พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความพิกัดอัตราศุลกากรแผ่นเพลทกับฟิล์ม: สินค้าใดได้รับการลดหย่อนอากร
กรรมวิธีในการทำภาพในแผ่นแม่พิมพ์หรือเพลท จะต้องใช้ฟิล์มโพสซิติปทาบกับแผ่นเพลท แล้วปิดด้วยกระจกอัดให้ฟิล์มสนิทนแน่นกับแผ่นเพลทโดยวิธีดูดลม จากนั้นจึงฉายแสงอุลตราไวโอเลตผ่านฟิล์ม แล้วนำแผ่นเพลทไปล้างด้วยสารละลายจึงจะปรากฏภาพบนแม่พิมพ์หรือเพลทนั้น ดังนั้น เมื่อโจทก์นำเข้าแผ่นอะลูมิเนียมเคลือบสารไวแสงใช้ทำเป็นแม่พิมพ์ สินค้าดังกล่าวจึงเป็นแผ่นเพลทสำหรับใช้ทำแม่พิมพ์ มิใช่ฟิล์มสำหรับใช้ในการทำแม่พิมพ์ตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่ 37.01 ข. จึงมิได้รับการลดอัตราอากรจากอัตราร้อยละ 40 ลงเหลือร้อยละ 10 ตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.4/2515 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2515 ที่ใช้บังคับขณะนำเข้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ "ฟิล์ม" ในประกาศลดอัตราอากรศุลกากร กรณีแผ่นอะลูมิเนียมเคลือบสารไวแสง ไม่เข้าข่ายได้รับการลดหย่อน
จำเลยได้นำเข้าแผ่นอะลูมิเนียมเคลือบสารไวแสงหรือแผ่นเพลทสำหรับใช้ในการทำแม่พิมพ์ โดยกรรมวิธีในการทำภาพให้ปรากฏบนแผ่นเพลทดังกล่าวจะต้องใช้ฟิล์มโพสซิติป ทาบกับแผ่นเพลท แล้วปิดด้วยกระจกอัดแน่นโดยใช้วิธีดูด เพื่อให้ฟิล์มสนิทแน่นกับแผ่นเพลท จากนั้นก็จะฉายแสงอุลตร้าไวโอเลต ผ่านฟิล์มนั้นและนำแผ่นเพลท ไปล้างด้วยสารละลายที่เป็นด่าง ก็จะปรากฏภาพบนแผ่นเพลท ที่จะนำไปใช้เป็นแม่พิมพ์ได้ แผ่นเพลท ที่จำเลยนำเข้าจึงมิใช่ฟิล์มสำหรับใช้ในการทำแม่พิมพ์ไม่ได้รับการลดอัตราอากรขาเข้าจากร้อยละ 40 ลงเหลือร้อยละ 10 ตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.4/2515 ลงวันที่ 7กรกฎาคม 2515 ที่ใช้บังคับในขณะนำเข้า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความพิกัดอัตราศุลกากร: แผ่นเพลท vs. ฟิล์มสำหรับทำแม่พิมพ์ และสิทธิในการลดหย่อนอัตราอากร
กรรมวิธีในการทำภาพในแผ่นแม่พิมพ์หรือเพลท จะต้องใช้ฟิล์มโพสซิติปทาบกับแผ่นเพลท แล้วปิดด้วยกระจกอัดให้ฟิล์มสนิทนแน่นกับแผ่นเพลทโดยวิธีดูดลม จากนั้นจึงฉายแสงอุลตราไวโอเลตผ่านฟิล์ม แล้วนำแผ่นเพลทไปล้างด้วยสารละลายจึงจะปรากฏภาพบนแม่พิมพ์หรือเพลทนั้น ดังนั้น เมื่อโจทก์นำเข้าแผ่นอะลูมิเนียมเคลือบสารไวแสงใช้ทำเป็นแม่พิมพ์ สินค้าดังกล่าวจึงเป็นแผ่นเพลทสำหรับใช้ทำแม่พิมพ์ มิใช่ฟิล์มสำหรับใช้ในการทำแม่พิมพ์ตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่ 37.01ข. จึงมิได้รับการลดอัตราอากรจากอัตราร้อยละ 40 ลงเหลือร้อยละ 10 ตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.4/2515 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม2515 ที่ใช้บังคับขณะนำเข้า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายลิขสิทธิ์ฟิล์ม: แม้ฟิล์มเสื่อมสภาพ โจทก์ต้องรับคืน ไม่สามารถเรียกค่าเสียหายแทนได้
หลังจากพ้นกำหนดเวลาคืนทรัพย์ตามสัญญาแล้วโจทก์ได้ให้ทนายความมีหนังสือถึงจำเลยเตือนให้ส่งทรัพย์คืนหรือให้ใช้ค่าเสียหายตามสัญญานั้นแสดงว่าโจทก์ยังให้โอกาสจำเลยปฏิบัติตามสัญญาได้โจทก์จึงจะถือเอาเหตุที่จำเลยไม่ส่งทรัพย์คืนตามวันที่กำหนดไว้ในสัญญาเป็นข้ออ้างว่าจำเลยผิดสัญญาจะต้องชดใช้ค่าเสียหายแต่ประการเดียวโดยไม่ยอมรับทรัพย์คืนหาได้ไม่
ข้อสัญญาระบุว่า เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วจำเลยจะต้องนำทรัพย์มาคืนไม่ว่าทรัพย์นั้นจะอยู่ในสภาพใดนั้นแม้ทรัพย์ที่นำมาคืนจะอยู่ในสภาพที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้วก็ตาม โจทก์ก็ต้องรับคืนจะเกี่ยงเรียกค่าเสียหายแทนหาได้ไม่
ข้อสัญญาระบุว่า เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วจำเลยจะต้องนำทรัพย์มาคืนไม่ว่าทรัพย์นั้นจะอยู่ในสภาพใดนั้นแม้ทรัพย์ที่นำมาคืนจะอยู่ในสภาพที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้วก็ตาม โจทก์ก็ต้องรับคืนจะเกี่ยงเรียกค่าเสียหายแทนหาได้ไม่