พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4058/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม่ชัดเจน: ศาลต้องฟังพยานก่อนชี้ขาดเนื้อที่ดินและบริเวณที่ขาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงขายที่ดินเลขที่ 442 ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ส่วนทางทิศเหนือให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง คิดเป็นเนื้อที่ 1 งาน 94 ตารางวา แต่สัญญาจะซื้อจะขายที่โจทก์แนบสำเนามาท้ายฟ้องระบุแต่เพียงว่าคู่สัญญาตกลงซื้อขายที่ดินแปลงหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ระบุเนื้อที่และที่ตั้งของที่ดินและไม่ได้ระบุว่าเป็นที่ดินตามฟ้อง การที่จำเลยให้การว่าตามสัญญาดังกล่าวจำเลยตกลงขายให้เฉพาะบริเวณที่เป็นที่ปลูกสร้างเรือนและยุ้งข้าว ไม่ได้กำหนดเนื้อที่จำนวนแน่นอนเท่าใดดังโจทก์ฟ้องถือได้ว่าจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ในเรื่องจำนวนเนื้อที่ดินและบริเวณที่ดินที่จำเลยจะขายให้โจทก์โดยชัดแจ้งแล้ว ชอบที่ศาลจะฟังพยานหลักฐานของคู่ความให้สิ้นกระแสความเสียก่อนจึงวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง: การโต้แย้งดุลพินิจศาลในการฟังพยานและลงโทษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยในความผิดแต่ละกระทงไม่เกิน1ปีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามป.วิ.อ.มาตรา218 ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าเจ้าพนักงานจับกุมตัวจำเลยตามที่ผู้เสียหายแจ้งจำเลยหลบหนีไประหว่างที่เจ้าพนักงานควบคุมตัวจำเลยจำเลยฎีกาโต้แย้งว่าตามคำเบิกความของพยานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่ามีการจับกุมตัวจำเลยข้อโต้แย้งของจำเลยเป็นการโต้แย้งในเรื่องการฟังพยานว่าควรจะฟังไปในทางใด ซึ่งเป็นดุลพินิจในการฟังพยานหลักฐานอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานเบิกความขัดแย้ง เหตุผลไม่สมเหตุสมผล และการฟังพยานด้วยความระมัดระวัง
จำเลยกับผู้เสียหายมีสาเหตุโกรธเคืองกัน ผู้เสียหายแจ้งตำรวจจับจำเลยก็เพียงสงสัยว่าจำเลยเป็นผู้ตัดฟันต้นยางไม่ใช่แจ้งเพราะ ทราบจากภริยา ชั้นสืบพยานภริยาผู้เสียหายเบิกความว่าเห็นจำเลย ตัดฟันต้นยางของผู้เสียหาย แต่ไม่บอกให้ผู้เสียหายทราบ ดังนี้ ประจักษ์พยานโจทก์มีภริยาผู้เสียหายปากเดียว และเคยมีสาเหตุ โกรธเคืองกัน จึงต้องฟังด้วยความระมัดระวัง ทั้งคำเบิกความขาดเหตุผล จึงรับฟังลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพกับการฟังพยานโจทก์ในคดีอัตราโทษสูงกว่า 10 ปี ศาลต้องฟังพยานเสมอ
ในคดีที่กฎหมายบัญญัติลงโทษจำเลย มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี นั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาล ก็ต้องฟังพยานโจทก์ต่อไป เพียงแต่โจทก์ส่งคำรับสารภาพชั้นสอบสวนแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ และพิพากษาคดีนั้นยังไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 176.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพกับหน้าที่การฟังพยานในคดีอัตราโทษสูงกว่า 10 ปี
ในคดีที่กฎหมายบัญญัติลงโทษจำเลย มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี นั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาลก็ต้องฟังพยานโจทก์ต่อไป เพียงแต่โจทก์ส่งคำรับสารภาพชั้นสอบสวนแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ และพิพากษาคดีนั้นยังไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินยังไม่จดทะเบียน & สิทธิครอบครองจากการชำระราคา - ศาลต้องฟังพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินส่วนของโจทก์ตามที่มีชือในโฉนดคืนจากจำเลย ๆต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่ดินส่วนของโจทก์ให้จำเลยแล้วและมอบที่ดินส่วนนั้นให้จำเลยครอบครองไปจนกว่าจะได้จัดการโอนกรรมสิทธิให้แก่จำเลย ดังนี้ ประเด็นย่อมมีถึงว่าจำเลยจะมีสิทธิยึดถือที่ดินรายนี้ไว้ได้ต่อไปหรือไม่ด้วย ฉะนั้นศาลจำต้องฟังคำพยานโจทก์และจำเลยตามฟ้องและคำให้การต่อสู้ก่อน จะงดสืบพยานเสียโดยตัดสินให้จำเลยคืนที่ดินแก่โจทก์เพราะถือว่าโจทก์มีชื่อในโฉนดและการซื้อขายมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริตและการครอบครองปรปักษ์ ศาลต้องฟังพยานทั้งสองฝ่าย
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินและเรือนจาก ป.กับได้โอนโฉนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยเข้าครอบครองโดยไม่มีสิทธิ ขอให้ขับไล่จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ซื้อไปโดยไม่สุจริตโดยโจกท์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยเป็นเจ้าของครอบครองขณะโจทก์รับโอนดังนี้ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโดยเห็นว่า โฉนดมีชื่อ ป.เป็นเจ้าของโจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องไปรู้ถึงการครอบครองของจำลเย แล้วพิพากษาขับไล่จำเลย หาชอบไม่ ศาลต้องดำเนินการ การพิจารณาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายที่ดินไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทน ศาลต้องฟังพยานเพื่อพิสูจน์ความสุจริต
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขายนาให้โจทก์ โจทก์ชำระราคาแล้ว จำเลยที่ 1 กลับโอนนาให้แก่จำเลยที่ 2-3 โดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทนขอให้ศาลเพิกถอนและบังคับให้จำเลยโอนขายให้แก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยให้การว่า การโอนระหว่างจำเลยเป็นไปโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนประเด็นจึงมีว่า การโอนระหว่างจำเลยเป็นไปโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนหรือไม่ ซึ่งต้องฟังคำพยานต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133-134/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รวมคดีเหตุเดียวกัน ฟังพยานหลักฐานรวมกันได้ แม้ฟ้องต่างสำนวน ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยได้
คดีอาญาราษฎรและอัยการต่างเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในกรณีเหตุอันเดียวกันนั้น ถ้าศาลสั่งให้รวมการพิจารณาคดีเป็นคดีเดียวกันแล้วการฟังคำพยานหลักฐานก็รวมเป็นคดีเดียวกันได้ ไม่ต้องแยกว่าเป็นพยานของสำนวนไหน