พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องยักยอกทรัพย์: ฟ้องสมบูรณ์แม้ไม่ระบุจำนวนเงิน หากจำเลยต่อสู้ได้
ฟ้องของโจทก์ซึ่งกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักยอก แม้จะมิได้อ้างในคำฟ้องว่าเงินที่ผู้เสียหายมอบให้แก่จำเลยเป็นเงินมัดจำซื้อบ้านจำนวนเท่าใด ต่อเติมบ้านจำนวนเท่าใดก็ตาม แต่ก็ถือเป็นฟ้องที่บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด มีข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ หากจำเลยเห็นว่าเงินที่โจทก์มอบให้จำเลยจำนวนดังกล่าวเป็นเงินค่าจ้างที่ผู้เสียหายว่าจ้างจำเลยต่อเติมบ้านให้ผู้เสียหาย จึงเป็นเงินของจำเลย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดก็เป็นข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งสามารถนำสืบหักล้างได้ในชั้นพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องยักยอกทรัพย์ แม้ไม่ได้ระบุจำนวนเงินที่ชัดเจน การพิสูจน์ข้อต่อสู้ในชั้นพิจารณา
ฟ้องของโจทก์ซึ่งกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักยอกแม้จะมิได้อ้างในคำฟ้องว่าเงินที่ผู้เสียหายมอบให้แก่จำเลยเป็นเงินมัดจำซื้อบ้านจำนวนเท่าใด ต่อเติมบ้านจำนวนเท่าใดก็ตาม แต่ก็ถือเป็นฟ้องที่บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด มีข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ หากจำเลยเห็นว่าเงินที่โจทก์มอบให้จำเลยจำนวนดังกล่าวเป็นเงินค่าจ้างที่ผู้เสียหายว่าจ้างจำเลยต่อเติมบ้านให้ผู้เสียหาย จึงเป็นเงินของจำเลย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดก็เป็นข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งสามารถนำสืบหักล้างได้ในชั้นพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3274/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องยักยอกทรัพย์: การบรรยายฟ้องที่ชัดเจนเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้รับฝากเสื้อผ้าของผู้เสียหายไว้หลายรายการ ต่อมาระหว่างวันที่ 14 มีนาคม 2525 ตลอดมาจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2525 จำเลยได้เบียดบังยักยอกเอาเสื้อผ้าที่ได้รับฝากไว้ดังกล่าวรวม 2 รายการราคา 125,000 บาท ของผู้เสียหายไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริต ดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องยักยอกไม่ชัดเจน การบรรยายฟ้องต้องระบุการกระทำที่ชัดเจนเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดฐานยักยอก โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจเบียดบังเอาทรัพย์ของผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลย โดยจำเลยเช่าจากผู้เสียหายไปเป็นของตนเองโดยทุจริต โดยมิได้ระบุการกระทำของจำเลยให้ชัดว่าจำเลยได้กระทำการอย่างใดที่โจทก์ถือว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักยอกมาพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ย่อมเป็นฟ้องเคลือบคลุม (อ้างฎีกาที่ 1057/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องยักยอกเงินภาษีไม่ชัดเจน ขาดรายละเอียดทรัพย์สิน และความรับผิดของโจทก์จากการลงชื่อรับรองเอกสาร
ฟ้องคดีอาญาที่มิได้บรรยายให้ได้ความชัดว่าจำเลยยักยอกเงินที่พวกโจทก์มอบให้จำเลยไปเสียภาษีเท่าใด คงกล่าวไว้มีใจความสำคัญแต่เพียงจำนวนเงินที่มอบให้จำเลยไป จำนวนที่ต้องเสียภาษีรายเดือน จำนวนเงินเหลือรายเดือน จำนวนที่เหลือนี้ได้ตกลงให้จำเลยเก็บรักษาไว้เสียภาษีปลายปี เมื่อโจทก์ถูกสรรพากรเรียกไปพบหาว่าเสียภาษีไม่ครบจึงทราบว่าจำเลยยักยอกเงินที่มอบไป โดยเสียภาษีไม่ครบเท่านั้น ฟ้องของโจทก์จึงขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกียวกับทรัพย์หรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับข้อหาว่าจำเลยเบียดบังยักยอกไปอันเป็นสารสำคัญ ฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
โจทก์ได้เห็นและทราบรายการที่ได้กรอกไว้ในแบบ ภ.ค.4 เพื่อชำระภาษีการค้าที่จำเลยนำมาให้โจทก์เซ็นชื่อเป็นผู้ยื่น โจทก์ได้เซ็นชื่อลงไป จึงต้องรับผิดชอบในความถูกต้องแท้จริงของข้อความตลอดจนจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษี เพราะเป็นการกระทำของโจทก์เอง
โจทก์ได้เห็นและทราบรายการที่ได้กรอกไว้ในแบบ ภ.ค.4 เพื่อชำระภาษีการค้าที่จำเลยนำมาให้โจทก์เซ็นชื่อเป็นผู้ยื่น โจทก์ได้เซ็นชื่อลงไป จึงต้องรับผิดชอบในความถูกต้องแท้จริงของข้อความตลอดจนจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษี เพราะเป็นการกระทำของโจทก์เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องยักยอกทรัพย์เคลือบคลุม หากไม่ชัดเจนเรื่องกรรมสิทธิ์ผลกำไรจากการซื้อขาย ศาลยกฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยได้รับมอบเงินเพื่อไปซื้อข้าวเปลือกไว้ขายเอากำไร แล้วนำเงินมาส่งแก่เจ้าของ จำเลยได้มีเจตนาทุจริตยักยอกเงินจำนวนดังกล่าวเสีย ดังนี้ เป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะเป็นฟ้องที่อาจตีความได้หลายนัย คือไม่กล่าวว่าผลกำไรจากการซื้อขายข้าวนั้นตกเป็นของใครจึงอาจตกเป็นของจำเลยผู้วิ่งเต้นซื้อขาย ส่วนเจ้าของเงินได้แต่ค่าป่วยการ เช่นการกู้ยืมหรือว่ากำไรนั้นแบ่งกันเป็นทำนองหุ้นส่วน หรือว่ากำไรเป็นของเจ้าของเงินแต่ผู้เดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องยักยอกทรัพย์: การสืบพยานหลักฐานขัดแย้งกับข้อกล่าวหาในฟ้อง
ในคดียักยอก โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2489 และต่อ ๆ มา จนถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2489 แต่โจทก์นำสืบว่าจำเลยทำผิดก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2489 ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่โจทก์สืบได้ย่อมต่างกับฟ้อง