คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยานผู้เห็นเหตุการณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1222/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ โดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมและระยะเวลาในการเกิดเหตุ
แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นเวลาดึกสงัดและมีฝนตกพรำ ๆ แต่ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนที่ใช้สำหรับสัญจร ตามสภาพย่อมเป็นที่โล่งผู้เสียหายที่ 2 สามารถเห็นจำเลยได้โดยอาศัยแสงสว่างจากไฟหน้ารถจักรยานยนต์ ทั้งในคืนเกิดเหตุมีแสงจันทร์มองเห็นได้ชัดในระยะเมตรเศษและผู้เสียหายที่ 2 มิได้ถูกบังคับให้นอนคว่ำหน้าคงอุ้มบุตรนั่งดูคนร้ายขณะปลดทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งสอง จากพฤติการณ์ของคนร้ายที่เข้ามาจับแฮนด์รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนและมีดจี้ผู้เสียหายทั้งสองปลดเอาทรัพย์สินไป ทั้งใช้ผ้าขาวม้ามัดผู้เสียหายทั้งสองก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ 1 หลบหนีไปคนร้ายต้องเข้ามาประชิดอยู่ใกล้ ๆ กับผู้เสียหายทั้งสองและใช้เวลานานพอสมควร โอกาสที่ผู้เสียหายที่ 2 จะเห็นและจำหน้าคนร้ายได้ย่อมมีมาก โดยเฉพาะผู้เสียหายที่ 2 รู้จักจำเลยเป็นอย่างดี จึงย่อมสามารถสังเกตและจดจำจำเลยได้โดยง่ายและแม่นยำแม้ว่าจำเลยจะสวมหมวกไหมพรมแบบไอ้โม่งชนิดที่เห็นตาก็ตาม แต่สภาพของหมวกดังกล่าวเมื่อมีช่องให้ตามองเห็น ย่อมทำให้มีช่องว่างให้เห็นหน้าบางส่วน ทั้งหลังเกิดเหตุผู้เสียหายที่ 2 ก็บอกผู้เสียหายที่ 1 ทันทีว่า จำเลยเป็นคนร้ายที่ร่วมปล้นทรัพย์ จากนั้นยังไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟังอีกว่าคนร้ายคือจำเลย และในวันรุ่งขึ้นก็ไปร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่าจำเลยเป็นคนร้าย เมื่อจับจำเลยได้แล้วยังชี้ตัวยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ร่วมปล้นทรัพย์ เมื่อผู้เสียหายที่ 2รู้จักจำเลยเป็นอย่างดีโดยเป็นญาติกันและไม่ปรากฏว่าเคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนย่อมไม่มีเหตุน่าระแวงสงสัยว่าจะมีเวลาคิดเสริมแต่งเรื่องขึ้นมาทันทีหลังเกิดเหตุเพียงเล็กน้อยว่าจำได้ว่าจำเลยเป็นคนร้าย ทั้งไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องเบิกความปรักปรำใส่ร้ายจำเลยซึ่งเป็นญาติกันโดยไม่มีมูลความจริง กรณีจึงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ร่วมกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์จริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และคำเบิกความของพยานผู้เห็นเหตุการณ์
แม้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคนร้ายจะสวมหมวกซึ่งคลุมใบหน้าไว้ก็ตามแต่ พ. พยานโจทก์กับจำเลยที่ 1 มีความคุ้นเคยกันฉันญาติ จึงมีเหตุผลอยู่ที่ พ. จะจำจำเลยที่ 1 ได้จากเสียงและรูปร่างลักษณะการที่ระบุตัวจำเลยที่ 1 ต่อเจ้าพนักงานตำรวจล่าช้าไปบ้างก็เป็น เรื่องธรรมดาที่ในตอนแรก พ. อาจคิดช่วยเหลือจำเลยที่ 1 รวม ทั้งกลัวภัยที่จะเกิดแก่ตน จึงไม่ทำให้น้ำหนักคำ พ. เป็นพิรุธถึงกับรับฟังไม่ได้ เพื่อพิจารณาประกอบผลการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบ ลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยที่ 1 กับลายนิ้วมือแฝง ของคนร้ายที่ขวดสุรา ของกลาง ปรากฎว่าเป็นลายนิ้วมือของบุคคลคนเดียวกัน ทำให้พยาน หลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนร้าย ร่วมกับพวกปล้นทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานจากคำเบิกความของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ และการยืนยันตัวบุคคลผู้กระทำผิด
จากแสงสว่างของหลอดไฟฟ้านีออน ขนาดยาวซึ่งเปิดอยู่ที่หลังร้าน ในร้านและหน้าร้านที่เกิดเหตุในขณะเกิดเหตุ น่าเชื่อว่าม. กับ ส. ประจักษ์พยานจำคนร้ายได้ โดยเฉพาะ ม. รู้จักจำเลยมาก่อนเกิดเหตุเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน และพยานทั้งสองไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อนจึงไม่มีเหตุที่จะปรักปรำจำเลยแม้ ส. ไม่เคยรู้จักจำเลยมาก่อนเกิดเหตุก็ได้แจ้งรูปพรรณคนร้ายให้ตำรวจทราบและเมื่อตำรวจจับจำเลยมาให้ ส. ดู ตัวก็ยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ยิงผู้ตาย พยานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงเพียงพอที่จะฟังว่าจำเลยเป็นคนร้าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน: น้ำหนักพยานผู้เห็นเหตุการณ์มีน้ำหนักกว่ารายงานผลการตรวจลายมือชื่อ
การวินิจฉัยปัญหาว่าจำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์หรือไม่นั้น แม้โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียว แต่ ก็เบิกความอย่างมีเหตุผล ไม่มีข้อพิรุธสงสัยยืนยันว่าจำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้โจทก์ต่อหน้าพยาน ย่อมมีน้ำหนักดีกว่าพยานของจำเลยซึ่ง มีเพียงแต่ รายงานความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ทำการตรวจ พิสูจน์ลายมือชื่อในตั๋วสัญญาใช้เงินว่าน่าจะไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย โดยที่ตัว จำเลยมิได้มาเบิกความสนับสนุนข้ออ้างของตน แต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3757/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังคำเบิกความของพยานที่ไม่ใช่พยานผู้เห็นเหตุการณ์เพื่อลงโทษจำเลยในคดีอาญา
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำผิด คงมีแต่คำเบิกความและคำให้การชั้นสอบสวนของ ป. พี่ชายจำเลยว่า หลังเกิดเหตุ 2 วัน จำเลยบอก ป. ว่า จำเลยฆ่าผู้ตายและได้เก็บทรัพย์ที่ชิงไปจากผู้ตายไว้ที่บ้าน ลำพังคำเบิกความและคำให้การชั้นสอบสวนดังกล่าวจะนำมารับฟังเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานประกอบการพิสูจน์ความผิดอาญา: พยานบอกเล่า, พยานผู้เห็นเหตุการณ์, และการรับฟังคำให้การของผู้ตาย
คำให้การพยานชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่าเมื่อไม่ได้ตัวผู้ให้การมาเบิกความที่ศาล เพราะตายเสียก่อน ก็อาจใช้ได้แต่มีน้ำหนักน้อย และใช้เป็นคำประกอบคำเบิกความของพยานอื่นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานบอกเล่ารับรองพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ลักทรัพย์ ฟังลงโทษได้
คดีเรื่องลักทรัพย์ โจทก์มีประจักษ์พะยานคนเดียวเบิกความ ก็ฟังลงโทษจำเลยได้พะยานบอกเล่ามาเบิกความรับรองก็รับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4112/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังคำให้การทางวิดีโอต้องมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง และพยานบอกเล่าไม่อาจใช้แทนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ได้
ในการรับฟังสื่อภาพและเสียงคำให้การของพยานในชั้นสอบสวนตามมาตรา 133 ทวิ เสมือนหนึ่งเป็นคำเบิกความของพยานนั้นในชั้นพิจารณาของศาลตาม ป.วิ.อ. มาตรา 172 ตรี วรรคท้าย นั้น ต้องมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ได้ตัวพยานมาเบิกความต่อศาล กรณีที่โจทก์เพิ่งอ้างในฎีกาถึงสาเหตุที่ไม่ได้ตัวพยานมาเบิกความ เพราะเกิดความกลัว โดยไม่ปรากฏในชั้นพิจารณาถึงสาเหตุดังกล่าว จึงถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่ศาลจะรับฟังสื่อภาพและเสียงคำให้การของพยานในชั้นสอบสวนเสมือนหนึ่งเป็นคำเบิกความของพยานในชั้นพิจารณาของศาลได้