คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปุ๋ยเคมี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6959/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปุ๋ยเคมีปลอม นิติบุคคลและผู้ดำเนินกิจการต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย
ปุ๋ยเคมีที่จำเลยที่ 1 ผลิตออกจำหน่ายมีลักษณะไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน โดยมีปริมาณธาตุอาหารรับรองต่ำกว่าร้อยละสิบจากเกณฑ์ต่ำสุดตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ จึงต้องถือว่าเป็นปุ๋ยเคมีปลอมตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.2518มาตรา 32 (5) และเป็นกรณีที่ผู้กระทำความผิดซึ่งต้องรับโทษเป็นนิติบุคคลจำเลยที่ 2 ผู้ดำเนินกิจการของนิติบุคคลย่อมต้องรับโทษตามที่ พ.ร.บ.ปุ๋ยพ.ศ.2518 มาตรา 71 บัญญัติไว้ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนในการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดหลายบท-สิทธิฟ้องระงับ: คดีปุ๋ยเคมีปลอมซ้ำซ้อน
ปุ๋ยเคมีปลอมที่จำเลยผลิตในคดีก่อนกับคดีนี้จำนวนเดียวกันวันเวลาที่จำเลยขายปุ๋ยเคมีปลอมอยู่ในช่วงระยะเวลาเดียวกันและผู้ที่ซื้อปุ๋ยเคมีปลอมจากจำเลยก็เป็นบุคคลคนเดียวกัน คือผู้เสียหายในคดีนี้ ถือได้ว่าการกระทำความผิดของจำเลยฐานขายปุ๋ยเคมีปลอมตามฟ้องในคดีก่อนตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2518มาตรา 30,32,62,71,72 กับการกระทำความผิดของจำเลยฐานฉ้อโกงโดยการหลอกลวงขายปุ๋ยเคมีปลอมให้ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 ตามฟ้องในคดีนี้ เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นได้พิพากษาลงโทษจำเลยฐานขายปุ๋ยเคมีปลอมตามฟ้องในคดีก่อนแล้ว แม้คดีนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ก็ถือได้ว่ามีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4214/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรมต่างกัน พ.ร.บ.ปุ๋ย: การผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมีปลอม
โจทก์บรรยายฟ้องแยกเป็นข้อ ๆ ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีปลอมเพื่อการค้า ร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีซึ่งแสดงชื่อการค้าไม่ถูกต้อง ร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน และร่วมกันจำหน่ายโดยการขายปุ๋ยเคมีดังกล่าวให้แก่ร้าน จ. แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองแยกเป็นรายกระทงความผิดตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง ทั้งความผิดฐานร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีปลอมเพื่อการค้า ฐานร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีซึ่งแสดงชื่อการค้าไม่ถูกต้อง และฐานร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน กับความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายปุ๋ยเคมีดังกล่าวเป็นความผิดที่ต้องอาศัยเจตนาในการกระทำความผิดแยกต่างหากจากกันได้ แม้ปุ๋ยเคมีปลอม ปุ๋ยเคมีซึ่งแสดงชื่อการค้าไม่ถูกต้อง ปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน และปุ๋ยเคมีที่จำเลยทั้งสองร่วมกันจำหน่ายเป็นจำนวนเดียวกัน และจำเลยทั้งสองร่วมกันขายปุ๋ยเคมีดังกล่าวในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาแยกการร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีปลอมเพื่อการค้า ร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีซึ่งแสดงชื่อการค้าไม่ถูกต้อง และร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียนต่างหากจากการร่วมกันขายปุ๋ยเคมีดังกล่าวตั้งแต่จำเลยทั้งสองร่วมกันขายปุ๋ยเคมีให้แก่ร้าน จ. แล้ว การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ. มาตรา 91

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10569/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีบริษัทจำกัดต้องมีกรรมการผู้มีอำนาจ และการแยกความผิดผลิต-ขายปุ๋ยเคมี
การฟ้องคดีอาญาต่อบริษัทจำกัดซึ่งเป็นนิติบุคคล ต้องมีกรรมการผู้อำนาจกระทำการแทนบริษัทซึ่งเป็นผู้แทนบริษัทจึงจะดำเนินคดีได้ ขณะยื่นฟ้อง ส. เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่ 1 โจทก์จึงต้องนำตัว ส. มาส่งศาลชั้นต้นพร้อมกับฟ้อง โจทก์ไม่ได้นำตัว ส. มาศาลต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีตัวอยู่อย่างสมบูรณ์ตามกฎหมายและต้องถือว่าโจทก์ไม่มีตัวจำเลยที่ 1 มาศาลในวันฟ้องด้วย การที่ศาลชั้นต้นประทับรับฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 จึงเป็นการไม่ชอบตาม ป.วิ.อ. มาตรา 165 วรรคหนึ่ง และทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาสำหรับจำเลยที่ 1 หลังจากนั้นเป็นการไม่ชอบด้วย
การร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีปลอมและปุ๋ยเคมีที่ไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนเพื่อการค้ากับการร่วมกันขายปุ๋ยเคมีเป็นความผิดซึ่งอาศัยเจตนาในการกระทำความผิดแยกต่างหากจากกันได้ แม้ปุ๋ยเคมีปลอมและปุ๋ยเคมีที่ไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนที่ขายไปจะเป็นส่วนหนึ่งของปุ๋ยเคมีปลอมและปุ๋ยเคมีที่ไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมกันผลิตเพื่อการค้า กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ขายไปในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีเจตนาแยกการร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีปลอมและปุ๋ยเคมีที่ไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนเพื่อการค้าต่างหากจากการร่วมกันขายปุ๋ยเคมีตั้งแต่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมกันขายให้แก่ร้าน ฉ. แล้ว การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ. มาตรา 91

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6202/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานผลิตและครอบครองวัตถุอันตราย ปุ๋ยเคมี และการใช้ชื่อการค้าผู้อื่น ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อเดือนมกราคม 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน ระหว่างวันใดไม่ปรากฏชัด จำเลยผลิตด้วยวิธีการผสมและแบ่งบรรจุวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ของกลาง จากนั้นจำเลยได้ครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ดังกล่าวซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ปลอม เพื่อนำออกจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีคำขอท้ายฟ้องระบุกฎหมายที่จำเลยกระทำความผิดและบทมาตราที่ขอให้ลงโทษในความผิดดังกล่าว คำฟ้องของโจทก์ได้ระบุการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) แล้ว