คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประเมินความผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6916/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้าย vs. ฆ่าโดยเจตนา: การประเมินความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
การพิจารณาว่าจำเลยที่ 1 กับพวกมีเจตนาฆ่าผู้ตายกับผู้เสียหายหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาถึงการกระทำของจำเลยที่ 1กับพวกประกอบกับบาดแผลที่ผู้ตายกับผู้เสียหายได้รับ ผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากสมองถูกทำลายอย่างรุนแรง มีบาดแผลฉีกขาดที่หนังศีรษะด้านซ้ายและที่กรามซ้าย หน้าผากด้านขวาบวมช้ำมีเลือดออกจากจมูกและหูทั้งสองข้างบาดแผลฉีกขาดและถลอกที่แขนซ้ายและเท้าขวา สมองช้ำอย่างรุนแรง การที่จำเลยที่ 2ใช้ขวดเบียร์ตีกลางศีรษะผู้ตายจนผู้ตายฟุบคว่ำหน้าทันที ย่อมแสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยที่ 2 ใช้ขวดเบียร์ตีกลางศีรษะผู้ตายอย่างแรงและย่อมจะเล็งเห็นผลได้ว่าการกระทำเช่นนั้นจะทำให้สมองซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญถูกทำลายและทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาส่วนจำเลยที่ 1 ไม่ปรากฏว่ามีสาเหตุรุนแรงที่จะต้องฆ่าผู้ตายแม้ว่าผู้ตายมีบาดแผลฉีกขาดหลังศีรษะด้านซ้ายก็ไม่ได้ความชัดเจนว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากจำเลยที่ 1 ทำร้าย ซึ่งอาจเป็นบาดแผลที่เกิดจากการกระทำของจำเลยที่ 2 ก็ได้ จำเลยที่ 1มิได้มีเจตนาร่วมในการกระทำส่วนนี้ด้วย คงมีเจตนาเพียงร่วมทำร้ายร่างกายผู้ตายเมื่อการร่วมทำร้ายเป็นผลให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจึงมีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ผู้เสียหายถูกจำเลยที่ 1 กับพวกใช้โซ่เหล็กฟาดหลายครั้งใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะและใช้กำลังประทุษร้าย เมื่อพิจารณาจากลักษณะของบาดแผลประกอบความเห็นของแพทย์ผู้ตรวจร่างกายว่ารักษาภายใน 7 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนแสดงว่าบาดแผลของผู้เสียหายไม่ร้ายแรงจนถึงกับเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ การกระทำของจำเลยที่ 1กับพวกต่อผู้เสียหายจึงเป็นการร่วมกันทำร้ายผู้อื่นให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ประกอบด้วยมาตรา 83

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6581/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความร้ายแรงของบาดแผลเพื่อกำหนดความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ – อันตรายแก่กาย
ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บเพียงเป็นบาดแผลรอยแดงๆบวมช้ำเส้นผ่าศูนย์กลาง1เซนติเมตรรักษาประมาณ3วันหายยังถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายจำเลยคงมีความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339วรรคสองไม่ใช่มาตรา339วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2888/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายร่วมกับผู้อื่น ไม่ถึงเจตนาฆ่า: การประเมินความผิดฐานร่วมกันฆ่า
การที่ ป. ใช้ไม้ตีผู้ตาย แล้วจำเลยเข้ามาชกต่อยผู้ตายที่ใบหน้า 1 ครั้ง นอกจากนั้นยังมีคนอื่นเข้ามารุมชกต่อยผู้ตายอีกคนละครั้งสองครั้ง แล้วพากันหลบหนีไป พฤติการณ์แห่งคดีจึงฟังได้เพียงว่าจำเลยชกต่อยผู้ตายเพียง 1 ครั้ง ในขณะที่ผู้ตายถูกคนหลายคนกลุ้มรุมทำร้ายและเกิดเหตุวุ่นวาย โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยมีสาเหตุกับผู้ตายมาก่อนหรือมีอาวุธติดตัวมาแต่อย่างใด การที่ป. ใช้ไม้ตีผู้ตายโดยเจตนาฆ่าในระหว่างนั้น จึงเป็นการกระทำของป. โดยลำพัง น่าเชื่อว่าจำเลยมีเจตนาเพียงร่วมกับ ป. กับพวกทำร้ายผู้ตายเท่านั้น แม้จำเลยกับ ป. เป็นพี่น้องกันและเข้าทำร้ายผู้ตายด้วย ก็ไม่พอฟังว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกับ ป.ฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4446-4449/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การประเมินความผิดและขอบเขตความรับผิดของแต่ละฝ่าย
รถของโจทก์ที่ 1 ชนกับรถของจำเลยที่ 2 แม้ ส. คนขับรถ ของโจทก์ที่ 1 จะขับรถโดยประมาทเลินเล่อด้วย แต่โจทก์ที่ 4 เป็นเพียงนั่งโดยสารมากับรถของโจทก์ที่ 1 คันเกิดเหตุมิได้มีส่วน ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นด้วย จำเลยทั้งสามจึงต้องรับผิดชดใช้ ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ที่ 4 เต็มจำนวนโดยไม่อาจแบ่ง ความรับผิดให้แก่โจทก์ที่ 4 ได้ และปัญหาข้อนี้เกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้โจทก์ที่ 4 จะไม่ได้ยกขึ้นอ้างศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเพื่อความเป็นธรรมแก่โจทก์ที่ 4 ได้
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ารถของโจทก์ที่ 1 ชนกับรถของจำเลยที่ 2 เพราะ ส. ซึ่งเป็นคนขับรถของโจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็น คนขับรถของจำเลยที่ 2 ขับรถโดยประมาทเลินเล่อด้วยกันทั้งสองฝ่ายแต่จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายประมาทเลินเล่อมากกว่ากรณีเช่นนี้ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นฝ่ายผิดมากกว่าก็ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นฝ่ายผิดน้อยกว่าให้รับผิดในความเสียหายของจำเลยที่ 2 ได้ ปัญหาดังกล่าวนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2334-2336/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การประเมินความผิดของผู้ขับขี่ทั้งสองฝ่าย
โจทก์ขับรถยนต์ออกจากทางแยกที่มีป้ายหยุด แต่โจทก์ไม่หยุดจำเลยขับรถยนต์ผ่านทางแยกโดยความเร็วสูงเกินกำหนด จึงหยุดไม่ทันเป็นความผิดของโจทก์จำเลยไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ศาลให้จำเลยรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ผู้ขับรถ กับผู้ที่นั่งมาในรถ กับเจ้าของรถที่โจทก์ขับครึ่งหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2388/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า vs. ฆ่าโดยทารุณโหดร้าย: การประเมินพฤติการณ์การกระทำเพื่อพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยยิงผู้เสียหายถูกที่หลังนัดเดียว แทงที่หลังอีกหนึ่งที จนผู้เสียหายล้มลงและสลบ แล้วจำเลยแทงที่หน้าอกผู้เสียหายอีกหนึ่งที ผู้เสียหายไม่ตาย การกระทำของจำเลยเพียงเท่านี้ยังไม่เป็นการพยายามฆ่าโดยกระทำทารุณโหดร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5),80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลสาหัส: การพิจารณาความรุนแรงของบาดแผลและระยะเวลาพักฟื้นเพื่อประเมินความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
แม้ตามรายงานชันสูตรบาดแผลประกอบคำเบิกความของแพทย์จะลงความเห็นว่ารักษา 20 วันหาย เมื่อปรากฏบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับมี 5 แห่ง บาดแผลสำคัญคือแผลถูกแทงที่หน้าท้อง กว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว 1 เซนติเมตร ลึก 2.5 เซนติเมตร ประกอบกับคำของผู้เสียหายว่ารักษาตัวที่สถานีอนามัยและที่บ้านรวม 24 วันแผลจึงหาย ทั้งยังต้องพักรักษาตัวอยู่อีก 2 เดือน จึงทำงานได้ตามปกติ เช่นนี้ นับได้ว่าผู้เสียหายประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เป็นอันตรายสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความผิดฐานทำร้ายร่างกายเมื่อใช้ไม้กวาดตี แต่ผู้ถูกทำร้ายยกแขนป้องกันจนไม่ถึงบาดเจ็บ
คดีที่มีแต่ฟ้องและคำรับแม้ศาลล่างตัดสินต้องกันมา
คู่ความก็ฎีกาว่าตามคำฟ้องและคำรับนั้นลงโทษฐานพยายามทำร้ายร่างกายได้
ใช้ด้ามไม้กวาดตีศีรษะแต่เขายกแขนรับ ไม่ถึงบาดเจ็บ ศาลลงโทษเพียงฐานทำร้ายไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่ลงโทษฐานพยายามทำร้ายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254,60