พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2249/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิประทานบัตรแร่ไม่ได้สร้างสิทธิครอบครอง การฟ้องบุกรุกต้องเป็นผู้ครอบครอง
สิทธิของโจทก์ตาม ประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่ ดีบุกมีเพียงที่พระราชบัญญัติแร่ฯมาตรา73บัญญัติไว้และการปักป้ายหลักเขตกับป้ายที่เขียนแสดงแนวเขตที่ประทานบัตรเป็นเพียงเครื่องหมายแสดงอาณาเขตให้ทราบโดยทั่วไปว่าเขตประทานบัตรมีอยู่แค่ไหนเพียงใดส่วนสิทธิในการเตรียมการทำเหมืองตามมาตรา58เป็นเพียงสิทธิที่จะกระทำการต่างๆตามที่ระบุไว้สำหรับข้อความตามมาตรา73(4)ที่ว่าผู้ถือประทานบัตรมีสิทธินำคดีขึ้นสู่ศาลในกรณีที่มีผู้โต้แย้งหรือขัดขวางสิทธิในการทำเหมืองก็เป็นเรื่องที่โจทก์จะดำเนินการนำคดีขึ้นสู่ศาลในกรณีอื่นที่มิใช่ความผิดฐาน บุกรุกตามที่ฟ้องเมื่อจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทตลอดมาและที่ดินตามประทานบัตรในส่วนที่จำเลยบุกรุกโจทก์ยังมิได้เปิดทำเหมืองเลยถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้เข้าครอบครองที่พิพาทแล้วจึงย่อมมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยและ ไม่มี อำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2899/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องคดีบุกรุก: การระบุรายละเอียดการบุกรุกตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องเป็นเพียงพอ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกล้อมรั้วเข้าไปในเขตที่ดินของโจทก์เนื้อที่ประมาณ 12 ถึง 15 ตารางวา ตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง แผนที่สังเขปท้ายฟ้องเป็นส่วนของของฟ้องด้วยเมื่อพิจารณาคำฟ้องประกอบกับแผนที่สังเขปนั้นแล้วสามารถเข้าใจได้ว่า โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยบุกรุกโดยวิธีล้อมรั้วเข้าไปทางทิศเหนือของที่ดินของโจทก์ รวมทั้งความยาวของที่ดินทั้ง 4 ด้าน ที่จำเลยบุกรุกด้วย ฟ้องของโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินราชพัสดุ: ผู้ครอบครองไม่มีสิทธิฟ้องบุกรุก แม้ครอบครองนานปี
ที่ราชพัสดุเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุฯ บัญญัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แม้โจทก์จะครอบครองมานานเพียงใดก็ไม่ได้สิทธิในที่ดินดังกล่าวตามกฎหมาย ทั้งยังอาจถูกฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดินและประมวลกฎหมายอาญาอีกด้วย โจทก์จึงไม่เป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะฟ้องจำเลยในข้อหาบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินรัฐจัดสรร: สิทธิไม่สมบูรณ์, โอนขายไม่ได้, ฟ้องบุกรุกไม่ได้
ที่ดินของรัฐซึ่งเดิมเป็นที่รกร้างว่างเปล่า อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304(1) แม้ทางราชการจะนำมาจัดสรรให้ราษฎรเข้าทำกินจ. เป็นผู้จับสลากได้ตามระเบียบว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อประชาชนที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20(6), 27, 33 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินแต่จะยังมิได้รับใบจอง เพียงแต่นำหลักไปปักเป็นเขตไว้โดยมิได้ทำประโยชน์อะไร จ. หาได้ที่ดินเป็นสิทธิของตนโดยสมบูรณ์ไม่ ที่ดินแปลงนี้ยังเป็นที่ดินของรัฐและอธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจสั่งให้ จ. ออกจากที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 32 ได้ จ. ไม่มีสิทธิที่จะโอนขายให้แก่โจทก์ แม้โจทก์ได้รับโอนไว้และครอบครองมาโจทก์ก็หาเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินรัฐจัดสรรยังไม่เป็นสิทธิสมบูรณ์ โจทก์ซื้อต่อไม่มีสิทธิฟ้องบุกรุก
ที่ดินของรัฐซึ่งเดิมเป็นที่รกร้างว่างเปล่า อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1304(1) แม้ทางราชการจะนำมาจัดสรรให้ราษฎรเข้าทำกินจ. เป็นผู้จับสลากได้ตามระเบียบว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อประชาชนที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20(6),27,33 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินแต่จะยังมิได้รับใบจอง เพียงแต่นำหลักไปปักเป็นเขตไว้โดยมิได้ทำประโยชน์อะไร จ. หาได้ที่ดินเป็นสิทธิของตนโดยสมบูรณ์ไม่ ที่ดินแปลงนี้ยังเป็นที่ดินของรัฐและอธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจสั่งให้ จ. ออกจากที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 32 ได้ จ. ไม่มีสิทธิที่จะโอนขายให้แก่โจทก์ แม้โจทก์ได้รับโอนไว้และครอบครองมาโจทก์ก็หาเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องบุกรุกต้องระบุเจตนา หากขาดรายละเอียดสำคัญ ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา ฟ้องไม่ชอบ
คำบรรยายฟ้องหาว่าทำผิดฐานบุกรุกตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.327 นั้น โจทก์ต้องกล่าวด้วยว่าจำเลยเจตนาจะมิให้ผู้อื่นได้ปกครองทรัพย์หรือเพื่อจะเข้าครอบครองทรัพย์ มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ขาดรายละเอียด ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหาได้ดีพอ.
เทียบเคียง ฎีกาที่ 912/2492,(1549/2493).
เทียบเคียง ฎีกาที่ 912/2492,(1549/2493).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องบุกรุกต้องระบุเจตนาชัดเจน หากขาดรายละเอียดฟ้องไม่ชอบ
คำบรรยายฟ้องหาว่าทำผิดฐานบุกรุกตามกฎหมายลักษณะอาญาม.327 นั้น โจทก์ต้องกล่าวด้วยว่าจำเลยเจตนาจะมิให้ผู้อื่นได้ปกครองทรัพย์หรือเพื่อจะเข้าครอบครองทรัพย์มิฉะนั้นเป็นฟ้องที่ขาดรายละเอียดทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหาได้ดีพอ(เทียบเคียงฎีกาที่ 912/2492,1549/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุสถานที่ในฟ้องบุกรุกชัดเจนพอสมควร แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดทั้งหมด
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยบุกรุกที่นาของนายกูดภูแซมโชติที่ตำบลอีตื้อ อำเภอยางตลาดเขตศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และจำเลยได้ให้การแก้คดีว่า เป็นนาซึ่งนางจันทร ได้แบ่งและยกให้จำเลย ดังนี้ ถือได้ว่า ฟ้องได้ระบุสถานที่ชัดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยในคดีเข้าใจได้ว่าเป็นนาแห่งใดแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1545/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องบุกรุกแต่ยอมรับสัญญาซื้อขาย ทำให้ฟ้องไม่มีมูล เพราะไม่มีประเด็นให้วินิจฉัย
ฟ้องว่าจำเลยบุกรุก แต่โจทก์กลับรับว่าจำเลยครอบครองที่นั้นโดยอาศัยอำนาจสัญญาซื้อขาย เป็นฟ้องที่ไม่มีมูลคดีที่จะว่ากล่าวเอากับจำเลย เพราะไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย