คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประเพณีการค้า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยเกินอัตราตามประเพณีการค้า: ข้อตกลงคิดดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นโมฆะ แม้โจทก์ยินยอม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 655 วรรคสอง เป็นข้อยกเว้นให้คิดดอกเบี้ยทบต้นตามประเพณีการค้าได้เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา จำเลยจะยกความในมาตรานี้เป็นข้ออ้างเพื่อคิดดอกเบี้ยเกินอัตราหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระเงินค่าข้าวโพดส่วนหนึ่งที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์จำเลยให้การว่าเงินดังกล่าวเป็นต้นเงินและดอกเบี้ยที่จำเลยมีสิทธิหักได้ ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นพิพาทว่า 'จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องหรือไม่เพียงใด' ดังนี้การวินิจฉัยประเด็นดังกล่าวต้องวินิจฉัยด้วยว่าจำเลยมีสิทธิหักดอกเบี้ยไว้หรือไม่ปัญหาดอกเบี้ยเกินอัตราจึงเป็นเรื่องที่ได้ว่ากล่าวมาแล้วในศาลชั้นต้น นอกจากนี้ปัญหาเรื่องดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้มิได้ว่ากล่าวในศาลชั้นต้น คู่ความก็มีสิทธิยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3134/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีซื้อขายหลักทรัพย์, ดอกเบี้ยทบต้นตามประเพณีการค้า, และข้อห้ามฎีกาเรื่องใหม่
กรณีที่จะอยู่ในบังคับของบทบัญญัติมาตรา 165 (1) ซึ่งมีอายุความ 2 ปี ต้องเป็นกรณีที่พ่อค้า ผู้ประกอบหัตถกรรม ผู้เป็นช่างฝีมือ หรือบุคคลจำพวกประกอบศิลปอุตสาหกรรม ฟ้องเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของ ทำของ หรือค่าดูแลกิจการของผู้อื่นอันเป็นกรณีที่เจ้าหนี้ได้ส่งมอบของหรือผลงานให้ลูกหนี้แล้วเรียกร้องเอาค่าสิ่งของหรือราคาของผลงานที่ได้ส่งมอบ
โจทก์จำเลยตกลงเปิดบัญชีเดินสะพัดและมอบให้โจทก์ซื้อหลักทรัพย์แทนเป็นเรื่องที่โจทก์รับเป็นตัวแทนของจำเลยโดยได้ค่าธรรมเนียมตอบแทน หาได้มีการส่งมอบสิ่งของหรือผลงานให้จำเลยแต่อย่างใด กรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1)
โจทก์ฟ้องเรียกดอกเบี้ยทบต้นโดยอ้างว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามบัญชีเดินสะพัดซึ่งมีประเพณีการค้าขายให้คำนวณดอกเบี้ยทบต้นได้ ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 655 วรรค 2 เมื่อข้อเท็จจริงรับกันว่า โจทก์ จำเลย ได้ตกลงเปิดบัญชีเดินสะพัดซึ่งมีข้อความว่าจำเลยยอมรับว่ามีประเพณีการค้าให้โจทก์คิดดอกเบี้ยทบต้นในกรณีนี้ได้ โจทก์จึงเรียกดอกเบี้ยทบต้นได้ โดยไม่ต้องนำสืบถึงประเพณีการค้าดังกล่าวอีก
ฎีกาในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคิดดอกเบี้ยทบต้นในบัญชีเดินสะพัด, การเลิกสัญญา, และข้อตกลงตามประเพณีการค้า
เมื่อสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีระหว่างโจทก์จำเลยมิได้กำหนดระยะเวลากันไว้ ต้องถือว่าได้มีการเลิกสัญญาบัญชีเดินสะพัดเมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ภายในระยะเวลาที่โจทก์แจ้งไปยังจำเลยให้จัดการชำระหนี้เบิกเงินเกินบัญชี ซึ่งในระหว่างนั้นจำเลยก็มิได้สั่งจ่ายเงินอีก
ตามประเพณีการค้าธนาคารโจทก์ย่อมมีสิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้นในบัญชีเดินสะพัดได้ ข้อตกลงไม่เป็นโมฆะ ปัญหาว่าข้อนี้เป็นโมฆะหรือไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658-659/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยทบต้นในบัญชีเดินสะพัดและผลกระทบเมื่อมีการผิดนัดชำระหนี้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 655 กฎหมายยอมให้คิดดอกเบี้ยทบต้นได้เป็นพิเศษ. ทั้งนี้ แม้เมื่อรวมดอกเบี้ยทบต้นเข้าด้วยกันจะทำให้จำนวนดอกเบี้ยเกินร้อยละ15 ต่อปี ก็ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3.
ข้อตกลงของจำเลยที่ยอมให้โจทก์ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์คิดดอกเบี้ยทบต้นเป็นรายเดือน โดยโจทก์เรียกดอกเบี้ยอยู่แล้วในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนั้น. เป็นข้อตกลงตามประเพณีการค้าที่คำนวณดอกเบี้ยทบต้นในบัญชีเดินสะพัด จึงใช้ได้ ไม่เป็นโมฆะ.
เมื่อการคิดดอกเบี้ยทบต้นจะกระทำได้เพราะมีประเพณีการค้าเช่น ให้คำนวณดอกเบี้ยทบต้นในบัญชีเดินสะพัด. ถ้าบัญชีเดินสะพัดนั้นมีการหักทอนหนี้และเรียกร้องให้ชำระเงินคงเหลืออันเป็นการเลิกสัญญาบัญชีเดินสะพัด ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 856,859. และลูกหนี้ผิดนัดแล้ว ซึ่งลูกหนี้จะเบิกเงินเกินบัญชีอีกไม่ได้.ย่อมไม่มีเหตุที่ธนาคารจะอ้างมาคิดดอกเบี้ยทบต้นได้ต่อไป.ทั้งมาตรา 224 วรรคสองก็บัญญัติมิให้คิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัด.
ตามปกติการผิดนัดย่อมเกิดขึ้นทันทีที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลาในสัญญา. แต่กรณีสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีเป็นข้อตกลงของคู่สัญญาที่จะให้มีสัญญาบัญชีเดินสะพัดคือ การเบิกเงินเกินบัญชีในบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของลูกหนี้ในธนาคารขึ้นอีกชั้นหนึ่งเมื่อมีการปฏิบัติตามสัญญาบัญชีเดินสะพัดกันแล้ว. การชำระหนี้ย่อมจะต้องปฏิบัติตามวิธีการของสัญญาบัญชีเดินสะพัด คือ ให้กระทำเมื่อมีการหักทอนบัญชีและเรียกร้องให้ชำระเงินคงเหลือนั้นแล้ว. ฉะนั้น เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีแล้วคู่สัญญายังคงให้บัญชีเดินสะพัดเดินอยู่ต่อไป ก็เห็นได้ว่าคู่สัญญายังไม่ถือว่ามีการผิดนัด.จนกว่าจะได้มีการหักทอนบัญชีและเรียกร้องให้ชำระเงินคงเหลือแล้ว. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11-12/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1951/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยทบต้นรายเดือนในสัญญากู้: ความสมบูรณ์ตามประเพณีการค้าธนาคาร
ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจในการให้กู้ยืมเงินและมีประเพณีการค้าในการให้กู้เงินด้วยการคิดดอกเบี้ยทบต้นเป็นรายเดือนเป็นปกติเสมอมา ทำสัญญาให้กู้ยืมเงินโดยตกลงคิดดอกเบี้ยทบต้นเมื่อผิดนัดเป็นรายเดือน ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 254 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1951/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยทบต้นรายเดือนในสัญญากู้ ธนาคารพาณิชย์ทำตามประเพณีการค้าได้ ไม่เป็นโมฆะ
ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจในการให้กู้เงินด้วยการคิดดอกเบี้ยทบต้นเป็นรายเดือนเป็นปกติเสมอมา ทำสัญญาให้กู้ยืมเงินโดยตกลงคิดดอกเบี้ยทบต้นเมื่อผิดนัดเป็นรายเดือนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 655 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียเวลาจากการขนส่ง: ประเพณีการค้ามีผลผูกพันเท่ากับการตกลงโดยปริยาย
ธรรมเนียมประเพณีวงการค้าเกี่ยวกับการขนส่งที่ทราบกันอยู่ระหว่างคู่สัญญานั้นแล้วว่าถ้าเสียเวลาก็มีการคิดค่าเสียเวลาให้แก่กันดังนี้แม้ไม่ได้เขียนระบุไว้เป็นอย่างอื่นประเพณีนั้นก็ย่อมใช้บังคับกันได้เท่ากับเป็นการตกลงโดยปริยาย