คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ให้ยืม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4200/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถ-ความรับผิดชอบผู้ให้ยืม: ผู้ให้ยืมไม่รู้เห็นเป็นใจ หากผู้ขับขี่ประมาทหรือขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ มาตรา 43(8), 160 วรรคสาม โดยจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงฉวัดเฉวียนไปมาซึ่งความผิดเช่นว่านี้ แม้จำเลยจะมีใบอนุญาตขับรถยนต์ก็ยังเป็นความผิดได้ ดังนั้น แม้ผู้ร้องจะทราบว่าจำเลยไม่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ แต่ยังให้ยืมรถจักรยานยนต์ของกลางไปขับขี่ ก็หาได้ถือว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3425/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เงินกู้ยืมต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืม หรือมีการเวนคืน/เพิกถอนเอกสาร
การกู้ยืมเงินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น จำเลยจะนำสืบการใช้เงินได้ก็ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อโจทก์ผู้ให้ยืมมาแสดงหรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653เมื่อได้ความว่าจำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งที่มีใจความว่าโจทก์ได้รับชำระหนี้เงินยืมคืนแล้วโดยโจทก์ผู้ให้ยืมลงลายมือชื่อมาแสดง และหนังสือกู้ยืมก็ยังอยู่ในความครอบครองของโจทก์โดยไม่ได้แทงเพิกถอนว่าได้รับชำระเงินยืมคืนแล้ว จำเลยก็ไม่อาจนำสืบถึงการใช้เงินได้ ใช้เงินกู้ยืมคืนโดยชำระแก่ตัวแทนของผู้ให้ยืม แต่การตั้งตัวแทนดังกล่าวไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงชื่อตั้งการเป็นสำคัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 วรรคสองดังนี้ แม้ตัวแทนจะออกหลักฐานการรับเงินให้ผู้ยืมไว้ ก็ไม่ผูกพันผู้ให้ยืม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการชำระหนี้ต้องลงลายมือชื่อผู้ให้ยืม เอกสารการคิดบัญชีระหว่างคู่สมรสไม่ผูกมัดผู้ให้ยืม
เอกสารที่จำเลยอ้างว่าเป็นหลักฐานการใช้เงิน โจทก์มิได้ทำขึ้นและมิได้ลงลายมือชื่อรับรู้ จำนวนเงินก็ไม่ตรงตามที่โจทก์ฟ้องทั้งไม่มีข้อความตอนใด กล่าวพาดพิง ถึงตัวโจทก์ เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงเอกสารการคิดบัญชีระหว่างภริยาโจทก์กับจำเลยเท่านั้น ไม่มีความตอนใด ที่แสดงว่าภริยาโจทก์กระทำในนามของโจทก์หรือเป็นตัวแทนของโจทก์ เอกสารดังกล่าวจึงไม่เป็นหลักฐานการชำระหนี้ที่ลงลายมือชื่อโจทก์ผู้ให้ยืมตามความหมายแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 653วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการชำระหนี้ต้องลงลายมือชื่อผู้ให้ยืม แม้ภริยาจะทำรายการบัญชีร่วมกับลูกหนี้ ก็ไม่ผูกมัดตัวผู้ให้ยืม
เอกสารที่จำเลยอ้างว่าเป็นหลักฐานการใช้เงิน โจทก์มิได้ทำขึ้นและมิได้ลงลายมือชื่อรับรู้ จำนวนเงินก็ไม่ตรงตามที่โจทก์ฟ้องทั้งไม่มีข้อความตอนใดกล่าวพาดพิงถึงตัวโจทก์เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงเอกสารการคิดบัญชีระหว่างภริยาโจทก์กับจำเลยเท่านั้น ไม่มีความตอนใดที่แสดงว่าภริยาโจทก์กระทำในนามของโจทก์หรือเป็นตัวแทนของโจทก์ เอกสารดังกล่าวจึงไม่เป็นหลักฐานการชำระหนี้ที่ลงลายมือชื่อโจทก์ผู้ให้ยืมตามความหมายแห่ง ป.พ.พ มาตรา 653 วรรคสอง.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการชำระหนี้ต้องเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืม การอ้างใบรับหายแล้วอ้างพยานบุคคลไม่เพียงพอ
การที่จำเลยอ้างว่าใบรับชำระหนี้ซึ่งมีหลักฐานการกู้เป็นหนังสือหาย แล้วนำพยานบุคคลเข้าสืบว่า ใบรับนั้นโจทก์ผู้ให้ยืมพิมพ์ลายนิ้วมือให้ไว้ และมีคนลงนามในใบรับนั้นเพียงคนเดียวเช่นนี้ ไม่เป็นการแสดงว่าโจทก์ผู้ให้ยืมได้ลงลายมือชื่อตามกฎหมาย จึงเท่ากับจำเลยไม่มีหลักฐานการใช้เงินเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดงต่อศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการกู้เงินต้องมีลายมือชื่อผู้ให้ยืม ใบรับชำระหนี้ที่มีเพียงลายนิ้วมือไม่ถือเป็นหลักฐานตามกฎหมาย
การที่จำเลยอ้างว่าใบรับชำระหนี้ซึ่งมีหลักฐานการกู้เป็นหนังสือหายแล้วนำพยานบุคคลเข้าสืบว่า ใบรับนั้นโจทก์ผู้ให้ยืมพิมพ์ลายนิ้วมือให้ไว้ และมีคนลงนามในใบรับนั้นเพียงคนเดียวเช่นนี้ ไม่เป็นการแสดงว่าโจทก์ผู้ให้ยืมได้ลงลายมือชื่อตามกฎหมาย จึงเท่ากับจำเลยไม่มีหลักฐานการใช้เงินเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดงต่อศาล