คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้รับไม่รับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5785/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ: การส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ถึงแม้ผู้รับไม่รับเอง ก็ถือว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาโดยชอบ
คดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงการวินิจฉัยข้อกฎหมายศาลฎีกาจึงต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวน เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำหนังสือบอกเลิกสัญญาของโจทก์ไปส่งที่ภูมิลำเนาของจำเลยที่1แม้ไม่พบจำเลยที่1และไม่มีผู้ใดรับไว้โดยเกิดจากการที่จำเลยที่1หลีกเลี่ยงไม่ยอมรับก็ถือว่าหนังสือบอกเลิกสัญญาได้ไปถึงจำเลยที่1และมีผลเป็นการบอกเลิกสัญญาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3004/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายศาลที่ถูกต้อง การส่งหมายปิดหน้าสำนักงานเมื่อผู้รับไม่ยอมรับถือว่าชอบแล้ว
บริษัทจำเลยที่ 2 มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ตึกแถวชั้นที่สองตึกแถวชั้นล่างเป็นสำนักงานของอีกบริษัทหนึ่งซึ่งมี ช. เป็นกรรมการของบริษัททั้งสอง เมื่อบริษัททั้งสองถูกฟ้อง เจ้าหน้าที่ศาลจะนำหมายศาลไปปิดไว้ที่ประตูบริษัทชั้นล่าง สำนักงานบริษัททั้งสองตามที่ได้จดทะเบียนต่อ กระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้แบ่งแยกออกจากกันให้เป็นสัดส่วน ป้ายแสดงชื่อสำนักงานบริษัททั้งสองต่างอยู่บริเวณประตูทางเข้าสำนักงาน เช่นนี้ การที่โจทก์นำหมายนัดไต่สวนคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาพร้อมสำเนาคำฟ้อง หมายเรียก หมายนัดสืบพยานโจทก์ส่งให้บริษัทจำเลยที่ 2 โดยการปิดหมายที่หน้าประตูสำนักงานชั้นล่าง เนื่องจากคนในสำนักงานไม่ยอมรับหมาย อ้างว่าผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 2 ไม่อยู่ จึงเป็นการส่งหมายนัดไต่สวนคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา สำเนาคำฟ้อง หมายเรียก และหมายนัดสืบพยานโจทก์แก่จำเลยที่ 2 โดยชอบแล้ว ไม่มีเหตุที่จะอ้างได้ว่าจำเลยที่ 2 เพิ่งทราบว่าถูกฟ้องคดีนี้เมื่อรับคำบังคับอันจะให้จำเลยที่ 2 ขอพิจารณาใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1806/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่า: การส่งหนังสือทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ แม้ผู้รับไม่รับเอง ก็ถือว่าการบอกกล่าวมีผล
โจทก์ส่งหนังสือบอกกล่าวเลิกการเช่าโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับถึงจำเลย 3 แห่ง. คือ ที่บ้านของจำเลย ที่บ้านเช่า และที่โรงรับจำนำของจำเลย. แต่ถูกส่งกลับคืนมา โดยฉบับหนึ่งสลักหลังว่า'ผู้รับไม่อยู่ ไม่มีใครรับแทน ส่งไม่ได้คืน'. อีกฉบับหนึ่งสลักหลังว่า'ผู้รับไม่อยู่ คนในบ้านไม่รับแทน ส่งไม่ได้คืน'.และอีกฉบับหนึ่งสลักหลังว่า'ผู้รับไม่อยู่ ไม่มีใครรับแทน ส่ง 3 ครั้งแล้ว ส่งไม่ได้คืน'. ข้อความที่สลักหลังแสดงว่ามีผู้รับแต่ไม่ยอมรับแทน การส่งไม่ได้เป็นเพราะจำเลยหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับ. จึงถือได้ว่าการบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าของโจทก์ถึงจำเลยแล้ว.
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 130 วรรคแรก. การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาเช่าของโจทก์โดยทางจดหมายย่อมมีผลนับแต่เวลาที่ไปถึงจำเลยเป็นต้นไป. จำเลยจะได้ทราบข้อความในหนังสือนั้นหรือไม่. การบอกกล่าวก็มีผลเป็นการบอกเลิกสัญญาเช่าตามมาตรา 566 แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ แม้ผู้รับไม่รับเอง ถือว่าได้รับแจ้งแล้ว
กรณีผู้ให้เช่าส่งคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับแล้วถูกสั่งกลับคืนมาโดยสลักหลังว่า "ผู้รับไม่อยู่ไม่มีใครรับแทน" ดังนี้ ถือว่ามีคนรับแต่ไม่มีใครรับแทน และการจัดการส่งคำบอกล่าวเช่นนี้ถือว่า ได้ปฏิบัติการตามสมควรที่จะกระทำได้แล้ว ผู้หลีกเลี่ยงไม่ยอมรับคำบอกกล่าวต้องถือว่าได้รับทราบคำบอกกล่าวแล้ว