คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผลโดยตรง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3446/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับขี่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ถือเป็นผลโดยตรงจากความประมาทของผู้ขับขี่
จำเลยขับรถจักรยานยนต์ที่ไม่มีไฟหน้ารถในเวลาพลบค่ำมีแสงส่องไม่เพียงพอด้วยความเร็วสูงโดยประมาทไม่ลดความเร็ว เมื่อเข้าใกล้ทางโค้งเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนถูกถังน้ำที่ผู้ตายถืออยู่จนเป็นเหตุให้ผู้ตายล้มไปถูกรถยนต์อื่นชนและทับจนถึงแก่ความตาย กรณีเช่นนี้ถือว่าความตายของผู้ตายเป็นผลโดยตรงจากความประมาทของจำเลย จำเลยย่อมมีความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3771/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของกรรมการบริษัทต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุ รถบรรทุกแก๊สพลิกคว่ำ ต้องเป็นผลโดยตรงจากการกระทำหรือละเว้นการกระทำ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1169 บริษัทจะฟ้องร้องเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนแก่กรรมการได้นั้นจะต้องเป็นกรณีที่กรรมการทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทและความเสียหายดังกล่าวจะต้องเป็นผลโดยตรงจากการกระทำหรืองดเว้นในสิ่งที่ควรกระทำ การที่ ส. ขับรถยนต์บรรทุกแก๊สด้วยความประมาทเลินเล่อทำให้รถยนต์บรรทุกแก๊สพลิกคว่ำ ความเสียหายที่เกิดเพราะรถยนต์บรรทุกแก๊สมีสภาพและอุปกรณ์ไม่ถูกต้องก็เป็นเพียงเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ได้รับผลร้ายแรงเท่านั้น มิใช่ผลโดยตรงของความเสียหาย การที่จำเลยที่ 1 นำรถยนต์บรรทุกแก๊สคันเกิดเหตุมาใช้ หากจะถือว่าเป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่นำรถยนต์บรรทุกแก๊สคันดังกล่าวออกมาใช้งานจนกระทั่งถึงวันเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 ก็ไม่ได้เสียหาย แม้จะเป็นการผิดกฎหมายในส่วนของการนำรถยนต์บรรทุกแก๊สมาใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 2 ในฐานะกรรมการชดใช้ค่าเสียหาย โจทก์ทั้งหกซึ่งเป็นเจ้าหนี้ในมูลละเมิดไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยที่ 2 ชดใช้ค่าเสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3536/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัย: การใช้รถโดยอู่ไม่ใช่ผลโดยตรงของการเกิดความเสียหายจากผู้อื่น
สัญญาประกันภัยระบุไว้ว่า "การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองความเสียหายใดๆ ต่อรถยนต์ อันเกิดจากการใช้โดยบุคคลของอู่เมื่อรถยนต์ได้มอบให้อู่ทำการซ่อม เว้นแต่การซ่อมนั้นบริษัท(จำเลย) เป็นผู้สั่งหรือให้ความยินยอม"นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ล. ช่างซ่อมรถของอู่นำรถของโจทก์ที่นำไปซ่อมออกไปขับแล้ว ท. ขับรถกินทางเข้ามาชนรถโจทก์ในช่องทางวิ่งของรถโจทก์ทำให้รถโจทก์เสียหาย ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงเกิดจากความผิดของ ท. การใช้รถของ ล. มิใช่เป็นผลโดยตรงให้เกิดความเสียหายจำเลยจะอ้างสัญญาดังกล่าวมาเป็นข้อปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3536/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: การปฏิเสธความรับผิดเมื่อความเสียหายมิได้เกิดจากการใช้รถของอู่โดยตรง
สัญญาประกันภัยระบุไว้ว่า 'การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองความเสียหายใดๆ ต่อรถยนต์ อันเกิดจากการใช้โดยบุคคลของอู่เมื่อรถยนต์ได้มอบให้อู่ทำการซ่อม เว้นแต่การซ่อมนั้นบริษัท (จำเลย) เป็นผู้สั่งหรือให้ความยินยอม'นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ล. ช่างซ่อมรถของอู่นำรถของโจทก์ที่นำไปซ่อมออกไปขับแล้ว ท. ขับรถกินทางเข้ามาชนรถโจทก์ในช่องทางวิ่งของรถโจทก์ ทำให้รถโจทก์เสียหาย ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงเกิดจากความผิดของ ท. การใช้รถของ ล. มิใช่เป็นผลโดยตรงให้เกิดความเสียหาย จำเลยจะอ้างสัญญาดังกล่าวมาเป็นข้อปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากรับของโจร: ความเสียหายต้องเป็นผลโดยตรงจากการครอบครอง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่า รถจักรยานยนต์ของโจทก์ได้ถูกคนร้ายลักไป ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับรถจักรยานยนต์ดังกล่าวได้จากจำเลย โดยจำเลยรับรถจักรยานยนต์นั้นไว้ และศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยฐารับของโจรแล้ว ดังนี้ ถ้าหากได้ความจริงว่าความเสียหายตามที่โจทก์ฟ้องเป็นผลสืบเนื่องโดยตรงจากการที่จำเลยรับไว้และครอบครองรถจักรยานยนต์ของโจทก์ กล่าวคือถ้าจำเลยไม่รับและครอบครองรถจักรยานยนต์ของโจทก์ไว้ ความเสียหายนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นแล้วก็ได้ชื่อว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ ต้องชดใช้ค่าเสียหายนั้นแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1898/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากละเมิดทางรถยนต์: ผลโดยตรงของการชนและการคิดดอกเบี้ยค่าสินไหมทดแทน
โจทก์รับจ้างขนส่งยางรถยนต์ของบริษัท ย. โดยมอบหมายให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ล.รับขนส่งให้อีกทอดหนึ่ง ฉ.ลูกจ้างของจำเลยขับรถในทางการที่จ้างของจำเลยโดยประมาท เป็นเหตุให้ชนกับรถยนต์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ล.ที่บรรทุกยางรถยนต์ดังกล่าวแล่นสวนทางมา ทำให้ยางรถยนต์ที่บรรทุกมาตกลงไปจากรถ แล้วถูกคนร้ายลักไป โจทก์ได้ชำระราคายางรถยนต์ที่สูญหายให้แก่บริษัท ย.ไปแล้ว ดังนี้ เห็นได้ว่า การที่ยางรถยนต์ถูกคนร้ายลักไป เกิดขึ้นเพราะความผิดของ ฉ.คนขับรถของจำเลยที่ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถบรรทุกยาง ซึ่งถ้าไม่ชน ก็คงไม่ถูกคนร้ายลักในที่เกิดเหตุการณ์สูญหายของยางรถยนต์ จึงเป็นผลโดยตรงจากการละเมิด จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ในผลแห่งละเมิดของ ฉ.คนขับรถของจำเลยที่ชนรถบรรทุกยางรถยนต์
โจทก์ฟ้องในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิของบริษัท ย.ชอบที่จะคิดดอกเบี้ยในจำนวนสินไหมทดแทน นับแต่วันที่โจทก์ได้จ่ายเงินให้แก่บริษัท ย.ไป จะคิดดอกเบี้ยจากจำนวนเงินที่จ่ายไปตั้งแต่วันละเมิดหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1843/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปิดตลาดแข่งไม่เป็นละเมิด การฟ้องเรียกค่าเสียหายต้องเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 จำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้ร่วมกันข่มขู่หลอกลวงโจทก์ให้ย้ายตลาดนัดของโจทก์จากบ้านจำเลยที่ 4 ไปเปิดที่อื่น ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2515 จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ร่วมกันอนุญาตให้จำเลยที่ 4 เปิดตลาดนัดใหม่ที่บ้านจำเลยที่ 4 โดยจำเลยทั้งสี่รู้อยู่แล้วว่าการเปิดตลาดนัดดังกล่าวย่อมจะก่อความเสียหายแก่โจทก์ ทำให้กิจการตลาดนัดของโจทก์เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ต้องขาดประโยชน์อันควรได้สัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 200 บาทนับจากเดือนพฤษภาคม 2515 ถึงวันฟ้องเป็นเงิน 4,800 บาทขอศาลพิพากษาห้ามมิให้จำเลยที่4 เปิดดำเนินกิจการตลาดนัดและให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 4,800 บาทแก่โจทก์ ดังนี้ แม้โจทก์จะได้รับความเสียหายจากการเปิดตลาดนัดใหม่มาแข่งขัน ก็หาเป็นเรื่องละเมิดไม่ เพราะการเปิดตลาดนัดใหม่ย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการประกอบอาชีพ ชอบที่จะดำเนินการขออนุญาตและเปิดได้ตามกฎหมาย ไม่ปรากฏว่ามีกฎหมายหรือข้อบังคับว่าเมื่อผู้ใดได้รับอนุญาตให้เปิดตลาดนัดแล้วจะอนุญาตให้ผู้อื่นเปิดตลาดนัดใกล้เคียงกันหรือในอำเภอเดียวกันไม่ได้
ส่วนฟ้องของโจทก์ที่ว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันข่มขู่หลอกลวงโจทก์ให้ย้ายตลาดนัดนั้นอาจจะเป็นละเมิดแต่โจทก์ก็มิได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเหตุที่โจทก์ถูกข่มขู่หลอกลวงให้ย้ายตลาดนัดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2514 โจทก์กลับฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2515 เนื่องจากเหตุที่มีการเปิดตลาดนัดแข่งกันทำให้โจทก์ขาดรายได้ไป ซึ่งมิใช่ความเสียหายที่เป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด จึงบังคับตามคำขอของโจทก์มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดมาตรา 291 ต้องเป็นการกระทำโดยประมาทโดยตรง การละเว้นไม่ถือเป็นความผิดตามมาตรานี้
การที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 291 ต้องเป็นการกระทำโดยประมาทและการกระทำโดยประมาทนั้นต้องเป็นผลโดยตรงให้เกิดความตาย และการกระทำตามมาตรานี้ไม่รวมถึงการละเว้น เพราะกรณีใดกฎหมายต้องการลงโทษการละเว้น ก็ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ เช่นมาตรา 154,157,162
จำเลยที่ 1 ทำหน้าที่แทนนายสถานี มีอำนาจใช้ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคนการสับเปลี่ยนหัวประแจ เมื่อใช้แล้วจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำอะไรเกี่ยวข้องกับหัวประแจนั้นเลย จำเลยที่ 2 เปลี่ยนแล้วไม่สับกลับคืนรางเดิมเป็นเหตุให้รถชนกันจนมีคนตาย เช่นนี้ การที่จำเลยที่1 ไม่ไปตรวจหัวประแจก่อนที่รถจะมาถึง ก็เป็นเพียงละเว้นไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เป็นคนละเรื่องกับการกระทำโดยประมาท ผลโดยตรงที่ทำให้รถชนกัน อยู่ที่การเปลี่ยนหัวประแจแล้วไม่สับกลับ ซึ่งเป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามมาตรา 291

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาททางขับขี่และการตายที่เกิดจากเหตุต่อเนื่อง ศาลฎีกาชี้ความตายเป็นผลโดยตรงจากความประมาท
เมื่อจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าชนรถ 3 ล้อ โดยประมาทแล้ว ผู้ตายซึ่งโดยสารมาในรถ 3 ล้อ ก็ตกกระเด็นลงไปล้มนอนอยู่ที่ทางรถราง พอดีกับรถรางแล่นมาถึงแล้วทับครูดไปในระยะ 1 วา รถรางจึงสามารถหยุดนิ่งได้ ทำให้ผู้ตายได้รับบาดเจ็บมากและถึงตายเพราะพิษบาดแผลนั้น โดยรถรางมิได้แล่นมาเร็วผิดธรรมดา กรณีเช่นนี้ถือว่า ความตายของผู้ตายเป็นผลโดยตรงจากความประมาทของจำเลย จำเลยย่อมมีความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลจากการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้เกิดบาดแผล แม้การรักษาจะผิดพลาด ก็ยังถือเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลย
บาดแผลของผู้ตายที่ถูกจำเลยแทง แม้จะเนื่องจากการรักษาบาดแผลไม่ดี เพราะบาดแผลเน่าจึงเป็นพิษก็ดี แต่ก็เป็นผลธรรมดาอันสืบเนื่องจากการกระทำของจำเลย จำเลยมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา (อ้างฎีกาที่ 437/2500)
of 2