พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินความประมาทในคดีขับรถชน ผู้ขับต้องใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ หากผู้ถูกชนสวนเข้ามาในช่องทางเดินรถของผู้ขับโดยไม่มีเหตุผลย่อมไม่ถือว่าผู้ขับประมาท
พยานโจทก์คือจ่าสิบตำรวจ ก. และร้อยตำรวจโท ส.เป็นเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติการตามหน้าที่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองหรือมีส่วนได้เสียกับฝ่ายใดคำเบิกความดังกล่าวจึงมีน้ำหนักรับฟังได้เมื่อจ่าสิบตำรวจ ก. เบิกความว่าหลังเกิดเหตุรถชนกันไม่นานพยานไม่เห็นจำเลยมีอาการผิดปกติและไม่มีกลิ่นสุราจากจำเลยและร้อยตำรวจโท ส.ก็เบิกความว่าในคืนเกิดเหตุพยานได้สอบถามจำเลยจำเลยก็เล่าพฤติการณ์ที่เกิดเหตุรถชนกันให้ฟังได้ซึ่งหากจำเลยเมาสุราจ่าสิบตำรวจ ก. น่าจะสังเกตเห็นและจำเลยคงเล่าลำดับเหตุการณ์ให้ร้อยตำรวจโท ส. ฟังไม่ได้พยานหลักฐานที่โจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยขับรถในขณะเมาสุรา จำเลยขับรถยนต์มาในช่องเดินรถของจำเลยชิดไหล่ทางด้านซ้ายมือแม้จะเห็นผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ส่ายไปส่ายมาก่อนเกิดเหตุแต่ก็ยังอยู่ในช่องเดินรถของผู้ตายจำเลยไม่อาจคาดคิดได้ว่าผู้ตายจะขับรถตรงเข้ามาชนรถของจำเลยเพราะไม่ปรากฏเหตุจำเป็นใดๆที่ผู้ตายต้องกระทำเช่นนั้นเมื่อผู้ตายขับรถสวนเข้ามาในช่องเดินรถของจำเลยในระยะกระชั้นชิดเป็นการพ้นวิสัยที่จำเลยจะห้ามล้อรถให้หยุดได้ในทันทีทั้งไม่มีเวลาพอที่จะบังคับรถยนต์หลบหลีกรถจักรยานยนต์ของผู้ตายได้ทันจึงเกิดเหตุชนกันขึ้นพฤติการณ์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย