คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้เช่าเดิม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4490/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าเดิม แม้จะมีการโอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่น
เดิมโจทก์เช่าอาคารพิพาทจากสุขาภิบาลแล้วให้จำเลยเช่าช่วงมีกำหนด 3 ปี นับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2536 เมื่อครบกำหนดตามสัญญาเช่าแล้วจำเลยไม่ยอมออกจากอาคารพิพาท ดังนี้ แม้โจทก์จะโอนสิทธิการเช่าอาคารให้แก่ ส. ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2540 ก่อนฟ้องคดีนี้ก็ตาม แต่โจทก์ซึ่งเป็นคู่สัญญากับจำเลยอาจใช้สิทธิที่มีอยู่ตามสัญญาเช่าเรียกให้จำเลยส่งมอบอาคารพิพาทแก่โจทก์ได้ เพื่อโจทก์จะได้ส่งมอบอาคารพิพาทให้แก่ผู้รับโอนสิทธิการเช่า โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าที่สมบูรณ์ แม้ไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การยินยอมของผู้เช่าเดิมและผู้ให้เช่าเพียงพอ
บันทึกการเปลี่ยนแปลงผู้เช่าจากส.ผู้เช่าเดิมมาเป็นจำเลยผู้เช่าใหม่ในหนังสือสัญญาเช่าตึกแถวหน้าแรกระบุไว้ว่าโจทก์ในฐานะผู้ให้เช่าจำเลยในฐานะผู้เช่าใหม่และส. ในฐานะผู้เช่าเดิมได้ลงลายมือชื่อรับทราบการเปลี่ยนแปลงผู้เช่าตึกแถวแล้วถือได้ว่าโจทก์และส. ได้บอกกล่าวการโอนและให้ความยินยอมการโอนสิทธิการเช่าตึกแถวเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา306วรรคหนึ่งการโอนสิทธิการเช่าตึกแถวจึงสมบูรณ์ แม้หนังสือสัญญาเช่าตึกแถวระหว่างโจทก์กับส. จะได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่มาก่อนแต่ก็ไม่มีกฎหมายบังคับให้การเปลี่ยนแปลงผู้เช่าจากผู้เช่าเดิมมาเป็นผู้เช่าใหม่ต้องให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหนังสือสัญญาเช่ารับทราบด้วยแม้โจทก์จำเลยหรือส. ไม่ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้เช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมบันทึกเปลี่ยนแปลงผู้เช่าก็สมบูรณ์จำเลยย่อมต้องผูกพันต่อโจทก์ตามหนังสือสัญญาเช่าเมื่อจำเลยผิดสัญญาโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3749/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่ กรณีผู้เช่าเดิมให้บุคคลอื่นใช้พื้นที่ก่อนสัญญาเช่าใหม่ สิทธิของผู้ให้เช่าในการรอนสิทธิ
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2529 โจทก์ได้เช่าที่ดินราชพัสดุ บริเวณพื้นที่โดยรอบตลาดสดเทศบาล 3 จากเทศบาลเมืองขอนแก่นเพื่อเข้าดำเนินการจัดหาประโยชน์ด้วยตนเองหรือจัดแบ่งให้บุคคลอื่นเช่าช่วงเพื่อประกอบการค้ามีกำหนด 20 ปี ก่อนที่โจทก์จะได้รับสิทธิการเช่าพื้นที่ดังกล่าวนั้น เมื่อประมาณปี 2524ช. ซึ่งเป็นผู้เช่าคนเดิมได้อนุญาตให้จำเลยทั้งหมดซึ่งเป็นพ่อค้าและแม่ค้าเข้ามาวางขายสินค้าชั่วคราวที่ถนนบริเวณรอบนอกอาคารตลาดสดเทศบาล 3 โดยจำเลยทั้งหมดมิได้เสียค่าเช่าหรือผลประโยชน์ให้แก่บุคคลใด เมื่อโจทก์ได้รับโอนสิทธิการเช่าในพื้นที่ทั้งหมดจาก ช. นับแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2529 จำเลยทั้งหมดคงอยู่และตั้งแผงขายสินค้าในที่ดินดังกล่าวจนบัดนี้ โจทก์ได้มีหนังสือให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันขนย้ายสัมภาระและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่ได้ปลูกสร้างลงในพื้นที่พิพาทและห้ามเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใดทั้งสิ้นแล้ว แต่จำเลยทั้งหมดเพิกเฉย ทำให้โจทก์เสียหาย จึงขอให้บังคับจำเลยทั้งหมดพร้อมบริวารขนย้ายสิ่งปลูกสร้างและสัมภาระออกไปจากพื้นที่พิพาท ดังนี้ เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามฟ้องได้ความว่าจำเลยทั้งหมดได้เข้าไปครอบครองใช้ประโยชน์ที่ดินพิพาททำการค้าตลอดมาก่อนที่โจทก์จะทำสัญญาเช่ากับเทศบาลเมืองขอนแก่น ซึ่งโจทก์ยังไม่ได้เข้าครอบครองที่ดินพิพาทตามสัญญาเช่า จำเลยทั้งหมดไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ รูปคดีเป็นความรับผิดของผู้ให้เช่าในการรอนสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 549ประกอบด้วยมาตรา 477 โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยเองโดยลำพังไม่ได้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2123/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างตอบแทน, การโอนสิทธิ, ผู้เช่าเดิม: โจทก์ต้องผูกพันตามสัญญาเช่าเดิมเมื่อซื้อที่ดินและยอมรับข้อผูกพัน
สัญญาต่างตอบแทนให้สร้างตึกเช่า 15 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนผู้ให้เช่าขายที่ดินโดยผู้ซื้อบันทึกยอมรับข้อผูกพันเดิม จึงมีผลถึงสัญญาตอบแทนที่ชำระหนี้แก่คนภายนอกด้วย ผู้ซื้อต้องให้ผู้เช่าเช่าต่อไปตามสัญญาเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2298/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสิ้นสัญญาเช่าช่วงเมื่อผู้เช่าเดิมถึงแก่กรรม และสิทธิของผู้เช่าใหม่ที่ทำสัญญาโดยตรงกับเจ้าของที่ดิน
แม้จำเลยจะได้เช่าช่วงนาพิพาทจากนายผลบิดาโจทก์ โดยวัดเครือวัลย์วรวิหารเจ้าของนายินยอมก็ตาม แต่เมื่อนายผลบิดาโจทก์ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ.2516 การเช่าระหว่างวัดเครือวัลย์วรวิหารกับนายผลได้ระงับลง มีผลให้การเช่าช่วงนาพิพาทของจำเลยระงับไปด้วย ขณะนายผลถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ.2516 นั้น พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 ยังมิได้ประกาศใช้บังคับจึงไม่อาจนำผลบังคับตามกฎหมายใหม่ไปใช้ได้ ครั้นโจทก์ได้เป็นผู้เช่าประจำปี พ.ศ.2517, 2518 เป็นสิทธิเฉพาะตัวของโจทก์เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้เช่านาพิพาทกับโจทก์ โจทก์จำเลย (ย่อม) ไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกันจำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2298/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสัญญาเช่าช่วงเมื่อผู้เช่าเดิมเสียชีวิต และสิทธิของผู้เช่าใหม่ที่ไม่ปรากฏนิติสัมพันธ์
แม้จำเลยจะได้เช่าช่วงนาพิพาทจากนายผลบิดาโจทก์ โดยวัดเครือวัลย์วรวิหารเจ้าของนายินยอมก็ตาม แต่เมื่อนายผลบิดาโจทก์ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ.2516 การเช่าระหว่างวัดเครือวัลย์วรวิหารกับนายผลได้ระงับลง มีผลให้การเช่าช่วงนาพิพาทของจำเลยระงับไปด้วย ขณะนายผลถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ.2516 นั้น พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 ยังมิได้ประกาศใช้บังคับ จึงไม่อาจนำผลบังคับตามกฎหมายใหม่ไปใช้ได้ ครั้นโจทก์ได้เป็นผู้เช่าประจำปี พ.ศ.2517, 2518 เป็นสิทธิเฉพาะตัวของโจทก์ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้เช่านาพิพาทกับโจทก์ โจทก์จำเลย (ย่อม)ไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2017/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเช่าที่ไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า และสิทธิของผู้เช่าเดิม
โจทก์ทำสัญญารับโอนสิทธิการเช่าตึกพิพาทของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จากผู้เช่าเดิมโดยผู้ให้เช่ามิได้ตกลงยินยอมด้วย เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 544จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้เป็นผู้เช่าตึกพิพาทแม้ศาลจะพิพากษาให้ผู้เช่าเดิมโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์ คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันเฉพาะคู่ความในคดี หาผูกพันสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ผู้ให้เช่าไม่
กรณีผู้เช่าหลายคนเรียกร้องเอาอสังหาริมทรัพย์อันเดียวกันโดยอาศัยมูลสัญญาเช่าต่างรายกัน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 543 ได้บัญญัติวางหลักเกณฑ์ให้ศาลวินิจฉัยไว้ซึ่งแสดงว่าถ้าต่างคนต่างแย่งการเช่าอสังหาริมทรัพย์โดยอาศัยมูลสัญญาเช่าต่างรายกันแล้ว คู่กรณีย่อมจะมาฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าตนมีสิทธิการเช่าดีกว่าคนอื่นได้แต่โจทก์รับโอนสิทธิการเช่าโดยไม่ถูกต้อง และยังมิได้เป็นผู้เช่าตึกพิพาทจากผู้ให้เช่า ย่อมไม่มีทางที่จะฟ้องขอให้แสดงว่า โจทก์มีสิทธิการเช่าได้ ดังที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 543 บัญญัติไว้
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิได้รับโอนสิทธิการเช่าตึกพิพาทจากผู้เช่าเดิมดีกว่าจำเลย โจทก์มีสิทธิจะทำสัญญาเช่าตึกพิพาทกับผู้ให้เช่าได้ก่อนจำเลยและขอให้บังคับจำเลยถอนคำร้องโต้แย้งคัดค้าน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ให้เช่าได้อนุมัติให้โอนสิทธิการเช่าแก่จำเลยและสิทธิการเช่าตึกพิพาทได้โอนไปยังจำเลยโดยถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานในวันพุธที่ 12 และนัดฟังคำพิพากษาวันศุกร์ที่ 14 เดือนเดียวกัน ถือว่ามีเวลาพอที่คู่ความจะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้ เมื่อมิได้โต้แย้งไว้จะอุทธรณ์ฎีกาขอให้มีการพิจารณาสืบพยานต่อไปหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าที่ดินและการบังคับสัญญาซื้อขายฝากที่สมบูรณ์ สิทธิของผู้เช่าเดิมและผู้ซื้อฝาก
การที่ผู้เช่าที่ดินทำสัญญาขายฝากห้องแถวและโอนสิทธิการเช่าที่ดินให้ผู้ซื้อฝากด้วยนั้น ถือว่าเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ต้องการให้ผู้ซื้อฝากต้องซื้อโรงเรือนนั้นไป และเป็นบุคคลสิทธิที่ใช้บังคับกันได้ระหว่างคู่สัญญา ฉะนั้นแม้ต่อมาผู้เช่าที่ดินนั้นจะไปทำสัญญาเช่าใหม่กับเจ้าของที่ดินก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุให้สิ้นความผูกพันตามสัญญาที่ทำไว้ ผู้เช่าที่ดินจึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้รับซื้อฝากนั้นได้
ในทำนองเดียวกัน ผู้ซื้อฝากห้องแถวซึ่งแม้จะได้รับโอนสิทธิการเช่าที่ดินที่โรงเรือนนั้นปลูกอยู่ไว้แล้วก็ตาม แต่เมื่อยังไม่ได้ไปทำสัญญาเช่ากับเจ้าของที่ดิน ก็ยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ดินนั้นเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1882/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินเช่า: การละเมิดต่อผู้เช่าเดิม vs. ผู้เช่าใหม่ และหลักการรอนสิทธิ
เรือนที่จำเลยปลูกสร้างให้ชายคารุกล้ำเข้าไปในที่เช่าของโจทก์ แม้จำเลยจะสร้างขึ้นหลังจากที่โจทก์ได้เช่าที่ดินแล้วก็ตาม เมื่อแนวชายคานั้นไม่เกินระดับแนวรั้วที่รุกล้ำอยู่ก่อนที่โจทก์จะมาเช่าที่แปลงนั้นแล้ว ก็ต้องถือว่าจำเลยไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รื้อถอนชายคานั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 916/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่จำกัดเฉพาะพื้นที่เช่า ผู้เช่าเดิมมีสิทธิเหนือพื้นที่ปลูกสร้างก่อนสัญญาเช่า
ในกรณีที่จำเลยผู้เช่าได้ปลูกโรงของจำเลยไว้ในที่พิพาทก่อนที่โจทก์ได้มาทำสัญญาเช่าที่พิพาทต่อเจ้าของที่พิพาทนั้น โจทก์จะอาศัยสิทธิสัญญาเช่านั้นมาฟ้องขับไล่จำเลยเพื่อโจทก์จะได้เข้าครอบครองที่พิพาทนั้นหาได้ไม่ โจทก์เป็นเพียงผู้มีสิทธิเช่า ยังไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทที่เช่ามานั้นเลย ไม่มีอำนาจฟ้อง
of 2