คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องขอคืนภาษี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2758/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องขอคืนภาษีศุลกากร: การยินยอมชำระภาษีเกินและผลกระทบต่ออายุความ
โจทก์นำน้ำมันปาล์มแข็งบริสุทธิ์เข้ามา โดยระบุพิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่ 15.13 อัตราอากรร้อยละ 60 ในใบขนสินค้าขาเข้า พร้อมกับบันทึกโต้แย้งว่า สินค้าพิพาทจัดอยู่ในพิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่ 15.12 ค อ้างว่าจำเป็นต้องยอมเสียภาษีอากรตามพิกัดดังกล่าว มิฉะนั้นจะไม่สามารถนำสินค้าออกมาได้เช่นนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ยินยอมเสียภาษีอากรเกินจำนวนไปกว่าที่โจทก์เห็นว่าต้องเสียจริง เพราะเหตุอันเกี่ยวกับชนิดและอัตราอากรสำหรับสินค้าพิพาทนั่นเอง มิใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการประเมินภาษีอากรของเจ้าหน้าที่ ดังนั้น โจทก์จึงต้องฟ้องคดีภายในสองปีนับแต่วันที่นำของเข้า มิฉะนั้นคดีของโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 10 วรรคห้าแห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2418/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขอคืนภาษีการค้า กรณีสินค้าไม่เข้าข่ายยกเว้นภาษี และการประเมินภาษี
โจทก์นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อนำเข้าโจทก์ยื่นแบบใบขนสินค้า และแบบแสดงรายการการค้า และชำระภาษีศุลกากร ภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาล พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรตรวจแบบที่ยื่นถูกต้องแล้วรับเงินภาษีอากรที่โจทก์ขอชำระ ดังนี้ แม้ในส่วนภาษีการค้าพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรจะได้กระทำแทนกรมสรรพากรก็หาใช่เป็นการประเมินภาษีตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 87 ไม่ จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา 30 เสียก่อนฟ้องเมื่อโจทก์เห็นว่าสินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นสินค้าอันได้รับยกเว้นภาษีการค้า และโจทก์มีหนังสือขอคืนเงินภาษีดังกล่าวแล้ว แต่กรมศุลกากรและกรมสรรพากรไม่ยอมคืนให้โจทก์มีอำนาจฟ้องได้
เครื่องจักรพร้อมทั้งส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องจักรของโจทก์นั้น โจทก์ได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรทำการใช้งานผลิตสินค้าเป็นเวลานานแล้ว ส่วนสินค้าที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งนี้มิใช่ส่วนประกอบหรืออุปกรณ์เครื่องจักรที่ใช้อยู่ แต่เป็นส่วนประกอบหรืออุปกรณ์ที่สั่งเข้ามาภายหลังเพื่อใช้ทดแทนของเก่าที่ชำรุด จึงหาใช่สินค้าที่เป็นเครื่องจักรส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องจักรอันจะได้รับยกเว้นภาษีตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ตรี(11)ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4069/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน: ผู้รับประเมินต้องยื่นคำขอยกเว้นตามกฎหมายก่อน หากไม่ทำ ไม่มีสิทธิฟ้องขอคืนภาษีย้อนหลัง
โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่า การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินไม่ชอบเนื่องจากโรงเรือนที่โจทก์ต้องเสียภาษีมีตามจำนวนที่แจ้งไว้ในปีภาษี 2545 และปีภาษี 2546 เท่านั้น ส่วนโรงเรือนอื่นในพื้นที่ของโจทก์ไม่ได้ใช้งานและไม่ได้ใช้เป็นที่ไว้สินค้าและประกอบการอุตสาหกรรม จึงเป็นการฟ้องขอคืนเงินค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินโดยอ้างว่าโรงเรือนอื่นของโจทก์นอกจากที่แจ้งไว้ในปีภาษี 2545 และปีภาษี 2546 ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินตามมาตรา 9 (5) ซึ่งเป็นบทบัญญัติในภาค 1 ของ พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 อันเป็นหน้าที่ของโจทก์ในฐานะผู้รับประเมินที่จะต้องจัดทำคำขอยกเว้นภาษียื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 เพื่อที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนให้แน่นอนก่อนว่าทรัพย์สินที่พิพาทควรได้รับยกเว้นภาษีหรือไม่ หากพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 มีคำสั่งยกคำขอยกเว้นภาษี โจทก์ก็มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้จำเลยที่ 2 พิจารณาชี้ขาดและฟ้องคดีต่อศาลตามลำดับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดตามมาตรา 34 ประกอบมาตรา 25 และมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 เพื่อให้พิจารณายกเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินสำหรับโรงเรือนพิพาท และการที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาการประเมินใหม่ในคดีนี้ก็เป็นการโต้แย้งการประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่จำเลยที่ 1 ตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มิใช่การยื่นคำร้องขอให้จำเลยที่ 2 พิจารณาคำชี้ขาดของพนักงานเจ้าหน้าที่จำเลยที่ 1 ตามมาตรา 34 ประกอบมาตรา 25 และมาตรา 26 ที่สืบเนื่องมาจากการขอยกเว้นค่าภาษีตามมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาลเพื่อโต้แย้งว่าโรงเรือนที่พิพาทได้รับยกเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินในปีภาษีพิพาทได้อีกตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 33 และมาตรา 34 ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 29 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) และมาตรา 246 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องในประเด็นนี้