว. และบ.ให้นั้นจำเลยประสงค์จะนำสืบเพียงว่าเป็นผู้ที่ อ.แนะนำให้กู้เงินจาก ม.ด้วยหาได้รู้เห็นในการกู้ยืมเงินระหว่างจำเลยกับ ม.แต่อย่างใดไม่ ไม่สามารถยืนยันได้ว่า สัญญากู้เงินเอกสารหมาย จ.1 ที่โจทก์นำมาฟ้องคือสัญญากู้เงินที่จำเลยทำไว้กับ ม.ใช่หรือไม่ จึงไม่ได้เป็นผู้ที่ได้เห็น ได้ยิน หรือทราบข้อความในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนั้นมาด้วยตนเองโดยตรงตาม ป.วิ.พ.มาตรา 95 (2) ศาลจึงมีอำนาจงดการสืบพยานหลักฐานเช่นว่านั้นเสียได้ตามมาตรา 86 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การขัดแย้งไม่ชัดเจนจำเลยไม่มีประเด็นสืบ โจทก์ต้องนำสืบตามฟ้อง
จำเลยให้การในตอนแรกว่าไม่เคยทำสัญญาเช่ากับโจทก์และไม่ทราบว่าโจทก์วางมัดจำไว้ แต่ตอนหลังกลับให้การว่าจำเลยไม่ต้องคืนเงินมัดจำให้โจทก์เพราะหักเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ก่อขึ้นกับห้องเช่าที่ส่งมอบคืน ดังนี้เป็นคำให้การที่ขัดแย้งกันไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยให้โจทก์เช่าห้องและรับเงินมัดจำไว้หรือไม่ เป็นคำให้การที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยไม่มีประเด็นนำสืบตามคำให้การ แต่คำให้การดังกล่าวเป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นการปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยสิ้นเชิง คดียังมีประเด็นข้อพิพาท โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความตามฟ้องจึงจะชนะคดีได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: แม้ไม่ได้ระบุเจตนาเป็นเจ้าของ แต่หากมีการอ้างการครอบครองต่อเนื่องเกิน 10 ปี ก็มีประเด็นให้สืบได้
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิที่ดินเมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่า 'จำเลยครอบครองที่ดินติดต่อกันมากว่า 10 ปี ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยทางครอบครองอันชอบด้วยกฎหมาย'ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้ต่อสู้ว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินโดยเจตนาเป็นเจ้าของแล้วจำเลยจึงย่อมมีประเด็นที่จะสืบในข้อนี้ โดยไม่จำต้องระบุถึงข้อความว่า จำเลยได้ครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของไว้ในคำให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การที่ไม่ชัดเจนในการต่อสู้คดีสัญญาเหมาทำของ ทำให้จำเลยไม่มีประเด็นสืบ
โจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างเหมาทำของจากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้ว่า โจทก์ทำการไม่ถูกต้องครบถ้วนตามข้อสัญญา รายการและแผนผังหลายประการและทำการยังไม่เสร็จสิ้นตามสัญญานั้น เป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่อาจรู้ได้ว่าโจทก์ทำการไม่ถูกต้องอย่างไร และทำการยังไม่เสร็จสิ้นอย่างไรบ้าง จึงเป็นคำให้การที่มิได้ต่อสู้คดีให้ชัดแจ้งตามที่กฎหมายบังคับไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา177 ฉะนั้นจำเลยจึงไม่มีประเด็นจะนำสืบตามคำให้การนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่ชัดเจน: จำเลยต้องแสดงรายการค่าใช้จ่ายที่หักออกจากค่าเช่าให้ชัดเจน จึงจะมีประเด็นสืบได้
คำให้การซึ่งฟ้องแย้งขอให้หักเงินค่าใช้จ่ายหลายประเภทและจำนวนหลายปีนั้นให้แสดงรายการให้ชัดว่าอย่างไหน ปีไหน เป็นเงินเท่าใด มิฉะนั้นเป็นการเคลือบคลุม ศาลสั่งในวันชี้สองสถานว่าเป็นฟ้องแย้งที่เคลือบคลุม ไม่มีประเด็นสืบ
คำให้การในคดีแพ่งที่เคลือบคลุมนั้น แม้จะไม่มีฟ้องแย้งรวมอยู่ด้วย จำเลยก็ไม่มีประเด็นจะสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธการรับเงินตามใบรับโดยไม่โต้แย้งความสมบูรณ์ของใบรับ ไม่มีประเด็นนำสืบได้
การปฎิเสธว่ามิได้รับเงินตามใบรับที่ทำไว้ให้เขาโดยไม่อ้างว่าใบรับนั้นไม่สมบูรณ์อย่างใดเช่นนี้ไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดกระบวนการพิจารณาคดีหลังส่งประเด็นไปสืบ โดยไม่รอฟังการแถลงปิดคดีเพิ่มเติม
เมื่อจำเลยแถลงว่ายังมีพะยานเหลืออยู่อีกปากเดียวแลศาลก็ได้สินให้เสร็จแล้วดังนี้ ศาลนัดตัดสินได้ทีเดียวโดยไมจำต้องฟังจำเลยแถลวว่าไม่ติดใจสืบพะยานอีกศาลส่งประเด็นไปสืบพะยานจำเลยและทนายจำเลยได้ตามไปว่าความด้วยนั้นเมื่อเสร็จแล้และส่งประเดฯกลับมาแล้ว ไม่ต้องให้จำเลยทราบอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9216/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การปฏิเสธฟ้องและประเด็นการนำสืบ: การรับชำระหนี้และการรับช่วงสิทธิ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การในตอนแรกว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเงินกู้ตามฟ้องกับบริษัท ม. จริง แต่ไม่ได้รับเงินกู้ บัญชีเงินกู้ตามเอกสารท้ายฟ้องเป็นเอกสารที่โจทก์หรือบุคคลอื่นทำขึ้นเอง จำเลยที่ 1 ไม่ได้เกี่ยวข้องและเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง ส่วนตามคำให้การในตอนหลังที่ว่า หากฟังว่าจำเลยที่ 1 ได้ชำระหนี้ให้แก่บริษัท ม. เรื่อยมา แต่บริษัท ม. ถูกปิดกิจการ ทำให้ไม่สามารถติดต่อชำระหนี้ได้ จำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่ผู้ผิดนัดชำระหนี้ และหากโจทก์มีสิทธิรับช่วงสิทธิและเรียกร้องจากจำเลยที่ 1 ก็มีสิทธิเรียกร้องได้ไม่เกินจำนวนที่โจทก์รับช่วงสิทธิมานั้น มิใช่เป็นคำให้การที่จำเลยที่ 1 ยอมรับว่าได้รับเงินกู้ตามฟ้องจากบริษัท ม. จึงมิใช่คำให้การที่ขัดแย้งกันเองหรือไม่ชัดแจ้งว่ายอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างในคำฟ้องของโจทก์ ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยที่ 1 และ ที่ 2 ได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าปฏิเสธฟ้องของโจทก์รวมทั้งเหตุแห่งการนั้นแล้ว จึงเป็นคำให้การที่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง และมีประเด็นที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 จะนำสืบได้