พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาเรื่องความผิดพยายามฆ่าและอาวุธปืน ศาลจำกัดการฎีกาเฉพาะประเด็นที่พิพากษากลับกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้อง ดังนี้ มีผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดตามมาตรา 289, 80 โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงฎีกาข้อหาดังกล่าวในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ คงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้เฉพาะข้อหาความผิดตามมาตรา 288, 80 ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษากลับกันมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งการครอบครองที่ดินมรดก และผลของการพิพากษากลับกันระหว่างศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของ 2 ส่วน ราคา 2,000 บาท ในที่ดินมือเปล่าแปลงหนึ่ง จำเลยไปแจ้งการครอบครองเอาเป็นของจำเลยขอให้พิพากษาทำลายแบบส.ค.1 ของจำเลยและห้ามจำเลยเกี่ยวข้องศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์กับผู้อื่นร่วมกันแต่จำเลยได้แย่งการครอบครองเกิน 1 ปีแล้วโจทก์หมดสิทธิฟ้องเอาคืนพิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์เห็นว่าจะถือว่าจำเลยแย่งการครอบครองยังไม่ถนัดแต่ยังไม่ได้ความชัดพอให้ชี้ขาดว่าส่วนของโจทก์มีเพียงใดจึงพิพากษายืนในผลที่ให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะดำเนินคดีเรียกร้องใหม่ ดังนี้มีผลเป็นการพิพากษากลับกันมาไม่ใช่ยืนจำเลยจึงฎีกาในข้อเท็จจริงได้และเมื่อศาลฎีกาเห็นพ้องกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ก็ย่อมพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น