พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1843/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดพิจารณาคดีไปยังที่อยู่ของผู้ประกันที่ถูกต้องตามคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ถือว่าชอบแล้ว
เจ้าหน้าที่ศาลได้ไปส่งหมายให้ผู้ประกันที่บ้านเลขที่ 370ถนนธรรมนูญวิถี ตำบลหาดใหญ่ ตามที่ผู้ประกันอ้างว่าได้ย้ายไปอยู่แล้วมิได้ไปส่งที่บ้านเลขที่ 37 ถนนประชารักษ์ ตำบลหาดใหญ่ ดังที่ผู้ประกันกล่าวอ้าง แต่ถึงแม้จะฟังว่าไปส่งที่บ้านเลขที่ 37 ถนนประชารักษ์ บ้านเลขที่ดังกล่าวก็ตรงกับที่อยู่ของผู้ประกันตามคำร้องขอปล่อยชั่วคราว จำเลยที่ 2 ในระหว่างอุทธรณ์ การส่งหมายนัดให้ผู้ประกันจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล่อยตัวชั่วคราวและการฟ้องร้องความเสียหายแยกต่างหาก
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลไต่สวนแล้วมีคำสั่งปล่อยตัวผู้ร้องจากการควบคุมของเจ้าพนักงานที่มีความเห็นว่าผู้ร้องเป็นบุคคลซึ่งเป็นภัยต่อสังคมเมื่อปรากฏว่าระหว่างการไต่สวนของศาลชั้นต้น ผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไต่สวนต่อไป หากผู้ร้องเห็นว่าการกระทำของผู้คัดค้านเป็นเหตุให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายโดยผิดกฎหมายอย่างไรก็ชอบที่ผู้ร้องจะต้องว่ากล่าวกันเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3118/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีอาญา: การห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลว่า ล.ภรรยาของผู้ร้องถูกผู้คัดค้านควบคุมตัวไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งปล่อยตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 ศาลสั่งรับคำร้อง นัดไต่สวนและหมายเรียก ล. และผู้คัดค้านมาศาล ผู้คัดค้านแถลงว่า ล.เป็นคนญวนอพยพต้องห้ามเข้าเมืองจึงควบคุมตัวไว้เพื่อส่งกลับประเทศเวียดนามหรือประเทศที่สามโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปจึงให้นัดสืบพยานของคู่ความ และได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัว ล.ชั่วคราวโดยมีประกันและหลักประกัน คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ปล่อยชั่วคราวนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเพราะจะต้องมีการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องอีก คำสั่งดังกล่าวจะเป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม กรณีก็ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดีปรับ และการบังคับคดีโดยยึดทรัพย์แทนการจำคุก
พฤติการณ์ที่เป็นการออกหมายขังระวางพิจารณา
ในคดีที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ปรับแต่คดียังอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ศาลออกหมายให้จำขังในระหว่างอุทธรณ์ เมื่อโจทก์ร้องขออย่าให้จำขังจำเลยโดยจะจัดการยึดทรัพย์แทนเงินค่าปรับดังนี้ ศาลมีอำนาจที่จะออกหมายปล่อยจำเลยได้
ในคดีที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ปรับแต่คดียังอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ศาลออกหมายให้จำขังในระหว่างอุทธรณ์ เมื่อโจทก์ร้องขออย่าให้จำขังจำเลยโดยจะจัดการยึดทรัพย์แทนเงินค่าปรับดังนี้ ศาลมีอำนาจที่จะออกหมายปล่อยจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4827/2550 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอปล่อยตัวชั่วคราวและการคืนทรัพย์สินหลังพ้นการควบคุมตาม ป.วิ.อ.มาตรา 90
สิทธิของผู้ถูกคุมขังในการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งปล่อยตัวจากการควบคุมหรือขังโดยผิดกฎหมายตาม ป.วิ.อ.มาตรา 90 นั้น มีอยู่เพียงชั่วระยะยาวเวลาที่ผู้ถูกคุมขังยังถูกควบคุมหรือขังไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น ตามคำร้องปรากฏว่าภายหลังจากผู้ร้องถูกควบคุมตัว พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวผู้ร้องชั่วคราวไปแล้วโดยให้ผู้ร้องทำสัญญาประกันไว้ กรณีจึงไม่มีการควบคุมตัวผู้ร้องในขณะยื่นคำร้องแล้วผู้ร้องจึงไม่อาจจะร้องขอตามมาตรา 90 ได้อีกต่อไป หากการจับเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก็เป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะดำเนินคดีแก่เจ้าพนักงานตำรวจที่จับผู้ร้องด้วยการร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานหรือฟ้องคดีต่อศาลด้วยตนเองตามขั้นตอนของบทบัญญัติแห่งกฎหมายเรื่องนั้น ๆ ต่อไป สำหรับทรัพย์สินซึ่งผู้ร้องกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานตำรวจยึดไปโดยมิชอบด้วยกำหมายและขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานตำรวจคืนแก่ผู้ร้องนั้น ก็มิใช่กรณีที่จะยื่นคำขอมาพร้อมกับคำร้องตาม ป.วิ.อ.มาตรา 90 ได้เช่นกัน ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้อง
(ประชุมใหญ่)
(ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล่อยตัวชั่วคราว, การสิ้นสุดการควบคุมตัว, และขอบเขตอำนาจศาลในการพิจารณาคำร้อง
พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ร้องทั้งสอง แม้จะเนื่องมาจากเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง การคุมขังในขั้นตอนของการฝากขังตามคำร้องของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลก็ได้สิ้นสุดไปแล้ว จึงเป็นกรณีที่ศาลฎีกาไม่สามารถที่จะสั่งตามคำร้องของผู้ร้องที่ 1 ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวผู้ร้องที่ 1 ตามหมายปล่อยชั่วคราวในระหว่างการสอบสวนของศาลชั้นต้น ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 90
สิทธิในการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งปล่อยตัวจากการควบคุมหรือขังโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 90 มีอยู่เพียงชั่วระยะเวลาที่ผู้ถูกคุมขังอยู่ถูกควบคุมหรือขังไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เท่านั้น เมื่อผู้ร้องที่ 1 ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ปัญหาการควบคุมตัวหรือขังผู้ร้องที่ 1 ไว้ในสถานกักตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงไม่มีความจำเป็นที่จะได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกาอีกต่อไป ศาลฎีกาให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
สิทธิในการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งปล่อยตัวจากการควบคุมหรือขังโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 90 มีอยู่เพียงชั่วระยะเวลาที่ผู้ถูกคุมขังอยู่ถูกควบคุมหรือขังไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เท่านั้น เมื่อผู้ร้องที่ 1 ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ปัญหาการควบคุมตัวหรือขังผู้ร้องที่ 1 ไว้ในสถานกักตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงไม่มีความจำเป็นที่จะได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกาอีกต่อไป ศาลฎีกาให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3803/2562
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมและการควบคุมตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย การประวิงการปล่อยตัวชั่วคราว และการใส่กุญแจมือไม่เป็นความผิด
การจับกุมโจทก์ทั้งสี่มีมูลเหตุมาจากการที่ ช. แจ้งเรื่องไปที่ศูนย์วิทยุสื่อสาร สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง ว่าโจทก์ที่ 2 อ้างเป็นเจ้าพนักงานตำรวจพูดจาเชิงข่มขู่ให้ซื้อบัตรคอนเสิร์ต จำเลยที่ 13 จึงไปร้านที่เกิดเหตุตามคำสั่งของจำเลยที่ 7 ช. ยืนยันข้อเท็จจริงตามที่แจ้ง จำเลยที่ 7 และที่ 13 กับพวก จึงติดตามจนพบรถกระบะที่โจทก์ทั้งสี่ใช้เป็นยานพาหนะ ขอตรวจค้นพบบัตรคอนเสิร์ต 5 ใบ กับเงินสด 7,000 บาท ในกระเป๋าสะพายของโจทก์ที่ 1 กรณีจึงมีเหตุที่ทำให้จำเลยที่ 7 และที่ 13 กับพวกเชื่อโดยสุจริตว่ามีเหตุการณ์ดังที่ ช. แจ้งเกิดขึ้นจริง จึงมีหลักฐานตามสมควรว่าโจทก์ทั้งสี่น่าจะได้กระทำความผิดอาญา ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน เจ้าพนักงานตำรวจไม่ทราบว่าโจทก์ทั้งสี่พักอาศัยอยู่ที่ใด ถือได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่าโจทก์ทั้งสี่จะหลบหนี และหากต้องไปขอให้ศาลออกหมายจับก่อน อาจจะไม่ได้ตัวโจทก์ทั้งสี่มาดำเนินคดี ถือได้ว่าเป็นกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับ การจับกุมโจทก์ทั้งสี่จึงต้องด้วยข้อยกเว้นของการจับโดยไม่มีหมายจับตาม ป.วิ.อ. มาตรา 78 (3) ประกอบมาตรา 66 (2) จึงเป็นการจับโดยชอบด้วยกฎหมาย