คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป.วิ.พ. มาตรา 248

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1174/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง กรณีคู่ความต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้รื้อถอนบ้านพิพาทออกจากที่ดินตาม น.ส. 3 ก. ของโจทก์ซึ่งให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าวอันจะทำให้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคสอง
ในชั้นบังคับคดี ผู้ร้องอ้างว่าเป็นเจ้าของบ้านที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการรื้อถอน จึงเป็นคดีเกี่ยวกับการบังคับบริวารของจำเลยให้ออกไปจากที่ดินของโจทก์ เมื่อคู่ความในคดีเดิมต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคสองและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามมาตรา 248 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคแรก กรณีศาลล่างวินิจฉัยแล้ว และประเด็นข้อเท็จจริงที่ต้องห้าม
ค่าเสียหายของโจทก์ทั้งสามเป็นค่าเสียหายที่แต่ละคนได้รับแม้โจทก์ทั้งสามจะฟ้องรวมกันมา แต่จำนวนทุนทรัพย์ตามฟ้องต้องถือตามทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคน โจทก์ที่ 3 เรียกค่าเสียหาย 30,000 บาทเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และฎีกาของจำเลยทั้งสองที่ว่าศาลล่างพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ทั้งสามสูงเกินไปนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคแรก จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ส. คนขับรถลูกจ้างโจทก์ที่ 1 ขับรถโดยประมาท โจทก์ที่ 1 ในฐานะนายจ้างต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยที่ 2 ตามฟ้องแย้งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ทุนทรัพย์ตามฟ้องแย้งมีจำนวนเพียง 22,500 บาท ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ที่ 1 ไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดของ ส. จึงไม่จำต้องวินิจฉัยเรื่องค่าเสียหายตามฟ้องแย้ง และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 มิได้นำสืบว่า คนขับรถของโจทก์ที่ 1 ประมาทอย่างไรที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์เห็นด้วยในผล พิพากษายืนเช่นนี้ แม้ศาลล่างทั้งสองจะมิได้พิพากษาให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 แต่ก็พอแปลจากคำวินิจฉัยดังกล่าวได้ว่า ศาลล่างทั้งสองได้พิพากษาให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 แล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 2ในข้อนี้จึงต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคแรก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5517/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง เหตุจากทุนทรัพย์พิพาทในชั้นฎีกาเกิน 200,000 บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 162,000 บาท คงมีแต่โจทก์ที่อุทธรณ์ ส่วนที่จำเลยที่ 1 ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 270,000 บาท จำเลยที่ 1 ฎีกา ขอให้ศาลฎีกาพิพากษาแก้จำนวนเงินที่จำเลยที่ 1 ต้องชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนั้น ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาจึงมีส่วนต่างระหว่างจำนวนเงินที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระแก่โจทก์ซึ่งมีจำนวนไม่เกิน 200,000 บาท คดีนี้จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4639/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง กรณีพิพาทเรื่องค่าเสียหายที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขจำนวนเงิน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 144,000 บาท โจทก์และจำเลยที่ 2 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 240,520 บาท จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาแก้จำนวนเงินที่จำเลยที่ 1 ต้องชำระให้โจทก์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาจึงมีเพียงส่วนต่างระหว่างจำนวนเงินที่ศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระแก่โจทก์ซึ่งมีจำนวนไม่เกิน 200,000 บาท คดีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาโต้แย้งดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการกำหนดค่าเสียหายให้แก่โจทก์นั้น เป็นการฎีกาในข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว