พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2925/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์สินเกินกว่าเหตุ การใช้กำลังทำร้ายผู้ลักทรัพย์ ศาลพิจารณาความเกินกว่าเหตุและลดโทษ
ผู้ตายคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนได้เข้าไปเพื่อจะลักเอาไก่ที่จำเลยเลี้ยงไว้ แต่ได้ไปสะดุดสายไฟฟ้าที่ จำเลยผูกกับกระป๋องน้ำอัดลมทำให้เกิดเสียงดังขึ้น ผู้ตายทั้งสองจึงออกมายืนซุ่ม เพื่อรอดูเหตุการณ์และก็ยังประสงค์ที่จะเข้าไปลักเอาไก่ของจำเลยอยู่อีก เพราะมิฉะนั้น ผู้ตายทั้งสองคงจะหลบหนีไปได้เนื่องจากมีเวลาเพียงพอกว่าที่ จำเลยจะตื่นขึ้นและตามหาได้ ดังนั้น พฤติการณ์เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าภยันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่ทรัพย์ของจำเลยยังมีอยู่และใกล้จะถึงแล้ว การที่จำเลยใช้จอบตีผู้ตายทั้งสองจึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันทรัพย์ของตน อย่างไรก็ตามเนื่องจากขณะที่จำเลยใช้จอบตีผู้ตายทั้งสองนั้น ไม่ปรากฏว่าผู้ตายทั้งสองจะทำร้ายหรือต่อสู้จำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 288 ประกอบ มาตรา 69
ปัญหาที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน เป็นปัญหา ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง
ปัญหาที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน เป็นปัญหา ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวและทรัพย์สิน: เหตุสมควรต่อสู้เมื่อผู้ลักทรัพย์ทำร้าย
ผู้ตายกับจำเลยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่มีเหตุโกรธเคืองกัน ผู้ตายได้ลักลูกโคของจำเลยมาฆ่าและเตรียมจะหามไป จำเลยตามมาพบเข้าจึงเกิดต่อสู้กัน ต่างฝ่ายต่างมีมีด ในที่สุดผู้ตายก็ตาย ทำร้ายกันอย่างไรไม่ปรากฏ เช่นนี้ถือว่า เป็นเรื่องจำเลยป้องกันตัวและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมและการลงโทษฐานรับของโจร แม้ไม่สามารถพิสูจน์ตัวผู้ลักทรัพย์ได้
บรรยายฟ้องว่าจำเลยลักแขลก (ครั่งเม็ด) และรับของโจร แล้วมีความในวงเล็บว่าครั่งเม็ด แต่นำสืบว่าครั่งเม็ดหาย จำเลยเป็นผู้ลักและรับของโจร ดังนี้ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะโจทก์ใช้ถ้อยคำในฟ้องให้เข้าใจโดยมีความในฟ้องให้เข้าใจโดยมีความในวงเล็บว่า ครั่งเม็ด ไม่มีทางจะรับฟังไปได้ว่าครั่งเม็ด ไม่มีทางจะรับฟังไปได้ว่าครั่งเม็ดของกลางไม่ใช่แขลกตามฟ้องของโจทก์
ฟ้องว่าลักทรัพย์ รับของโจรเมื่อได้ความว่าทรัพย์รายนั้นได้ถูกลักไป แม้ว่าจะไม่ได้ตัวผู้ลักทรัพย์มาลงโทษตามกฎหมาย ก็ลงโทษผู้รับของโจรได้
ฟ้องว่าลักทรัพย์ รับของโจรเมื่อได้ความว่าทรัพย์รายนั้นได้ถูกลักไป แม้ว่าจะไม่ได้ตัวผู้ลักทรัพย์มาลงโทษตามกฎหมาย ก็ลงโทษผู้รับของโจรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมและการรับของโจร แม้ผู้ลักทรัพย์ไม่ถูกลงโทษ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยลักแชลก (ครั่งเม็ด) และรับของโจรแล้วมีความในวงเล็บว่าครั่งเม็ด แต่นำสืบว่าครั่งเม็ดหาย จำเลยเป็นผู้ลักและรับของโจรดังนี้ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะโจทก์ใช้ถ้อยคำในฟ้องให้เข้าใจโดยมีความในวงเล็บว่า ครั่งเม็ดไม่มีทางจะรับฟังไปได้ว่าครั่งเม็ดของกลางไม่ใช่แชลกตามฟ้องของโจทก์
ฟ้องว่าลักทรัพย์ รับของโจรเมื่อได้ความว่าทรัพย์รายนั้นได้ถูกลักไป แม้ว่าจะไม่ได้ตัวผู้ลักทรัพย์มาลงโทษตามกฎหมาย ก็ลงโทษผู้รับของโจรได้
ฟ้องว่าลักทรัพย์ รับของโจรเมื่อได้ความว่าทรัพย์รายนั้นได้ถูกลักไป แม้ว่าจะไม่ได้ตัวผู้ลักทรัพย์มาลงโทษตามกฎหมาย ก็ลงโทษผู้รับของโจรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันทรัพย์เกินสมควร: การแทงผู้ลักทรัพย์ถึงแก่ความตาย
คนร้ายขึ้นเรือนลักทรัพย์ได้แล้ว วิ่งหนี เจ้าทรัพย์วิ่งไล่ไปทัน จึงใช้มีดแทงคนร้าย 1 ที คนร้ายถึงแก่กรรม ดังนี้ วินิจฉัยว่าเจ้าทรัพย์แทงคนร้ายในเวลากระชั้นชิดที่วิ่งไล่กันมาอาจไม่ตั้งใจฆ่าให้ตาย เพราะแทงเพียงทีเดียว และเป็นเรื่องป้องกันทรัพย์เกินสมควรกว่าเหตุคงมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251 ประกอบด้วย มาตรา 53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์สิน: การใช้กำลังสกัดผู้ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและเผชิญหน้ากับผู้กระทำผิดหลายคน ถือเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คนร้ายเข้าไปลักแตงในไร่จำเลยถึง 3 คน ในเวลาค่ำมืดแล้ว คนร้ายคนหนึ่งมีมีดติดตัวอยู่ด้วยจำเลยได้ใช้มีฟันคนร้ายไปโดยหาได้รู้ว่าผู้ร้ายเป็นใครไม่ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำลงไปในขณะเผชิญภัยโดยประจันหน้ากับผู้ร้ายถึง 3 คน ซึ่งกำลังลักทรัพย์ของจำเลยอยู่ในที่มืดเช่นนี้ เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์สิน: การใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุในการเผชิญหน้ากับผู้ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
คนร้ายเข้าไปลักแตงในไร่จำเลยถึง 3 คน ในเวลาค่ำมืดแล้ว คนร้ายคนหนึ่งก็มีมีดติดตัวอยู่ด้วย จำเลยได้ใช้มีดฟันคนร้ายไปโดยหาได้รู้ว่าผู้ร้ายเป็นใครไม่ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำลงไปในขณะเผชิญภัยโดยประจันหน้ากับผู้ร้ายถึง 3 คน ซึ่งกำลังลักทรัพย์ของจำเลยอยู่ในที่มืดเช่นนี้ เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ความรุนแรงป้องกันทรัพย์สิน: การยิงผู้ลักทรัพย์ต้องพิจารณาความจำเป็นและเหตุผลสมควร
เห็นคนในสวนทุเรียนในเวลาค่ำคืน เข้าใจว่าเป็นคนร้ายร้องทักถามแล้วไม่ได้รับคำตอบจึงใช้ปืนแก๊ปยิงไป 1นัด ถูกที่ขา บาดเจ็บสาหัส ดังนี้เป็นการกระทำอันเกินสมควรแก่เหตุ และมีความผิด
ใช้ปืนแก๊บยิงคนร้ายถูกขาอ่อนทะลุเป็นบาดแผลสาหัส และเจตนาป้องกันทรัพย์และมีพฤติการณ์อื่นประกอบ ถือว่ามีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่พยายามฆ่าคน
ใช้ปืนแก๊บยิงคนร้ายถูกขาอ่อนทะลุเป็นบาดแผลสาหัส และเจตนาป้องกันทรัพย์และมีพฤติการณ์อื่นประกอบ ถือว่ามีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่พยายามฆ่าคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์สินโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงขู่เพื่อปกป้องทรัพย์สินจากผู้ลักทรัพย์
จำเลยยิงปืนขู่ขวัญผู้ร้ายที่เข้ามาลักกระบือของจำเลยเพื่อให้ผู้ร้ายทิ้งทรัพย์ กะสุน++ถูกผู้ร้ายถึงตาย เรียกว่าจำเลยทำการป้องกันทรัพย์สมควรแก่เหตุไม่มีโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์จากผู้ลักทรัพย์: ความผิดฐานลักทรัพย์ยังคงมีอยู่ แม้ทรัพย์สินจะมาจากการกระทำผิด
ความผิดฐานลักทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 334 และ 335 นั้น เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา กล่าวคือ เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในทางอาญา และเป็นละเมิดในทางแพ่ง ผู้ที่ลักทรัพย์ไปต้องคืนหรือต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน คือราคาทรัพย์สินและค่าเสียหาย ผู้ที่ลักทรัพย์ไปจึงมีสิทธิครอบครองดูแลทรัพย์สินที่ลักไปไว้เพื่อคืนแก่ผู้เสียหาย
การที่จำเลยเอารถจักรยานยนต์ไปจาก ส. โดยทุจริต แม้ ส. จะเป็นผู้ที่ลักทรัพย์มาจากผู้เสียหายอีกต่อหนึ่ง ก็ถือว่าจำเลยเป็นผู้แย่งการครอบครองไปจาก ส. การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ หาใช่เป็นความผิดฐานรับของโจรไม่
การที่จำเลยเอารถจักรยานยนต์ไปจาก ส. โดยทุจริต แม้ ส. จะเป็นผู้ที่ลักทรัพย์มาจากผู้เสียหายอีกต่อหนึ่ง ก็ถือว่าจำเลยเป็นผู้แย่งการครอบครองไปจาก ส. การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ หาใช่เป็นความผิดฐานรับของโจรไม่