คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผูกพันคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7339/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาศาลฎีกาผูกพันคดีอื่น และการไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง
คู่ความท้ากันว่า ให้ถือเอาผลคดีถึงที่สุดในคดีแพ่งเป็นข้อแพ้ชนะโดยหากผลในคดีดังกล่าวศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ ถือว่าจำเลยคดีนั้นยอมรับข้อเท็จจริงเป็นดังที่โจทก์ฟ้อง จำเลยยอมแพ้ หากศาลพิพากษาว่าโจทก์ในคดีดังกล่าวได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ ถือว่าโจทก์คดีนี้ยอมรับข้อเท็จจริงตามคำให้การของจำเลยโจทก์ยอมแพ้ คู่ความไม่ติดใจสืบพยานอีกต่อไป ศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดคดีดังกล่าวคดีถึงที่สุดแล้วว่าจำเลยคดีนี้เป็นผู้ซื้อที่ดินพิพาทและว่าจ้างให้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินพิพาทโดยโจทก์คดีนี้ได้ช่วยออกเงินบางส่วนให้จำเลยโดยมีเงื่อนไขให้โอนที่ดินพิพาทใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และเมื่อจำเลยชำระหนี้คืนให้โจทก์ครบถ้วนแล้วโจทก์จะโอนที่ดินพิพาทคืนให้จำเลย ซึ่งมีผลเท่ากับโจทก์คดีนี้มิใช่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง โจทก์เพียงลงชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนเท่านั้น เมื่อคำวินิจฉัยของศาลฎีกาไม่ตรงกับคำท้า เพราะศาลฎีกามิได้พิพากษาว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ และที่ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยไม่ตัดสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่เพราะเหตุที่โจทก์ในคดีนี้มิใช่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง จึงไม่ได้ผลชี้ขาดตามคำท้า ข้อที่ท้ากันย่อมตกไปศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาพิพากษาคดีนี้ตามประเด็นในคดีต่อไป
คู่ความในคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกันกับคู่ความที่ศาลฎีกาพิพากษาในคดีก่อนผลแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีดังกล่าวจึงผูกพันคู่ความในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 และเมื่อข้อเท็จจริงในคดีก่อนปรากฏว่าโจทก์มิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทที่แท้จริง โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีนี้ การที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยไม่ได้สืบพยานจึงเป็นการชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1007/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคดีอื่นที่มีประเด็นข้อพิพาทเดียวกัน แม้มีการวินิจฉัยภายหลัง
ฟ้องโจทก์คดีนี้กับคดีที่จำเลยคดีนี้ฟ้องโจทก์เป็นจำเลยมีประเด็นข้อพิพาทที่ศาลจะต้องวินิจฉัยอยู่ในประเด็นเดียวกันในข้อที่ว่า ฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดสัญญาเมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดในคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้วขณะที่คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ คำพิพากษาในคดีดังกล่าวจึงผูกพันคู่ความคดีนี้ มิให้โต้เถียงเป็นอย่างอื่นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 และเป็นผลให้ศาลในคดีนี้ต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีดังกล่าว การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในภายหลังว่าจำเลยผิดสัญญาและพิพากษาขับไล่จำเลยจึงเป็นการฟังข้อเท็จจริงผิดไปจากคดีดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อจำเลยซึ่งเป็นโจทก์ในคดีเดิมไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งถึงที่สุดแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นจำเลยในคดีดังกล่าวย่อมขอให้ศาลบังคับคดีแก่จำเลย ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีดังกล่าวได้ การไม่ชำระค่าที่ดินตามเวลาที่กำหนดในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นหาทำให้คำพิพากษาดังกล่าวสิ้นผลไม่