พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรถปล่อยเช่าโดยไม่ดูแลการใช้งาน ย่อมถือว่ารู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิด
หลังจากจำเลยเช่ารถจากผู้ร้องโดยอ้างว่าเพื่อ บรรทุกพืชไร่ พืชสวนแล้ว ผู้ร้องก็ไม่ได้สนใจว่าจำเลย จะนำรถของกลางไปบรรทุกสิ่งของใด หรือจะบรรทุกน้ำหนักเกิน อย่างไรก็ได้ ซึ่งผู้ร้องไม่เคยห้ามปรามหรือทักท้วงมิให้จำเลย นำรถไปบรรทุกน้ำหนักเกิน ทั้งในสัญญาเช่ารถที่ผู้ร้องและจำเลยทำต่อกันก็มิได้ระบุห้ามไว้ด้วย ตามพฤติการณ์จึงส่อแสดงให้เห็นว่า ผู้ร้องไม่ได้ใส่ใจดูแลรถของตนเท่าที่ควร แต่ปล่อยให้จำเลยนำรถไปใช้ได้ตามอำเภอใจแม้เป็นความผิด ผู้ร้องก็ไม่ห้ามปรามหรือหาทางเลิกสัญญาเช่านั้นเสีย ผู้ร้องพอใจเพียงขอให้ตนได้รับเงินค่าเช่าเท่านั้นเอง กรณีเช่นนี้ถือได้ว่า ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินปลูกเรือนเพื่อปล่อยเช่า มิได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แม้จะเข้าอยู่อาศัยเองภายหลัง
จำเลยเช่าที่ดินโจทก์ปลูกเรือนแล้วให้ผู้อื่นเช่าอยู่อาศัยในเรือนนั้นตลอดมา โดยจำเลยไม่ได้เข้าอยู่อาศัยเอง ก่อนครบกำหนดสัญญาเช่าราว 5 เดือนจำเลยจึงได้เข้าไปอยู่อาศัยในเรือนหลังนั้น แต่เป็นเวลาภายหลังที่โจทก์ได้แจ้งความประสงค์ให้จำเลยทราบแล้วว่าจะไม่ต่อสัญญาเช่าให้ เพราะโจทก์ตั้งใจจะเข้าอยู่ในที่ดินนั้นเอง ดังนี้ แม้ในสัญญาเช่าจะมีข้อความว่า "เช่าอยู่อาศัยหรือปลูกบ้านให้ผู้อื่นเช่า" ก็ตาม ย่อมเห็นได้ว่าความจริงจำเลยได้เช่าที่ดินปลูกเรือนให้ผู้อื่นเช่าเพื่อเก็บผลประโยชน์มาตั้งแต่ต้น จึงไม่เป็นการอยู่อาศัยอันควร ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ทั้งพฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวเห็นได้ว่าจำเลยมิได้ใช้สิทธิโดยสุจริตตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ นั้นด้วย