พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5563/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิหนี้และการคิดดอกเบี้ยตามสัญญาเดิมหลังการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้ พ.ร.ก.การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
พ.ร.ก.การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2541 มาตรา 30 ตรี บัญญัติว่า "ในกรณีที่มีการโอนทรัพย์สินที่ได้ขายตามวิธีการที่กำหนดไว้ในมาตรา 30 ทวิ แล้ว... (3) ผู้ซื้อทรัพย์สินมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยตามวิธีการและตามอัตราในสัญญาเดิม" เมื่อจำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้ยืมเงินกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ค. ตกลงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 14 ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดอัตราร้อยละ 21 ต่อปี และโจทก์ได้รับโอนสิทธิทั้งหมดตามสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาจำนอง ต่อมาวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 โจทก์กับจำเลยที่ 1 ตกลงยอมปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งจำเลยที่ 1 ยอมรับดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราสูงสุดตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ในสัญญากู้ยืมเงิน ตามสัญญากู้เงินและบันทึกต่อท้ายสัญญากู้ยืมเงิน ประกอบกับตามบทบัญญัติดังกล่าวรับรองให้โจทก์มีสิทธิที่จะคิดดอกเบี้ยได้ในอัตราเดิมที่ระบุไว้ในสัญญากู้ยืมเงิน โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 21 ต่อปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15779/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหนี้ พ.ร.ก.การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน และสิทธิในการยกข้อต่อสู้
บทบัญญัติตาม พ.ร.ก.การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2540 มาตรา 30 ทวิ วรรคสอง เป็นกฎหมายพิเศษยกเว้นเฉพาะการโอนหนี้ที่ไม่ต้องบอกกล่าวการโอนไปยังลูกหนี้หรือลูกหนี้จะต้องยินยอมด้วยในการโอนเท่านั้น โดยการโอนหนี้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 306 วรรคแรก แต่มิได้บัญญัติยกเว้นให้ถือว่าลูกหนี้ได้ให้ความยินยอมโดยมิได้อิดเอื้อน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 308 ทั้งหนังสือโอนสิทธิเรียกร้องเป็นเพียงการบอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้องของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ อ. จำกัด (มหาชน) ให้แก่โจทก์แล้ว ดังนั้น จำเลยย่อมยกข้อต่อสู้ที่มีต่อผู้โอนขึ้นต่อสู้โจทก์ผู้รับโอนว่าจำเลยเป็นหนี้กู้ยืมโจทก์ตามคำให้การได้