พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อันตรายสาหัสจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความรุนแรงของการบาดเจ็บต่อฟันและการป่วยเจ็บ
จำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้เสียหายจนฟันหลุดไป 1 ซี่ และจำเลยที่ 2 ใช้ให้ บ.ทำร้ายผู้เสียหายจนฟันหลุดไป 2 ซี่ เมื่อถูกทำร้ายแล้วผู้เสียหายเพียงแต่รับประทานอาหารไม่ได้ตามปกติเท่านั้น ยังใช้ฟันที่เหลือเคี้ยวอาหารได้อยู่บ้าง แต่ไม่อาจเคี้ยวได้เหมือนเดิม ส่วนที่ผู้เสียหายว่าป่วยเจ็บเกิน 20 วัน ก็ไม่ได้ความว่าป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อันตรายสาหัสจากการสูญเสียอวัยวะ ฟันสูญเสีย 1 ซี่ ไม่ถึงเกณฑ์อันตรายสาหัสตามกฎหมาย
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297(3) เจตนารมณ์ของกฎหมายมุ่งหมายถึงการก่อให้เกิดอันตรายแก่กายที่สูญเสียอวัยวะสำคัญ ๆ ของร่างกาย เช่นที่ระบุไว้ในกฎหมายนั้น ดังนั้น การสูญเสียอวัยวะอื่นใดตามมาตรา 297(3) ก็ต้องเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อร่างกายหรือต้องสูญเสียไปถึงขนาดเทียบเท่าเสีย แขน ขา มือ เท้า นิ้ว ตามที่กฎหมายระบุไว้แล้ว มิใช่ว่าเสียอวัยวะส่วนใด ๆ ก็เป็นอันตรายสาหัสเช่นเดียวกันทั้งหมดไม่
โจทก์ต้องเสียฟันไปเพียงซี่เดียว แม้ฟันจะเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่เฉพาะเท่าที่เสียไป ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือได้ว่ามีความสำคัญหรือการสูญเสียเทียบเท่ากับการเสีย แขน ขา มือ เท้า หรือนิ้ว อันเป็นอวัยวะที่กฎหมายระบุไว้ชัดแจ้งนั้น จะนับว่าโจทก์ได้รับอันตรายสาหัสตามความในมาตรา 297(3) บัญญัติไว้ยังไม่ได้
ข้อที่ว่า ฟันที่ต้องเสียไป 1 ซี่นี้อยู่ด้านหน้าทำให้รูปหน้าเสียโฉมติดตัว เป็นอันตรายสาหัสตามมาตรา 297(4) นั้น โจทก์มิได้บรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษจำเลยในข้อนี้ จึงมิใช่ข้อกฎหมายที่โจทก์จะยกขึ้นว่ากล่าวได้เลย.
โจทก์ต้องเสียฟันไปเพียงซี่เดียว แม้ฟันจะเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่เฉพาะเท่าที่เสียไป ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือได้ว่ามีความสำคัญหรือการสูญเสียเทียบเท่ากับการเสีย แขน ขา มือ เท้า หรือนิ้ว อันเป็นอวัยวะที่กฎหมายระบุไว้ชัดแจ้งนั้น จะนับว่าโจทก์ได้รับอันตรายสาหัสตามความในมาตรา 297(3) บัญญัติไว้ยังไม่ได้
ข้อที่ว่า ฟันที่ต้องเสียไป 1 ซี่นี้อยู่ด้านหน้าทำให้รูปหน้าเสียโฉมติดตัว เป็นอันตรายสาหัสตามมาตรา 297(4) นั้น โจทก์มิได้บรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษจำเลยในข้อนี้ จึงมิใช่ข้อกฎหมายที่โจทก์จะยกขึ้นว่ากล่าวได้เลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความรุนแรงของการทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(3) โดยพิจารณาจากผลกระทบต่อการใช้งานอวัยวะ
คำว่า อวัยวะอื่นใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(3)หมายถึง อวัยวะส่วนสำคัญ เช่น แขน ขา มือ เท้า นิ้วดังระบุไว้ในตอนต้น
ฟันทั้งหมดในปากรวมกันก็เป็นอวัยวะส่วนสำคัญ ถ้าฟันหักไปหลายซี่ เป็นเหตุให้ส่วนที่เหลืออยู่ใช้การไม่ได้ตามสภาพของฟัน เช่นเคี้ยวอาหารไม่ได้ไปแถบหนึ่งก็ถือได้ว่าเป็นการเสียอวัยวะส่วนสำคัญอันเป็นอันตรายสาหัสเพียงแต่ได้ความว่าฟันแท้บนด้านหน้าหักไป 3 ซี่จะถือว่าเป็นการเสียอวัยวะส่วนสำคัญยังมิได้เว้นแต่โจทก์จะนำสืบให้เห็นว่าเมื่อถูกทำร้ายแล้วผู้เสียหายใช้ฟันที่เหลืออยู่เคี้ยวอาหารไม่ได้ตามนัยที่กล่าวข้างต้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 22/2508)
ฟันทั้งหมดในปากรวมกันก็เป็นอวัยวะส่วนสำคัญ ถ้าฟันหักไปหลายซี่ เป็นเหตุให้ส่วนที่เหลืออยู่ใช้การไม่ได้ตามสภาพของฟัน เช่นเคี้ยวอาหารไม่ได้ไปแถบหนึ่งก็ถือได้ว่าเป็นการเสียอวัยวะส่วนสำคัญอันเป็นอันตรายสาหัสเพียงแต่ได้ความว่าฟันแท้บนด้านหน้าหักไป 3 ซี่จะถือว่าเป็นการเสียอวัยวะส่วนสำคัญยังมิได้เว้นแต่โจทก์จะนำสืบให้เห็นว่าเมื่อถูกทำร้ายแล้วผู้เสียหายใช้ฟันที่เหลืออยู่เคี้ยวอาหารไม่ได้ตามนัยที่กล่าวข้างต้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 22/2508)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณา 'อันตรายสาหัส' ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297: การสูญเสียฟันไม่ถือเป็นอันตรายสาหัส
การถูกกระทำร้ายถึงเสียอวัยวะที่จะถือว่าเป็นอันตรายสาหัสตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 คำว่า อวัยวะอื่นใดในอนุมาตรา 3 นั้น ย่อมหมายถึงอวัยวะอื่นนอกจากที่ระบุไว้ ซึ่งต้องเป็นอวัยวะที่สำคัญเช่นกันและเมื่อสูญเสียอวัยวะนั้นไปแล้ว ย่อมเป็นเหตุให้ผู้ได้รับอันตรายกลายเป็นคนพิการไปด้วย
การที่จำเลยขับรถโดยประมาทชนรถผู้อื่นทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บฟันหัก 1 ซี่นั้น ยังถือไม่ได้ว่าได้รับอันตรายสาหัสตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
การที่จำเลยขับรถโดยประมาทชนรถผู้อื่นทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บฟันหัก 1 ซี่นั้น ยังถือไม่ได้ว่าได้รับอันตรายสาหัสตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า: การฟันผู้ตายด้วยความเชื่อเรื่องคงกะพันชาตรี ไม่ถือเป็นเจตนาฆ่า
จำเลยฟันผู้ตายที่โคนขา โดยเชื่อว่าอยู่คงกะพันชาตรีและฟันแต่เพียงทีเดียว ผู้ตายถึงแก่ความตาย เช่นนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย มีความผิดตามมาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำต่อเนื่อง: ยิงแล้วกลับมาฟันจนเสียชีวิต ไม่ถือเป็นการทรมาน
ใช้ปืนยิง เขาแล้ว ต่อมาอีกหลายชั่วโมงกลับไปดูเห็นเขานอนครางอยู่จึงใช้มีดฟันเขาตายดังนี้ ไม่เรียกว่าทรมานหรือกระทำให้ผู้ตายได้รับความลำบากอย่างสาหัสตามมาตรา 250(4)