คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: สิทธิของผู้ให้เช่าในการบอกเลิกสัญญาเมื่อผู้เช่าไม่ใช้สิทธิซื้อ และความชอบธรรมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
สัญญาเช่าเคหะมีข้อความว่า " ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ใดก่อนครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากทรัพย์สินที่เช่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือน และผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่า จะตกลงขายให้แก่ผู้ใด เป็นเงินเท่าใด เพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงซื้อได้ก่อนในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควร" ถ้าโจทก์ผู้ให้เช่าได้ปฏิบัติตามสัญญานี้แล้ว จำเลยเพิกเฉย ไม่จัดการอย่างใด ถือได้ว่าตอนนี้จำเลยเลือกเอาในทางไม่ซื้อที่ดินเป็นการยอมออกจากที่ดินตามที่ได้เคยตกลงกันไว้ในสัญญา ความยินยอมตามสัญญาข้อนี้ถือได้ว่า เป็นความยินยอมตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489 มาตรา 16 ข้อ 5 ไม่ใช่ความยินยอม ที่ขัดหรือหลีกเลี่ยงพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แต่อย่างใด โจทก์มีสิทธิให้จำเลยเลิกใช้ทรัพย์สินที่เช่านี้ได้ตามข้อสัญญา (ควรดูฎีกาที่ 1597/2494) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2503)
แม้ว่าจะพ้นกำหนด 1 ปี ตามสัญญาเช่าเดิม แต่เมื่อโจทก์จำเลยยังเช่ากันอยู่ตราบใดข้อความในสัญญาเช่าเดิมก็ยังคงใช้บังคับกันได้อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728-730/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่ออยู่อาศัย vs. เช่าเพื่อค้า: เหตุผลการเช่าและสภาพการใช้งานเป็นหลัก
ในการที่จะวินิจฉัยว่าการเช่ารายใดเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ หรือเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าอันมีผลตรงข้ามนั้น จะถือหลักเกณฑ์ตายตัวแบบองค์ความผิดในทางอาญา เป็นต้นว่าที่เช่าอยู่ในทำเลการค้า จดทะเบียนการค้า ยอมให้ขึ้นค่าเช่าได้เรื่อยมา ถือว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าเช่นนั้นไม่ได้ เหตุผลเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องประกอบข้อวินิจฉัยทั่วๆ ไปเท่านั้น และในเรื่องจดทะเบียนการค้า เมื่อผู้เช่าไปจดทะเบียนประเภทตรงตามที่จำเลยกระทำอยู่ เพื่อความสะดวกในการเรียกเก็บภาษีของเจ้าพนักงานส่วนหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่เป็นการเด็ดขาดตายตัวว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าขึ้นมาได้
หลักสำคัญอยู่ที่เหตุผลแห่งการเช่าและการค้าของผู้เช่าแต่ละรายในห้องเช่านั้นๆ ว่ามีอยู่มากหรือน้อยเพียงใด ตลอดจนรายได้จากการค้าดังกล่าว อันปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวนประกอบกับสภาพความจริงตามที่ศาลได้ไปตรวจดูสถานที่มานั้น ซึ่งควรที่จะได้บันทึกโดยละเอียดและชัดแจ้ง ย่อมชี้ถึงความจริงได้ว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าโดยตรง หรือเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ หากแต่มีการค้าปะปนบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพียงเพื่อการดำรงชีวิตของตนเองหรือครอบครัวเท่านั้น ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงโดยเฉพาะของแต่ละเรื่อง ไม่ใช่หลักเกณฑ์ตายตัวที่จะนำไปใช้กันได้ในทุกเรื่อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าเมื่อผู้เช่าผิดนัดชำระค่าเช่าหลายเดือน มิได้รับความคุ้มครองตาม พรบ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยผิดนัดชำระค่าเช่าติดต่อกันถึง 9 เดือน จำเลยย่อมไม่อยู่ในข่ายได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของห้องเช่าบอกเลิกการเช่าจำเลยก็ต้องออกจากห้องเช่า ในกรณีเช่นนี้การบอกกล่าวตาม มาตรา 560 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งฯ ก็มิต้องนำมาใช้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าห้องบนที่ดินของผู้อื่น ไม่สามารถอ้างสิทธิในพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่ากับเจ้าของที่ดินได้
เมื่อปรากฏว่า จำเลยไม่ใช่เป็นผู้เช่าหรือผู้เช่าช่วงที่ดินของโจทก์ จำเลยเป็นเพียงผู้เช่าห้องของบุคคลอื่นซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินที่พิพาทของโจทก์เท่านั้น จำเลยไม่มีทางอ้าง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ขึ้นใช้ยันโจทก์ได้