พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2513/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: ผู้เสียหายมีพฤติกรรมคุกคาม จำเลยมีสิทธิป้องกันตนเองได้ แต่ต้องไม่เกินความจำเป็น
ผู้เสียหายกับจำเลยเคยรักใคร่กัน ต่อมาจำเลยเลิกติดต่อกับผู้เสียหายผู้เสียหายโกรธเคยตบหน้าจำเลยและมีหนังสือแจ้งว่าจะทำลายล้างจำเลยและ มารดาจำเลยจะเอาน้ำกรดสาดหน้าจำเลย วันเกิดเหตุผู้เสียหายมาที่ประตูบ้านจำเลย จำเลยร้องบอกให้มารดาผู้เสียหายมาเอาตัวผู้เสียหายไป มารดาผู้เสียหายบอกให้ผู้เสียหายกลับบ้านแต่ผู้เสียหายกลับเดินเข้าไปหาจำเลย จำเลยบอกให้ออกไปผู้เสียหายกลับพูดว่าไม่มีใครช่วยมึงได้ พฤติการณ์เช่นนี้ย่อมเห็นได้ว่าผู้เสียหายเข้าไปเพื่อจะทำร้ายจำเลยแต่ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายมีอาวุธ การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายจึงเป็นการพยายามฆ่าโดยป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ผู้ตายมีพฤติกรรมคุกคาม
ผู้ตายเมาสุราถือมีดขึ้นไปบนเรือนของจำเลย ไปพูดกล่าวหาจำเลยต่างๆ และพูดส่อแสดงว่าต้องการหาเรื่องชวนวิวาท และพร้อมกันนั้นผู้ตายขยับมีดจะลุกขึ้นประกอบกับผู้ตายมีนิสัยเกกมะเหรก ชอบเสพสุราและชวนวิวาท จึงทำให้เห็นได้ว่าผู้ตายขยับมีดลุกขึ้นจะทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายไป ดังนี้ ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว แต่เมื่อจำเลยฟันผู้ตายครั้งแรกถูกที่หน้าผากผู้ตายหงายหลังไปแล้ว จำเลยยังฟันผู้ตายอีกถึง 4 ครั้งเป็นแผลฉกรรจ์จนผู้ตายถึงแก่ความตายทันทีเช่นนี้ ต้องถือว่าเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ