พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยไม่ใช่การกระทำโดยบันดาลโทสะ แม้ถูกต่อว่าก่อนหน้า และการทำร้ายผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง
จำเลยที่1นายเกื้อกับพวกไม่พอใจที่จำเลยที่2กับสามีไปต่อว่านายเกื้อที่ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยแล้วจำเลยที่1พาพวกไปทำร้ายจำเลยที่2เหตุที่จำเลยที่2กับสามีด่าว่านายเกื้อไม่ใช่เป็นเหตุที่ไม่เป็นธรรมอันเกิดแก่จำเลยที่1และเมื่อโจทก์ร่วมมารดาของจำเลยที่2ร้องห้ามปรามจำเลยที่1กลับใช้ไม้ตีโจทก์ร่วมจนสลบทั้งที่โจทก์ร่วมมิได้เกี่ยวข้องด้วยเลยการกระทำของจำเลยที่1จึงไม่ใช่เป็นการกระทำผิดโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะและการกระทำเกินเลย: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าเมื่อถูกทำร้ายก่อนและการยิงผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง
จำเลยไม่ได้เป็นฝ่ายก่อเหตุก่อน ผู้ตายกับพวกเล่นการพนันแล้วทะเลาะกันส่งเสียงดังในยามวิกาล จำเลยซึ่งอยู่บ้านใกล้ชิดติดกันย่อมมีความชอบธรรมที่จะไปขอร้องให้เบา ๆ ลงหรือเลิกเล่นการพนัน แต่ผู้ตายกลับด่าว่าจำเลยแล้วเกิดชกต่อยกัน เมื่อมีคนมาห้ามและจำเลยกับผู้ตายยุติกันไปแล้ว แต่ผู้ตายหาได้หยุดยั้งเพียงแค่นั้นไม่ กลับเข้าไปในบ้านหยิบขวดมาตีศีรษะจำเลยจนโลหิตไหลฉะนั้นการที่จำเลยไปหยิบปืนในบ้านออกมายิงผู้ตายจึงเป็นการบันดาลโทสะ แต่ที่จำเลยยิง ว.และศ. ด้วยแม้คนทั้งสองจะเป็นบุตรภริยาของผู้ตายและอยู่บ้านเดียวกับผู้ตายก็ตาม แต่คนทั้งสองก็มิได้ร่วมทำร้ายจำเลยด้วย การที่จำเลยยิง ว. และ ศ. ถึงแก่ความตายในขณะนั้นเป็นแต่เพียงจำเลยกระทำไปโดยอารมณ์ร้อนแรงชั่วแล่น ซึ่งไม่อาจอ้างได้ว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องคืนของกลางของผู้ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำผิด: การบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74 บัญญัติเฉพาะในเรื่องริบของกลางอันได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดแต่ในเรื่องที่มีผู้มาร้องขอให้สั่งคืนของกลางที่ศาลสั่งริบไปแล้วพระราชบัญญัติป่าไม้ดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ประกอบด้วยมาตรา 17 ซึ่งเป็นบททั่วไป ดังนั้น แม้ศาลจะฟังว่าถ่านของกลางได้มาจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ และได้สั่งริบไปแล้ว ผู้ร้องซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของ เป็นบุคคลภายนอกคดี ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ ย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ที่จะร้องขอให้ศาลสั่งคืนของกลางแก่ผู้ร้องได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนถ่านของกลาง โดยอ้างแต่เพียงว่าถ่านของกลางที่ศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้องเท่านั้น มิได้อ้างว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ศาลจะสั่งคืนของกลางให้แก่ผู้ร้องไม่ได้ ต้องยกคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนถ่านของกลาง โดยอ้างแต่เพียงว่าถ่านของกลางที่ศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้องเท่านั้น มิได้อ้างว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ศาลจะสั่งคืนของกลางให้แก่ผู้ร้องไม่ได้ ต้องยกคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1756/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบกระบือของกลาง: สิทธิในทรัพย์สินของผู้ที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิด
จำเลยครอบครองกระบือของผู้อื่นไว้ และไม่ได้แจ้งปริมาณและสถานที่กักขังต่ออำเภอโดยเจ้าของกระบือมิได้รู้เห็นด้วยนั้นจะริบกระบือของกลางไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 379/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1081/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความผิด พ.ร.บ.การพนัน: การซื้อขายผลจากการพนันโดยผู้ไม่เกี่ยวข้อง
ผู้อื่นที่มิได้เป็นเจ้าของร้านการพะนันหรือเกี่ยวข้องแก่เจ้าของร้านการพะนันซื้อของจากผู้ที่เล่นการพะนันได้ในสถานที่เล่นการพะนัน ต้องมีความผิดตาม ม.4 วรรคด้วย