คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ถูกร้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5904-5911/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการนำสืบพยานของผู้ถูกร้องในคดีเลิกจ้างเมื่อผู้ร้องเสนอคดีฝ่ายเดียว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้าน อ้างว่าผู้คัดค้านกระทำความผิดที่สมควรจะเลิกจ้าง อันเป็นการเสนอคดีฝ่ายเดียว ผู้ร้องจะต้องนำพยานหลักฐานมาแสดงให้ศาลเห็นว่ามีเหตุตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้างเกิดขึ้นจริงและเหตุนั้นเป็นเหตุที่สมควรจะอนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านได้ เว้นแต่ผู้คัดค้านยอมรับในข้อเท็จจริงใด ศาลอาจรับฟังข้อเท็จจริงนั้นโดยผู้ร้องไม่ต้องนำพยานหลักฐานมาแสดง ทั้งนี้ผู้คัดค้านจะยื่นคำคัดค้านเข้ามาหรือไม่ก็ได้ และคำคัดค้านของผู้คัดค้านไม่ใช่คำให้การ ไม่อยู่ในบังคับแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง ที่ต้องแสดงโดยชัดแจ้งว่ายอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของผู้ร้อง รวมทั้งเหตุแห่งการยอมรับหรือปฏิเสธ คดีนี้หลังจากผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านแล้ว ศาลแรงงานได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านหรือไม่ เพียงใด โดยให้ผู้ร้องเป็นฝ่ายนำพยานเข้าสืบก่อน แล้วให้ผู้คัดค้านสืบแก้ แสดงว่าศาลแรงงานเห็นว่า ผู้คัดค้านมิได้ยอมรับว่ามีเหตุตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้างเกิดขึ้น และกรณีสมควรที่จะฟังพยานหลักฐานของผู้คัดค้านประกอบการพิจารณาวินิจฉัยข้ออ้างของผู้ร้องด้วยซึ่งศาลแรงงานมีอำนาจที่จะกระทำได้ ผู้คัดค้านจึงมีสิทธินำพยานเข้าสืบและศาลแรงงานสามารถนำพยานหลักฐานของผู้คัดค้านมาใช้ประกอบการวินิจฉัย อันเป็นกรณีที่จะต้องรับฟังจากพยานหลักฐานอื่นต่อไป ซึ่งพยานหลักฐานอื่นที่ศาลแรงงานนำมารับฟังดังกล่าวล้วนเป็นพยานหลักฐานที่เกิดจากการนำสืบของผู้ร้องทั้งสิ้น การรับฟังพยานหลักฐานและการวินิจฉัยคดีของศาลแรงงานจึงไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3212/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเบิกความของผู้ถูกร้องในคดีไม่มีข้อพิพาท เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
คดีไม่มีข้อพิพาท ศาลอาจเรียกพยานมาสืบได้เองตามที่เห็นจำเป็น และวินิจฉัยชี้ขาดตามที่เห็นสมควรและยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(2) ทั้งศาลสามารถรับฟังพยานที่คู่ความมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานได้ ถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) อีกทั้งเมื่อผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอถอนผู้จัดการมรดก ศาลชั้นต้นก็มิได้กำหนดให้ผู้ร้องทำคำคัดค้านในวันนัดไต่สวนคำร้อง ผู้ร้องแต่งตั้งทนายความมาศาลทุกนัดทั้งได้ถามค้านพยานที่ผู้คัดค้านนำเข้าสืบในการไต่สวนด้วยแม้ผู้ร้องจะไม่ได้ยื่นหรือแถลงขอให้ศาลจดคำคัดค้านไว้ แต่พฤติการณ์ที่ผู้ร้องแต่งตั้งทนายความมาศาลและถามค้านพยานผู้คัดค้านเช่นนี้ ก็ย่อมแสดงให้เห็นได้โดยปริยายว่า ผู้ร้องมีเจตนาคัดค้านคำร้องของผู้คัดค้านผู้ร้องเป็นผู้ที่จะถูกถอนอำนาจในการจัดการมรดก ศาลชั้นต้นจึงควรที่ไต่สวนฟังข้อเท็จจริงและเหตุผลต่าง ๆ จากผู้ร้องบ้าง เพื่อจะได้นำมาวินิจฉัยชี้ขาดได้ถูกต้องแท้จริงแห่งความยุติธรรม ดังนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมควรให้โอกาสผู้ร้องเข้าเบิกความ