พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5229/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีค่าโฆษณา: ข้อตกลงรับทำการงานและกำหนดอายุความสองปีตามมาตรา 193/34(7) พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์
ตามสัญญาที่โจทก์ทำขึ้นกับจำเลยเป็นการที่โจทก์รับจะโฆษณางานเพลงของจำเลย โดยจำเลยตกลงจะชำระเงินตอบแทนให้แก่โจทก์ในงานที่ได้ทำขึ้นนั้น ข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงรับทำการงานให้แก่จำเลย การที่โจทก์เรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ค่าโฆษณาจึงเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่างๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นรวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไปก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(7) จึงมีกำหนดอายุความสองปี เมื่อโจทก์สามารถบังคับสิทธิเรียกร้องในค่าโฆษณาช่วงเดือนธันวาคม 2537 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2537 การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ 27 ธันวาคม 2539 ซึ่งเกินกำหนดสองปีแล้ว ฟ้องโจทก์ในส่วนนี้ย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหนี้บัตรเครดิต: การทดรองจ่ายและเรียกเก็บเงินคืนภายใต้ม.193/34(7) พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์
ธนาคารโจทก์ประกอบธุรกิจในการให้บริการแก่บุคคลทั่วไปในรูปบัตรเครดิตโดยโจทก์ออกบัตรให้แก่ลูกค้าที่สมัครเป็นสมาชิกของโจทก์เมื่อเป็นสมาชิกบัตรเครดิตของโจทก์แล้วสามารถนำบัตรไปซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีข้อตกลงรับบัตรของโจทก์โดยสมาชิกไม่ต้องชำระราคาสินค้าเป็นเงินสดแต่โจทก์จะเป็นผู้ออกเงินสำรองชำระค่าสินค้าให้แก่ร้านค้าไปก่อนตามที่ร้านค้าได้ส่งใบบันทึกการขายมาเรียกเก็บเงินจากโจทก์จากนั้นโจทก์จึงเรียกเก็บเงินจากสมาชิกภายหลังและสมาชิกบัตรเครดิตของโจทก์ยังสามารถนำบัตรเครดิตดังกล่าวไปถอนเงินสดจากเครื่องเบิกถอนเงินอีกภายหลังตามจำนวนที่โจทก์ได้แจ้งให้สมาชิกทราบในใบแจ้งยอดบัญชีในแต่ละงวดหากไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ระบุไว้สมาชิกบัตรดังกล่าวจะต้องชำระเบี้ยปรับและดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้กับโจทก์การให้บริการแก่สมาชิกบัตรของโจทก์ดังกล่าวโจทก์เรียกเก็บค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมสำหรับบัตรเครดิตจากสมาชิกด้วยถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจโดยรับทำการงานต่างๆให้แก่สมาชิกและการที่โจทก์ชำระเงินแก่เจ้าหนี้ของสมาชิกแทนสมาชิกไปก่อนแล้วเรียกเก็บเงินคืนจากสมาชิกในภายหลังนั้นก็เป็นการเรียกเอาค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปจึงเป็นกรณีต้องด้วยบทบัญญัติในมาตรา193/34(7)แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งการเรียกเอาเงินที่ได้ออกทดรองไปตามบทบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้มีอายุความ2ปี จำเลยนำบัตรเครดิตไปใช้ครั้งสุดท้ายในวันที่17มกราคม2536โจทก์ส่งใบแจ้งยอดบัญชีเรียกเก็บไปยังจำเลยแต่จำเลยไม่ชำระและโจทก์ได้แจ้งยกเลิกการเป็นสมาชิกบัตรเครดิตตั้งแต่วันที่21เมษายน2536แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่9พฤศจิกายน2538พ้นกำหนด2ปีแล้วสิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าเสียหายสินค้าสูญหายจากการขนส่งทางทะเล: ใช้มาตรา 624 พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์
อายุความฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าหรือสิ่งของที่ขนส่งทางทะเล ต้องนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 624 ซึ่งเป็นบทบัญญัติในบรรพ 3 ลักษณะ 8 หมวด 1 ว่าด้วยรับขนของ อันเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาปรับคดีตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 วรรคสามปรากฏว่าผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับตราส่งรับสินค้าไปเมื่อ พ.ศ. 2522และ 2523 โจทก์รับช่วงสิทธิจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับตราส่งมาฟ้องเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2526 คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ.