คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปิดกั้นทาง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1797/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดกั้นทางเข้าออกและการฟ้องร้อง: การกระทำที่ไม่เป็นการละเมิด
การที่โจทก์ทำประตูเหล็กปิดกั้นถนนพิพาท ไม่ยอมให้จำเลยเข้าออก เว้นแต่จะยอมเสียค่าตอบแทนแก่โจทก์ ย่อมทำให้จำเลยเชื่อโดยสุจริตว่าถูกโจทก์โต้แย้งสิทธิ ดังนั้นที่จำเลยได้ยื่นฟ้องโจทก์ต่อศาลชั้นต้นขอให้เปิดถนนพิพาทและในระหว่างพิจารณาได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา จึงเป็นการใช้สิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ แม้ต่อมาศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง แต่ทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งโดยมีความเห็นหลงไปว่า การมีคำสั่งเช่นนั้นมีเหตุผลอันสมควรโดยความผิดหรือเลินเล่อของจำเลย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 263 (1)การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยมิได้ทำละเมิดต่อโจทก์ แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า ถนนพิพาทเป็นของโจทก์และมิได้ตกอยู่ในภาระจำยอมดังที่โจทก์อ้าง ก็ไม่อาจทำให้ผลของคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป ที่ศาลชั้นต้นไม่วินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1629/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางภารจำยอม/ทางสาธารณะ: จำเลยปิดกั้นทางเดินที่โจทก์ใช้ประโยชน์ต่อเนื่องกว่า 10 ปี โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ทางพิพาทเป็นทางเดินบนคันคลองสาธารณะผ่านที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของโจทก์ทั้งสามโจทก์ทั้งสามและบริวารได้ใช้ทางพิพาทนี้เดินไปมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษติดต่อกันมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว โจทก์ทั้งสามจึงได้ภารจำยอมโดยอายุความ หรือมิฉะนั้นทางพิพาทก็เป็นทางสาธารณประโยชน์ที่บุคคลทั่วไปมีสิทธิใช้สอยได้ ถือได้ว่าสภาพของทางพิพาทตามที่โจทก์บรรยายฟ้องมานั้นอาจเป็นได้ทั้งสองกรณี กล่าวคือ หากทางพิพาทเป็นที่ดินของจำเลยก็อาจตกเป็นภารจำยอม หากไม่เป็นที่ดินของจำเลยก็อาจเป็นทางสาธารณะได้ คำบรรยายฟ้องของโจทก์เช่นนี้ไม่ขัดแย้งกันไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1498-1499/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยาย การปิดกั้นทางสาธารณะ และสิทธิในการป้องกันความเสียหาย
การที่เจ้าของที่ดินยอมให้โจทก์และประชาชนทั่วไปใช้ทางพิพาทสัญจรไปมาเป็นเวลาช้านานหลายสิบปีเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าเจ้าของที่ดินได้อุทิศที่ดินดังกล่าวให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยายแล้ว
ทางพิพาทเป็นทางสาธารณะ จำเลยปิดกั้น โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ ใช้รถยนต์ผ่านเข้าออกไม่ได้ โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ย่อมได้รับความเสียหาย
เมื่อจำเลยที่ 6 ทำรั้วปิดกั้นทางพิพาทซึ่งเป็นทางสาธารณะเป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2 ใช้ทางพิพาทเข้าออกบ้านของโจทก์ที่ 2 ไม่ได้ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ที่ 2 ใช้ทางพิพาทเข้าออกบ้านของโจทก์ที่ 2 ไม่ได้ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ที่ 2 การที่โจทก์ที่ 2 รื้อรั้วที่จำเลยที่ 6 ปิดกั้นออก เพื่อจะได้ใช้ทางพิพาทต่อไป จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันความเสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายแม้จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยที่ 6 โจทก์ที่ 2 ก็ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2566-2567/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางสาธารณะแม้มีการรุกล้ำหรือซ่อมแซมเอง ก็ไม่สิ้นสภาพ สิทธิฟ้องของผู้ได้รับความเสียหายจากการถูกปิดกั้นทาง
ทางสาธารณะซึ่งมีผู้สร้างอาคารรุกล้ำ วางสิ่งของเกะกะ หรือผู้อยู่อาศัยซ่อมกันเอง ก็ไม่สิ้นสภาพทางสาธารณะ
ทางพิพาทและทางเดินติดต่อกับทางพิพาทมิใช่จะใช้เดินออกไปสู่ถนนเท่านั้น แต่ยังเดินไปทางอื่น ๆ ได้อีกเมื่อมีผู้สร้างกำแพงและทิ้งวัสดุต่าง ๆ บนที่ดินซึ่งเป็นทางสาธารณะปิดกั้นทางเข้าออกของผู้ใดทำให้ผู้นั้นขาดความสะดวกในการไปมาและใช้ทรัพย์ถือได้ว่าผู้นั้นได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จึงมีสิทธิฟ้องผู้สร้างกำแพงและทิ้งวัสดุได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020-1021/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดคลองส่วนตัวและการใช้ประโยชน์ของผู้อื่น ไม่ทำให้กลายเป็นทางสาธารณะ เจ้าของมีสิทธิปิดกั้นได้
คลองหรือคูที่เจ้าของที่ดินขุดขึ้น เมื่อเจ้าของไม่ได้อุทิศให้เป็นสาธารณ แม้จะยอมให้ประชาชนใช้ในการสัญจรไปมาบ้าง ก็ไม่ทำให้กลายสภาพเป็นทางสาธารณ ฉะนั้น ถึงเจ้าของจะทำทำนบหรือคันดินปิดกั้น ก็ไม่มีความผิดฐานปิดทางสาธารณ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138-1139/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางสาธารณะโดยปริยาย การอุทิศโดยปริยาย การปิดกั้นทางสาธารณะ สิทธิในการใช้ทาง
ฟ้องคดีแพ่ง ไม่ต้องระบุการกระทำของจำเลยเป็นข้อๆ ไม่ต้องอ้างบทกฎหมายดังคดีอาญา ถ้าบรรยายสภาพแห่งข้อหาแจ้งชัดพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหา ศาลก็รับฟ้องไว้พิจารณาได้ ฟ้องไม่บรรยายตรงๆ ว่าจำเลยปิดกั้นทางสาธารณะ แต่บรรยายว่าเป็นทางที่ได้ร่วมกันอุทิศเป็นทางเดินประชาชนใช้ร่วมกันมา 100 ปีเศษ วิญญูชนเข้าใจได้แล้วว่าเป็นทางสาธารณะแม้จะบรรยายมาด้วยว่าเป็นทางภารจำยอม หรือทางจำเป็นฟ้องนั้นก็ไม่เคลือบคลุม
จำเลยปิดกั้นทางสาธารณะทำให้โจทก์ซึ่งมีที่ดินริมทางใช้ทางนั้นไม่ได้ โจทก์เสียหายเป็นพิเศษ จึงฟ้องให้เปิดทางได้
การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะไม่จำต้องมีพิธีการ ถ้าโจทก์จำเลยและประชาชนใช้เป็นทางเดินสู่ทางสาธารณะร่วมกันมาหลายสิบปีก็ต้องถือว่าได้อุทิศโดยปริยาย
อุทิศที่ดินเป็นทางสาธารณะโดยปริยายแล้ว การสงวนสิทธิ์ภายหลังไม่มีผลอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้ทาง - จำเลยต้องพิสูจน์สิทธิเหนือทางเมื่อปิดกั้นการใช้ทางของผู้อื่น
คดีขอให้เปิดกั้นทางเดิน เมื่อจำเลยปิดกั้นทางเดิน จำเลยจะต้องแสดงให้ประจักษ์ว่าจำเลยมีสิทธิปิดกั้นเสียได้ คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิอย่างใดเหนือที่ตอนพิพาทนั้น จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะปิดกั้นทางเดินนั้นได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางภาระจำยอม, การละเมิด, ค่าเสียหาย: การปิดกั้นทางก่อนสร้างทางใหม่
การที่โจทก์และห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. กับ ว. คู่ความในคดีเดิมทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลได้พิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้ว ข้อพิพาทที่ว่าทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมหรือไม่ จึงเป็นอันระงับสิ้นไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 ทางพิพาทจึงไม่ใช้ทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์อีกต่อไปแต่โจทก์ก็ยังมีสิทธิใช้ถนนในที่ดินของห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. ออกสู่ถนนสายบางนา-ตราด ได้ตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้โจทก์จะใช้เกินกว่า 10 ปี แล้วก็ไม่ตกเป็นทางภาระจำยอมโดยอายุความตามมาตรา 1401
ผลแห่งคำพิพากษาตามยอมย่อมผูกพันโจทก์และห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. ซึ่งเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. จะต้องยินยอมให้โจทก์และบริวารใช้ถนนทุกสายที่มีอยู่ในที่ดินของห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. ออกสู่ถนนสายบางนา-ตราด โดยให้ใช้ได้อย่างทางภาระจำยอม บุคคลที่รับโอนที่ดินมาจากหางหุ้นส่วนจำกัด ม. ถือได้ว่าเป็นคู่ความแทนห้างดังกล่าวด้วย ดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้รับโอนที่ดินที่มีทางพิพาทอยู่ จึงต้องผูกพันยอมให้โจทก์และบริวารใช้ถนนที่มีอยู่ในที่ดินของจำเลยที่ 1 เพื่อออกสู่ถนนสายบางนา-ตราด ได้อย่างทางภาระจำยอมด้วย เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าทางพิพาท เป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ โดยมีคำขอให้บังคับจำเลยที่ 1 จดทะเบียนเป็นทางภาระจำยอม แม้ที่ดินของจำเลยที่ 1 ที่ตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์คือทางหรือถนนที่จำเลยที่ 1 สร้างขึ้น มิใช่ทางพิพาท ศาลก็มีอำนาจพิพากษาบังคับให้จำเลยที่ 1 จดทะเบียนถนนที่จำเลยที่ 1 สร้างขึ้นเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินกว่าที่ขอมาท้ายคำฟ้อง
แม้ทางพิพาทจะมิใช้ทางภาระจำยอม แต่โจทก์และบริวารก็ใช้ทางพิพาทเป็นทางเข้าออกถนนสายบางนา-ตราดเพราะยังไม่มีทางอื่น การที่จำเลยที่ 1 นำดินมาปิดกั้นทางพิพาทและขุดรื้อทางพิพาทออกโดยยังไม่จัดทำถนนเส้นใหม่เพื่อให้โจทก์และบริวารใช้เป็นทางเข้าออกถนนสายบางนา-ตราดย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้ และถือเป็นการละเมิดสิทธิการใช้ทางพิพาทต่อโจทก์ด้วย
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ ย่อมหมายถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่มีทางพิพาทต้องจำยอมให้โจทก์และบริวารของโจทก์ใช้ทางพิพาทเข้าสู่ถนนสายบางนา-ตราด เท่านั้น บุคคลอื่นที่มิใช่บริวารของโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิใช้ทางพิพาทได้ การที่จำเลยที่ 1 ปิดกั้นทางพิพาท แม้จะทำให้บุคคลภาคนอกไม้เข้ามาใช้บริการโรงแรมและร้านอาหารของโจทก์ หรือเข้ามาใช้บริการน้อยลงเพราะไม่สะดวกในการใช้ทาง ก็มิใช่ความเสียหายโดยตรงที่โจทก์และบริวารไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าออกถนนสายบางนา-ตราด โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายส่วนนี้จากจำเลยที่ 1